จากเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2564 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก นัดสืบพยานคดีการชุมนุม 19 กันยายนทวงอำนาจคืนราษฎร ที่ท้องสนามหลวง เมื่อวันที่ 19 และ 20 กันยายน 2563
ทั้งนี้โดยมี อานนท์ นำภา, น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง , นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ , นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน , นายชินวัตร จันทร์กระจ่าง , ชูเกียรติ แสงวงศ์ หรือ จัสติน , นายธนชัย เอื้อฤาชา , นายอรรถพล บัวพัฒน์ หรือ ครูใหญ่ , นายณวรรษ เลี้ยงวัฒนา รวม 22 ราย เป็นผู้ถูกกล่าวหา
นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความ ประจำศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เปิดเผยว่าเป็นวันแรกของการนัดสืบพยานโจทก์ โดยเบื้องต้นเห็นว่าฝ่ายโจทก์ได้เตรียมพยานไว้ 2 ปาก โดย 1 ในพยาน คือเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้กล่าวหาของคดีนี้ และทนายความพยายามขอหมายเรียกเอกสารสำคัญซึ่งอยู่ในการครอบครองของทางราชการ เพื่อที่จะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของจำเลย แต่ศาลยังไม่ได้ออกให้ ต้องไปตรวจสอบว่าศาลจะออกหมายดังกล่าวให้หรือไม่
ในการพิจารณาคดี ทางทนายความได้แถลงประเด็นขอให้ศาลออกหมายเรียกพยานหลักฐานเอกสารหลายชิ้นเพื่อนำมาใช้ในการซักค้านพยานจำนวนหลายชิ้น เนื่องจากเห็นว่าเป็นประเด็นสำคัญในคดีที่จำเลยถูกกล่าวหาว่ามีการปราศรัยที่เป็นความเท็จเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์
อย่างไรก็ตามศาลระบุว่า พยานหลักฐานที่ฝ่ายจำเลยขอให้ศาลเรียกมานี้เป็นของหน่วยงานภายนอก จึงไม่สามารถก้าวล่วงองค์กรอื่นได้หากการเรียกพยานหลักฐานนั้นไม่เกี่ยวข้องกับคดี
ทำให้นายกฤษฎางค์ ทนายความในคดีจึงแถลงศาลเกี่ยวกับเอกสารที่ขอให้ศาลออกหมายเรียกมาอย่างเช่นข้อมูลการเดินทางเข้าออกประเทศของในหลวงรัชกาลที่ 10 เนื่องจากเมื่อไปขอแล้วหน่วยงานที่ถือครองข้อมูลอย่างบริษัทการบินไทยไม่ยินยอมให้มาใช้ในการพิจารณาคดี ทั้งที่จำเป็นในการพิสูจน์ว่าที่ผู้กล่าวหาระบุว่าจำเลยได้มีการปราศรัยเป็นเท็จนั้น เป็นเท็จจริงอย่างที่จำเลยถูกกล่าวหาหรือไม่
จากนั้น ศาลได้แจ้งกับจำเลยและทนายความว่า ศาลจะยังไม่ออกหมายเรียกพยานหลักฐานตามที่ฝ่ายจำเลยร้องขอ และจะให้สืบพยานปากแรกไปก่อนเนื่องจากทางฝ่ายโจทก์ได้เตรียมพยานมาแล้ว หากเลื่อนออกไปจะทำให้คดีล่าช้าและทำให้จำเลยต้องอยู่ในเรือนจำกันต่อไป
ทั้งนี้นายกฤษฎางค์ แถลงอีกว่า ให้มีการบันทึกว่าทางฝ่ายจำเลยได้ยืนยันให้ศาลออกหมายเรียกแล้ว และได้ตั้งคำถามว่าหากมีการสืบพยานไปแล้ว และพยานเอกสารที่ร้องขอเกี่ยวข้องกับพยานศาลจะออกหมายเรียกให้หรือไม่
ขณะที่ศาลตอบว่า ให้ดูที่อัยการจะสืบไปก่อน และสิ่งที่มีการแถลงกันในวันนี้ศาลจะมีการบันทึกเอาไว้เพื่อให้นำไปยื่นอุทธรณ์หรือฎีกาคำสั่งได้ต่อไปหากฝ่ายจำเลยไม่เห็นด้วยกับคำสั่ง