เปิดช็อตเด็ด! ส.ส.ก้าวไกล รุมถล่มป.ป.ช. จี้ย่อมาจากปกป้องคนชั่ว แต่กลับรูดซิปปาก ไม่เอ่ยถึงปม “พิธา” ปกปิดบัญชีทรัพย์สิน?

1147

สืบเนื่องจากกรณีเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2564 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยมีนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 เป็นประธานการประชุม ได้มีการพิจารณารับทราบรายงานผลการตรวจสอบ และผลการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563

โดยทางด้านนายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ ส.ส.สงขลา พรรคภูมิใจไทย (ภท.) เริ่มอภิปรายว่า ที่ผ่านมามีเรื่องร้องเรียนไปยัง ป.ป.ช.จำนวนมาก ประมาณ 9,000 กว่าเรื่อง และคิดว่าจำนวนเรื่องร้องเรียนจะมากขึ้นในอนาคต จำนวนคดีที่มากขึ้นนี้ไม่ใช้ตัวชี้วัดการทำงาน แต่การทำให้ประชาชนเข้าใจใน พ.ร.บ.ป.ป.ช.จนมีเรื่องร้องเรียนน้อยลงต่างหากที่เป็นเป้าหมายของ ป.ป.ช.

1.ตนเสนอให้สำนักงาน ป.ป.ช.ตั้งคณะกรรมการคัดกรอง และแยกประเภทก่อนเสนอให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ส่งต่อให้คณะอนุกรรมการสอบสวน เพื่อป้องกันการร้องที่กลั่นแกล้ง และคู่ขัดแย้งทางการเมืองที่ใช้องค์กรของท่านเป็นเครื่องมือทำลายคู่ต่อสู้และคู่แข่งทางการเมือง 2.เสนอให้ ป.ป.ช.เชิดชูหน่วยงาน องค์กรที่มีหลักธรรมาภิบาล

3.ให้ ป.ป.ช.เผยแพร่ความรู้และกฎหมายให้ประชาชน และ 4.ป.ป.ช.ต้องพิจารณาลงโทษบุคคลที่มีข้อมูลข้อเท็จจริงกลั่นแกล้ง หวังผลทางการเมือง ทำลายคู่ต่อสู้ โดยถ้าพิสูจน์ได้ว่าถ้าเขากลั่นแกล้งต้องมาแก้กฎหมายเพื่อเอาผิดคนที่กลั่นแแกล้งผู้อื่น ทั้งนี้ตนในฐานะ ส.ส.ที่ตั้งใจทำงานให้ประชาชนโดยสุจริต ไม่อยากให้ป.ป.ช.มาด้อยค่าโดยไม่เป็นธรรม

ขณะที่ทางฝั่งส.ส. ก้าวไกล ได้มีการอภิปรายวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของป.ป.ช. หลายประเด็น เริ่มที่นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ป.ป.ช.ถือเป็นองค์กรอิสระอันดับต้น ๆ ที่มีคำถามจากสังคมมากที่สุดเรื่องความโปร่งใส ความเป็น และการใช้อำนาจในการบิดเบือนกฎหมายรับใช้ผู้มีอำนาจรัฐ เช่น กรณีการเข้ารับตำแหน่งนายกฯของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ไม่ต้องแสดงบัญชีทรัพย์สิน ซึ่งเรื่องนี้ค้านต่อความรู้สึกของนักการเมืองทั้งสภาแห่งนี้ ต่อมาคือเรื่องแหวนแม่ นาฬิกาเพื่อนของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ

ตนของฝากไปถึง ป.ป.ช.ว่าต่างหูมุกที่ตนใส่วันนี้เป็นของคุณแม่ กระเป๋าที่ใช้วันนี้และที่สลับใช้หลาย ๆ ใบเพื่อนให้ยืมมา ตนขอบคุณบรรทัดฐานของ ป.ป.ช.ที่ได้สร้างบรรทัดฐานให้ตนสบายใจในการหยิบยืมข้าวของเครื่องใช้จากเพื่อน ๆ ป.ป.ช.มีอำนาจล้นเหลือ มีอำนาจที่จะตรวจสอบองค์กรอิสระด้วยกันเองยังได้ ตนอยากเห็นท่านแสดงความกล้าหาญ และผลงานในการจับทุจริตองค์กรที่เกี่ยวกับความมั่นคงของประเทศ เช่น กอ.รมน. กองทัพทั้งหลาย ทั้งบก เรือ อากาศ ซึ่งตนไม่เคยได้เห็นผลงานของ ป.ป.ช.ในส่วนนี้เลย

ต่อมานายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร อภิปรายว่า รู้ว่าป.ป.ช.รู้ว่าตนเสนอแนะท่านด้วยความสุจริตใจ สิ่งที่ได้เสนอแนะคือสิ่งที่ ป.ป.ช.ต้องเอาไปปรับปรุงตนเอง ไม่อย่างนั้นก็จะถูกประชาชนค่อนขอด และตั้งคำถามกับท่านต่อไปว่า ป.ป.ช.นี้ย่อมาจากคำว่า ปกป้องคนชั่ว หรือปกปิดประชาชนกันแน่

ส่วนทางด้านนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายว่า เราเสียเงินงบประมาณมหาศาลเพื่อคาดหวังกับองค์กรอย่าง ป.ป.ช.ในการทำหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพ แต่พบว่าการทำหน้าที่ของ ป.ป.ช.ไม่ได้ทำหน้าที่อย่างครบถ้วนและครอบคลุม ตัวอย่างเวลาที่เรามีการอภิปรายในสภาหลายเรื่อง ที่มีการเปิดเผยเรื่องการทุจริตคอร์รัปชั่นทำไม ป.ป.ช.ถึงไม่ทำอะไร หรือตอบสนองสิ่งที่ผู้แทนประชาชนอภิปรายเลยแม้แต่น้อย อย่างกรณีป่ารอยต่อ ตนได้อภิปรายไม่ไว้วางใจโดยอภิปรายนอกสภา แต่ก็เป็นกรณีที่มีการพูดคุยอย่างวงกว้างในสังคม แล้วเหตุใด ป.ป.ช.ถึงไม่ทำอะไรกับเรื่องนี้ อย่างกรณีในรูปที่โชว์คือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและประธานมูลนิธิป่ารอยต่อ ได้ใช้ทรัพย์สินของราชการเพื่อไปปฏิบัติภารกิจของมูลนิธิแล้วมีเจ้าหน้าที่ความมั่นคงจำนวนมากออกมาต้อนรับ คำถามที่สำคัญคือทำไมตั้งแต่ตนอภิปรายไป ป.ป.ช.ไม่ทำอะไร

 

เรียกว่าการอภิปรายประเด็นของป.ป.ช. ทำให้สภาดุเดือดมาก แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อย้อนไปถึงประเด็นที่นายพิธา หัวหน้าพรรค ถูกยื่นตรวจสอบถึงการปกปิดบัญชีทรัพย์สิน กลับไม่มีส.ส.พรรคก้าวไกล เลือกที่จะกล่าวถึง โดยเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2564 นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพรบ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีพ.ศ.2565 ได้เปิดเผยว่ามีหลักฐานที่จะยื่นให้ป.ป.ช. ตรวจสอบได้ว่านายพิธา จงใจปกบิดบัญชีทรัพย์สิน และยังมีประเด็นเรื่องซุกหุ้นของอดีตภรรยาด้วย