หมอเหรียญเผยลับ“สิระ”เคยโทรหา พร้อมเฉลยเจ้าตัวหายไปไหน-ทำไมเงียบ

2657

จากที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยกรณีประธานสภาผู้แทนราษฎร ส่งคำร้องพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ขอให้วินิจฉัย สิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พปชร. มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญนั้น

โดยเป็นเหตุให้สมาชิกภาพ ส.ส.สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) จากกรณีนายสิระเคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดของศาลแขวงปทุมวัน ในคดีกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ที่กระทำโดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญาหรือไม่ โดยนายทิวา การกระสัง ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากผู้ถูกร้องมาศาลแทน โดยตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเสียงข้างมาก 7 ต่อ 2 เสียง เห็นว่านายสิระมีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ ทำให้ต้องพ้นสมาชิกภาพ ส.ส.

ทั้งนี้ศาลรัฐธรรมนูญ อ่านคำวินิจฉัยให้สมาชิกภาพ ส.ส.ของนายสิระสิ้นสุดลง ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98 (10) ประกอบมาตรา 101 (6) เนื่องจากข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า นายสิระถูกศาลแขวงปทุมวันพิพากษา เมื่อปี 2538 จำคุกจริงจำนวน 4 เดือน และผู้เสียหายไม่เคยยอมความ หรือถอนคำร้องทุกข์คดีอันเป็นเหตุให้ศาลแขวงปทุมวัน ได้จำหน่ายคดีเสียจากสารบบความภายในระยะเวลาอุทธรณ์ เช่นนี้ คำพิพากษาดังกล่าวจึงถึงที่สุดตามคำพิพากษาของศาลแขวงปทุมวัน ผู้ถูกร้องจึงเคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดว่ากระทำผิดฐานฉ้อโกง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 ซึ่งเป็นความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ กระทำโดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา

ล่าสุดวันนี้ พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ได้ออกมาโพสต์ข้อความถึงกรณีการที่หลายคนถามหาถึงนายสิระ หลังจากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยพ้นส.ส.ว่าหายไปไหนว่า

“มีหลายท่านถามว่าไอ…กุ๊ยหลักสี่หายไปไหน ทำไมมันถึงเงียบ คำตอบ คือ มั…อายครับ ที่ถูกจับได้ว่าเคยติดคุก ข้อหาทุจริตฉ้อโกงทรัพย์ ซึ่งมันรู้อยู่แก่ใจมาโดยตลอดว่ามันไม่มีสิทธิสมัครเป็น ส.ส. แต่มันอยากมีอำนาจ อยากสวมเครื่องแบบ อยากเป็นข้าราชการ

มั…เคยโทรศัพท์หาผมเมื่อ พ.ค.-มิ.ย.57 หลังการรัฐประหาร มันบอกกับผมว่า “พี่หมอ ช่วยพูดกับ หัวหน้า คสช.(พล.อ.ประยุทธ์) ผมอยากเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สมาชิกสภาปฏิรูปก็ได้

ผมตอบมันไปว่า หัวหน้า คสช.(พล.อ.ประยุทธ์) ไม่รู้จักพี่ และพี่ไม่เคยวิ่งเต้นขอตำแหน่งทั้งให้ตัวเองหรือให้ใคร

มาถึงวันนี้ผมรู้เลยว่าไอ…กุ๊ยหลักสี่มันมีปมด้อย ผมขอเรียนให้ท่านทั้งหลายทราบว่าการมีปมด้อยนั้นไม่ใช่เรื่องน่ารังเกียจนะครับ ผมก็มีปมด้อยในหลายๆเรื่องซึ่งก็ไม่เห็นเสียหายอะไร แม้แต่การที่ไอ…กุ๊ยเคยเป็นนักโทษก็ไม่ใช่เรื่องน่ารังเกียจอะไรด้วย เพียงแต่สิ่งทีมั…ทำและพฤติกรรมต่างๆนานาที่มันกระทำเมื่อมั…ได้มีโอกาสในชีวิตที่ดีนั้น มั…กลับทำในสิ่งที่สังคมรังเกียจมากประหนึ่ง ‘ไอ…กุ๊ย’ ซึ่งมันด้อยค่าตัวเอง และแสดงให้เห็นว่ามั…ไม่ได้มีการพัฒนาปมด้อยของมั…ให้ดีขึ้น กลายเป็นปมเด่นที่มีคุณประโยชน์ มีสาระต่อสังคมโดยรวมเลย กมลสันดานมั…ยังคงชั่วช้าไม่เคยเปลี่ยนแปลง

วันนี้มั…ถูกจับได้ว่าคนขี้โกหก หลอกลวง ฉ้อฉล บ้าอำนาจ เกเร ฯลฯ มันกลายเป็น สส.เก๊ ที่ได้สวมเครื่องแบบประดับเครื่องราชฯ อวดเบ่งคับบ้าน คับเมือง เสมือนเด็กเกเร บ้าเครื่องแบบ ต้องอวดเบ่งแสดงความยิ่งใหญ่ มันชอบเป็นข่าวให้คนรู้จักกล่าวขานถึง เพราะมีปมด้อยที่ต้องการฟอกตัวเอง

มั…อายมากนะครับ จึงต้องกบดาน แต่อีกไม่นานก็จะออกมาปรากฎตัวต่อสังคม แล้วตีหน้าเศร้าสร้างดราม่าให้สังคมสงสารเพื่อให้โอกาสซ้ำแล้วซ้ำเล่าอีก เชื่อผมเถิดครับว่ามั…เป็นคนหน้าไหว้ หลังหลอก คบไม่ได้ ให้โอกาสก็ไม่มีวันดี …พนันได้เลย 100 บาท เอาขี…ก้อนเดียว”