4แกนนำอยากออกคุก ใช้เงื่อนไขเดียวกับรุ้ง? เทียบ “ปูน ทะลุฟ้า” ปล่อยออกมายังโจมตีสถาบันฯทั้งที่สวมEM
จากกรณีที่เมื่อวานนี้ (17 ธันวาคม 2564) ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลได้นัดไต่สวนคำร้องขอปล่อยชั่วคราว นายอานนท์ นำภา ,นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ ,นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา ,นายภาณุพงศ์ จาดนอก 4 เเกนนำราษฎรที่ถูกศาลเพิกถอนการปล่อยชั่วคราวในคดีการชุมนุมหลายสำนวน
ทางด้าน นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความประจำศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนฐานะทนายจำเลยผู้ร้องทั้ง 4 คน เปิดเผยว่า วันนี้จำเลยทั้ง 4 คนได้เตรียมบัญชีพยานมาเบิกความสนับสนุนคำร้องคนละ 2 ปาก อาทิ อาจารย์จากมหาวิทยาลัยและผู้กำกับดูแล นอกจากนี้ฝ่ายจำเลยยังได้จัดเตรียมเอกสารต่างๆเป็นพยานวัตถุ พยานเอกสารยื่นต่อศาล ก็แล้วแต่ว่าศาลท่านจะเรียกเอกสารใด นอกจากนี้จำเลยบางคนมีปัญหาเรื่องสุขภาพ ก็จะได้นำเสนอปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพ ส่วนนายจตุภัทร์ หรือไผ่ เมื่อสำเร็จการศึกษาชั้นนิติศาสตร์บัณฑิตแล้ว อยู่ระหว่างเตรียมตัวสอบใบอนุญาตว่าความของสภาทนายความ ซึ่งก็ต้องไปสอบภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ
“ในโอกาสปีใหม่ที่จะถึงนี้จำเลยทุกคนก็อยากให้มีนิมิตหมายที่ดี อยากนับหนึ่งใหม่เริ่มต้นใหม่กัน เพื่อทำให้การเมืองไทยโปร่งใส ถ้าจำเลยได้ออกมาเริ่มต้น ก็จะเป็นสิ่งที่ดี งานการเมืองพวกเขาจะได้มีความระมัดระวังให้มากขึ้นไม่กระทบกระทั่งตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ โดยจะต้องระมัดระวังให้มากกว่านี้ และจะไม่กระทำการใดๆ อันเป็นการผิดเงื่อนไข อย่างเช่น กรณี น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง ที่ได้ปล่อยชั่วคราวไปก็กำลังประพฤติตนตามเงื่อนไขอย่างเคร่งครัด โดย นางสาวปนัสยาจะออกจากบ้านไม่ได้ยกเว้นแต่ไปหาแพทย์ ไปเรียนหรือมาที่ศาล จะเห็นว่าจำเลยเมื่อได้รับการปล่อยตัวแล้วก็จะปฏิบัติตามคำสั่งศาลอย่างเคร่งครัด” นายกฤษฎางค์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม หลายคนได้ตั้งคำถามว่า หากยกกรณีของรุ้ง ปนัสยา มาเทียบกับ 4 แกนนำนั้น การที่ศาลอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว รุ้ง ปนัสยา ออกมา ก็เพราะมีข้อกำหนดเกี่ยวกับการสอบ โดยต้องใส่กำไล EM และห้ามออกจากบ้าน และหากปล่อยตัว 4 แกนนำออกมาแล้ว ใช้เงื่อนไขเดียวกัน จะแน่ใจได้อย่างไรว่า จะไม่ไปเคลื่อนไหวและกระทำผิดซ้ำ โจมตีสถาบันอีก
อย่างเช่น กรณีของ ปูน ทะลุฟ้า เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2564 มีการชุมนุมของกลุ่มราษฎรที่บริเวณแยกราชประสงค์ ที่เดินทางมาร่วมตัวกันในเวลา 16.00 น. โดยมีการแขวนป้ายโจมตีสถาบันฯ และเหตุชุลมุน เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปปลดป้ายออก ทำให้มวลชนบางกลุ่มไม่พอใจ ขวางป้าสิ่งของใส่เจ้าหน้าที่ และโห่ไล่จนถึงเวลา 20.00 น . บรรดากลุ่มแกนนำราษฎร ได้อ่านแถลงการณ์ว่าจะต้องการดันเพดานยกเลิก 112 ราษฎรพิพากษา มาตรา 112 เรียกร้องปล่อยตัวนักโทษการเมือง ยกเลิก ม.112-ศาลรธน. รวมทั้งปฏิรูปสถาบันฯ ด้วย
ทั้งนี้ ยังได้ปรากฎภาพ ปูน ทะลุฟ้า นักเคลื่อนไหวกิจกรรม ที่มีบทบาทมาในหลายการชุมนุม ที่ขึ้นเวทีปราศรัย ได้สวมกำไล EM และเสื้อที่ทำโดยกลุ่มทะลุฟ้า ซึ่งจากถ้อยแถลงการณ์ และพฤติกรรมการออกมาชุมนุม อาจจะเข้าข่ายผิดเงื่อนไขศาล เพราะมีหลายคดีติดตัว และพบว่าเข้าข่ายล้มล้างการปกครองด้วย ก่อนหน้านี้เจ้าตัวมีการโพสต์เฟซบุ๊ก 8 ข้อความในกลุ่มรอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลส-ตลาดหลวง ที่พาดพิงสถาบันฯ ทำให้ถูกแจ้งเอาผิดมาตรา 112 แต่ศาลอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว ในวงเงิน 10,000 บาท พร้อมนัดรายงานตัวต่อศาลในวันที่ 7 ก.พ. 65
ขณะที่ในคดีแรก ปูน ทะลุฟ้า ถูกดำเนินคดีจากกรณีเผาพระบรมฉายาลักษณ์ในหลวงรัชกาลที่ 10 บริเวณป้ายเรือนจำคลองเปรม ซึ่งมี ไชยอมร แก้ววิบูลพันธ์ หรือ “แอมมี่” นักร้องวง The Bottom Blues เป็นจำเลยในคดีเดียวกันนี้ด้วย แม้ว่าศาลจะมีเมตตาอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราวกับบรรดาแกนนำที่ทำผิด และมีคดี 112 ติดตัว บางรายต่างก็กระทำความผิดซ้ำ โดยไม่เกรงกลัวเงื่อนไขศาล เช่นเดียวกับกรณีของปูน ทะลุฟ้า ที่กล้าขึ้นปราศรัย ออกมาชุมนุมที่ขัดกับเงื่อนไขศาล รวมทั้งยังมีกำไล EM ติดตามตัวด้วย