ธนาคารกลางเมียนมาประกาศการใช้เงินสกุลหยวนของจีน หรือเงินจ๊าดของเมียนมาเอง ในการทำธุรกรรมและการค้าการลงทุนเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจบริเวณพรมแดนระหว่างเมียนมาและจีนอย่างเป็นทางการ เพื่อลดผลกระทบการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจของสหรัฐและตะวันตก หลีกหนีอิทธิพลของเงินดอลลาร์สหรัฐที่ครอบงำเศรษฐกิจการค้าการลงทุนไปซบสกุลเงินหยวนและเงินท้องถิ่นตัวเอง
เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.2564 สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานจากเมืองย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา ว่าธนาคารกลางเมียนมา หรือCBM:The Central Bank of Myanmar ได้อาศัยอำนาจตามมาตรา 17-22 ของกฎหมายจัดการเงินตราต่างประเทศ ออกประกาศอนุญาตอย่างเป็นทางการ ให้สามารถใช้เงินหยวนสำหรับซื้อขายสินค้าโดยตรงได้ในพื้นที่ชายแดนพม่า-จีน โดยให้มีผลนับแต่วันที่ออกประกาศเป็นต้นไป
การดำเนินการนี้มีจุดประสงค์ เพื่อยกระดับการค้าระดับทวิภาคี การอำนวยความสะดวกการขนส่งสินค้า การเกื้อหนุนการชำระเงินข้ามพรมแดน และการส่งเสริมสกุลเงินท้องถิ่นภายใต้แนวทางการรวมกลุ่มทางการเงินของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) โดยเหล่าผู้ค้าจะได้รับอนุญาตให้เปิดบัญชีสกุลเงินหยวน ณ สถาบันการเงินที่รัฐกำหนด
ทั้งนี้ ธนาคารกลางเมียนมาอนุมัติการแลกเปลี่ยนเงินหยวนจีนอย่างเป็นทางการ ภายในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศท้องถิ่น ตั้งแต่เมื่อเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา อีกทั้งเพิ่มหยวนจีนลงในรายการสกุลเงิน ซึ่งธนาคารสามารถใช้ชำระและโอนระหว่างประเทศ เพื่อส่งเสริมการชำระเงินระหว่างประเทศและการค้าตามแนวชายแดน
ในการนี้ธนาคารกลางเมียนมาได้กำหนดให้ผู้ส่งออกและนำเข้าที่อยู่ชายแดนพม่า-จีน สามารถเปิดบัญชีที่เป็นเงินหยวนไว้กับสาขาธนาคารพาณิชย์ เพื่อใช้ชำระค่าสินค้าที่เกิดจากการซื้อขายระหว่าง 2 ประเทศ
ปัจจุบัน ด่านชายแดนพม่า-จีน ที่เป็นประตูการค้าสำคัญของ 2 ประเทศมีอยู่ 5 จุด ในรัฐชานและรัฐคะฉิ่น ตรงข้ามกับมณฑลยูนนาน ประกอบด้วย
– ด่านหมู่เจ้ รัฐชานเหนือ ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับเมืองรุ่ยลี่ เขตปกครองตนเองชนชาติไต เต๋อหง
– ด่านหล่วยแจ่ ในรัฐคะฉิ่น ตรงข้ามกับเมืองหล่งชวน เขตปกครองตนเองชนชาติไต เต๋อหง
– ด่านชิงส่วยเหอ เขตปกครองตนเองชนชาติโกก้าง รัฐชานเหนือ ตรงข้ามกับเขตปกครองตนเองชนชาติว้าและไต กึ่งม้า จังหวัดหลินชาง
– ด่านกันไป้ก์ตี ในรัฐคะฉิ่น ตรงข้ามกับนครเถิงชง จังหวัดเป่าซาน
– ด่านเมืองลา เขตพิเศษหมายเลข 4 เมืองลา จังหวัดเชียงตุง รัฐฉานตะวันออก ตรงข้ามกับเมืองฮาย เขตปกครองตนเองชนชาติไต สิบสองปันนาน
ใน 5 แห่งนั้น ด่านหมู่เจ้เป็นจุดที่มีมูลค่าการค้าชายแดนสูงที่สุด โดยในปีงบประมาณ 2563-2564 การค้าระหว่างพม่าและจีนที่ด่านหมู่เจ้ มีมูลค่า 4,057 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นการส่งออกสินค้าจากพม่าไปยังจีนประมาณ 2,900 ล้านดอลลาร์ และเป็นการนำเข้าจากจีนมาในพม่า 1,150 ล้านดอลลาร์
จีนในฐานะคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของเมียนมาและแหล่งการลงทุนจากต่างประเทศที่ใหญ่ที่สุด สามารถจัดหาแหล่งทุนที่มั่นคงสำหรับธนาคารเมียนมาในการเข้าถึงเงินหยวน เพื่อช่วยบรรเทาปัญหาทางการเงินของประเทศและฟื้นฟูการเติบโตทางเศรษฐกิจได้โดยสะดวกรวดเร็ว
เนื่องจากเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ครอบงำเศรษฐกิจการค้าระหว่างประเทศของเมียนมาโดยตลอด การเคลื่อนไหวดังกล่าวจึงเป็นก้าวสำคัญในความพยายามร่วมกันของจีนกับประเทศเพื่อนบ้านในการขยายการใช้เงินหยวนในการค้าทวิภาคีและตอบโต้การครอบงำของดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งวอชิงตันใช้เป็นอาวุธกดดันประเทศที่ตนไม่พอใจมากขึ้น นักวิเคราะห์กล่าวว่า การเคลื่อนไหวดังกล่าวยังเป็นการปูทางสำหรับการใช้เงินหยวนในวงกว้างในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในอนาคต บทบาทของเงินหยวนสามารถขยายครอบคลุม “การค้าขนาดใหญ่”ระหว่างเมียนมาและจีน ซึ่งหมายถึงเรือคอนเทนเนอร์ที่บรรทุกสินค้าขนาดใหญ่ ด้วยผลิตภัณฑ์ทางทะเล เครื่องจักรและอุปกรณ์
ศจ.โจว หรง นักวิจัยอาวุโสของสถาบันจงหยาง (Prof.Zhou Rong, a senior researcher Chongyang Institute for Financial Studies) แห่งมหาวิทยาลัยเรนนิม (Renmin) แห่งประเทศจีน กล่าวว่า การปักหลักของเงินหยวนในการค้าชายแดนจะทำให้จีนสามารถส่งความช่วยเหลือได้ในทันที สำหรับชาวเมียนมาที่ประสบปัญหาเงินเฟ้อ ตกงาน และ เศรษฐกิจชะงักงัน
โจวกล่าวว่าการเคลื่อนไหวในระยะยาวจะช่วยทำลายการผูกขาดเงินดอลลาร์สหรัฐในทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของเมียนมาอย่างแน่นอน