สืบเนื่องจากกรณีที่ น้องหญิง อายุ 28 ปี แม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยวชาวอ.บ้านดุง ที่ออกมาพูดขอให้พลเอกประยุทธ์ เกษียณออกไป เมื่อครั้งลงพื้นที่จังหวัดอุดร ได้ออกมาเปิดใจ บอกว่า สิ่งที่ตนเองพูดไปกับลุงตู่วันนั้นเป็นการพูดจากใจ ไม่มีของขั้วการเมืองเข้าเกี่ยวข้องแน่นอน และพูดอยากให้ลุงตู่รับฟังจากคนรุ่นใหม่ด้วย หากพัฒนาได้ก็อยู่ต่อ แต่หากพัฒนาไม่ได้วัยท่านน่าจะเกษียณและพักผ่อนได้แล้ว
ต่อมากลับมีกระแสข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านดุง ได้ติดต่อน้องหญิง เพื่อจะเดินทางมาหาที่บ้าน เพื่อขอพูดคุยด้วยแต่เจ้าตัวไม่อนุญาตให้เข้ามาพูดคุยที่บ้าน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.บ้านดุง จึงเชิญน้องหญิงมาที่สถานีตำรวจเพื่อทำประวัติ แต่น้องหญิงอ้างว่า ไม่รู้ว่าตนเองผิดอะไร ทำไมถึงต้องทำประวัติจึงยังไม่เดินทางไปที่สภ.บ้านดุง
และในทวิตเตอร์ของนางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.พรรคก้าวไกล ได้ทวีตเกี่ยวกับเรื่องนี้ จะมีคนเข้ามาคอมเม้นต์ด่าทอเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นจำนวนมาก โดยระบุว่า “”สาวอุดรโดนแล้ว! พูดต่อหน้าประยุทธ์ “ให้เกษียณ” ตร.เรียกไปทำประวัติที่โรงพัก ” ทำให้มีคนเข้ามาคอมเม้นต์ด่าว่า ทำไมเจ้าหน้าที่ถึงทำแบบนั้น ใช้สิทธิ์อะไร เราอยู่ยุคไหนกันเนี่ย แค่ว่านายกฯ ก็ถูกเรียกไปโรงพัก
ขณะที่อีกมุมหนึ่ง เกี่ยวกับประเด็นนี้ ทางด้านนายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีมีข่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.บ้านดุง เชิญตัวสาวอุดรธานี ที่พูดต่อหน้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ระหว่างลงพื้นที่จ.อุดรธานี โดยให้นายกฯเกษียณหากทำงานไม่ได้
ซึ่งตนได้สอบถามไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมทั้งผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ได้รับการยืนยันว่า พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี ได้สอบถามไปยัง พ.ต.อ.จักรภพ ศรีจันทะ ผู้กำกับการตำรวจภูธรอำเภอบ้านดุง และพ.ต.อ.วิทยากรณ์ ษมากรวิทิต ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรดงเย็น เจ้าของพื้นที่รับผิดชอบคำชะโนด ทั้งตำรวจและฝ่ายปกครองยืนยันไม่มีเจ้าหน้าที่ท่านใดเข้าไปรบกวนหญิงชาวอุดรฯที่ได้พูดคุยกับนายกฯ ซึ่งข่าวที่ออกไปว่าได้นำตัวหรือเชิญตัวมาพบ หรือทำประวัติไม่เป็นความจริง ผู้การฯ จ.อุดรธานี ยังชี้แจงว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องปฏิบัติงานภายใต้อำนาจหน้าที่ ที่กฎหมายกำหนดเท่านั้น
อย่างไรก็ตามจะเห็นว่า การรีบทวีตข้อความนางอมรัตน์ หรือ ส.ส.เจี๊ยบ ก้าวไกล ทำให้มีประชาชนเข้ามาต่อว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างเสียหาย ทั้งที่ไม่เป็นความจริง แต่ในทวิตดังกล่าว กลับไม่ได้มีการแก้ไข หรือเปลี่ยนแปลงข้อความ หลังมีข่าวออกมาชัดเจนแล้วว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้เชิญหญิงคนดังกล่าวไปโรงพัก ตามที่หลายสื่อนำเสนอ และบรรดากลุ่ม 3 นิ้ว ได้โหนเฟคนิวส์ดังกล่าว เพื่อต่อว่าเจ้าหน้าที่ ด้วยถ้อยคำหยาบคาย และพาดพิงถึงนายกฯด้วย
