มอสโกว์ประณามสหรัฐและตะวันตก “เป็นโรคประสาทหวาดผวา” และแพร่กระจายข่าวโกหกปั้นข่าวเท็จเรื่องรัสเซียจะบุกยูเครน สุดท้ายเพื่อนไม่ร่วมด้วยทั้งเยอรมัน,ฝรั่งเศสสมาชิกนาโตบางประเทศเริ่มถอยเพราะไม่ต้องการเป็นสนามรบ แม้จะระแวดระวังรัสเซียแต่ก็ไม่ต้องการสงคราม แต่ไบเดนกลับให้สัมภาษณ์สื่อ คุยโวว่าพันธมิตรยุโรปจะร่วมต้านรัสเซียถ้าบุกยูเครนซึ่งสวนทางกับคำประกาศของผู้นำเยอรมันฝรั่งเศส มีแต่อังกฤษเท่านั้นที่ยื่นหน้ามาหนุนวอชิงตันขณะที่ในประเทศเริ่มเกิดกระแสต่อต้านนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสันอย่างหนักส่อต้องลาออกหรือถูกขับไล่ ชนิดที่ตัวเขาเองก็คาดไม่ถึง
เมื่อวันจันทร์ที่ 24 ม.ค.2565 สำนักข่าวอาร์ทีรายงานว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ กล่าวภายหลังประชุมทางไกลผ่านจอภาพกับพวกผู้นำชาติพันธมิตรในยุโรปและองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต้) นานกว่าชั่วโมง ว่า อเมริกาและผู้นำยุโรปทั้งหมดมีจุดยืนเป็นหนึ่งเดียวกันโดยสิ้นเชิงพร้อมต่อต้านรัสเซียถ้าบุกยูเครน
ดมิตริ เปสคอฟ โฆษกของเครมลินฟาดกลับ สหรัฐเป็นโรคประสาทหวาดผวา และแพร่ข้อมูลข่าวสารที่เจือด้วยคำโกหก พร้อมกับบอกว่า นาโตมีแต่คำแถลงเรื่องเสริมกำลัง ดึงกำลังและทรัพยากรทางทหารไปทางปีกตะวันออกของยุโรปตลอดเวลา แล้วเรียกร้องให้รัสเซียถอนทหารของตัวเอง เปสคอฟกล่าวว่า “นี่ไม่ใช่กำลังเกิดขึ้นเนื่องจากสิ่งรัสเซียทำ สถานการณ์ตึงเครียดทั้งหมดที่กำลังเกิดขึ้นนี้ เป็นเพราะสิ่งที่นาโต้และสหรัฐฯกำลังทำอยู่ และสืบเนื่องจากข้อมูลข่าวสารเท็จที่พวกเขากำลังแพร่กระจายออกไปอย่างไม่จบสิ้น”
ทางด้านอังกฤษ สำนักนายกรัฐมนตรีที่นั่นแถลงในทำนองเดียวกันว่า เหล่าผู้นำเห็นพ้องถึงความสัมพันธ์ในการที่นานาชาติจะเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันเพื่อรับมือการเป็นปฏิปักษ์ของรัสเซีย
ขณะที่เจนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการนาโต้ เตือนว่า รัสเซียต้องจ่ายแพงถ้ารุกรานยูเครน
ด้านนายกรัฐมนตรีโอลาฟ ชอลซ์ ของเยอรมนี กล่าวว่ายังยืนยันคัดค้านการส่งทหารและอาวุธให้ยูเครน ถึงขนาดห้ามพันธมิตรใช้น่านฟ้าของเยอรมันขนอาวุธ ด้านผู้นำฝรั่งเศสได้เรียกร้องให้มีการจัดระเบียบยุโรปใหม่ และอาสาเป็นแกนนำจับเข่าคุยรัสเซียและยูเครนเพื่อลดแรงกดดันสงคราม
ด้านรัสเซียนั้นไม่พอใจฝ่ายสหรัฐและตะวันตกที่ “ตระบัดสัตย์” ผิดคำสัญญาซึ่งให้ไว้ช่วงสหภาพโซเวียตล่มสลาย ที่ว่าจะไม่ขยายองค์การนาโต้มาทางตะวันออก โดยปัจจุบันพวกชาติในยุโรปตะวันออกซึ่งเคยเป็นอดีตสาธารณรัฐในสหภาพโซเวียตต่างเป็นสมาชิกของนาโตที่มีสหรัฐฯเป็นผู้นำและมีผลประโยชน์ผูกพันกับสหรัฐทั้งเศรษฐกิจ-การทหาร เดินหน้าต้านรัสเซียอย่างโจ่งแจ้ง ในกรณีนี้ได้ประกาศจัดซื้ออาวุธให้ยูเครนแบบใช้เงินภาษีของตัวเองซื้ออาวุธจากบริษัทยักษ์ค้าอาวุธของสหรัฐเอาใจวอชิงตัน
มอสโกว์ซึ่งมองสถานการณ์เช่นนี้เป็นภัยคุกคามตน เวลานี้กำลังเรียกร้องให้ตะวันตกรับประกันว่า จะไม่รับยูเครนที่ก็เคยเป็นหนึ่งในสาธารณรัฐสำคัญของโซเวียต เข้าเป็นสมาชิกนาโต้ ตลอดจนไม่นำเอาขีปนาวุธโจมตีมาประจำการติดพรมแดนรัสเซีย
ทว่าอเมริกาและนาโต้ปฏิเสธข้อเรียกร้องเหล่านั้น และเรียกร้องให้ปูตินถอนทหารออกจากชายแดนรัสเซียติดยูเครน โดยเตือนว่าถ้ารัสเซียบุกจะต้องเจอกับมาตรการแซงก์ชันทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรง ตลอดจนถึงการเพิ่มกำลังของนาโต้ในยุโรปตะวันออก ในข้อเท็จจริงนั้นดำเนินการไปเรียบร้อยแล้ว แต่กลับสื่อสารว่าทำเพราะรัสเซียจะบุก ดังนั้นเมื่อผ่านการเจรจา 3 ครั้ง รัสเซียเห็นชัดแล้วว่าสหรัฐมีเจตนาร้ายแน่ จึงไม่ยอมผ่อนปรนข้อเรียกร้อง กลับสั่งเตรียมพร้อมในที่ตั้งทั้งกองทัพบก-กองทัพเรือและ กองทัพอากาศ อีกทั้งประกาศซ้อมรบทั่วทุกน่านน้ำ
และล่าสุดในวันนี้ สมาชิกนาโตเริ่มออกอาการแหยงที่สหรัฐจะผลักสงครามขัดแย้งลามสู่ภูมิภาค ประกาศจะถอนทหารทันทีถ้าเกิดสงคราม โดยประธานาธิบดีโซราน มิลาโนวิชแห่งโครเอเชีย(Croatian President Zoran Milanovic) ได้ประกาศว่าซาเกร็บจะถอนทหารออกจากกองกำลังนาโตที่ประจำการอยู่ในภูมิภาคนี้ หากสถานการณ์ลุกลามไปสู่ความขัดแย้งอย่างเต็มรูปแบบ