ดูชัดๆลีลา “บิ๊กอาย” สวมบทไฮปาร์ค ขึ้นปราศรัยสุราษฎร์! ปชช.ยี้ตอนเป็น “โฆษกรบ.” ไม่ได้เรื่อง?
จากกรณีเมื่อวันที่ 30 พ.ย.64 ที่โรงแรมแก้วสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พร้อมด้วย นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค พร้อม ส.ส.ของพรรค ได้เดินทางมาให้กำลังใจในการประชุมการเลือกตัวแทนพรรคพลังประชารัฐ เขต 1-6 เพื่อเป็นตัวแทนในการทำงานของพรรคในฐานะปากเสียงของประชาชนชาวสุราษฎร์ เพื่อเสนอต่อกรรมการนโยบายพรรคในการแก้ปัญหาความเดือดร้อนได้อย่างรวดเร็ว และตรงเป้าหมาย โดยมีสมาชิกพรรคในภาคใต้ 14 จังหวัด ให้การร่วมต้อนรับอย่างพร้อมเพรียง ภายใต้มาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเคร่งครัด
ทางด้าน ร.อ.ธรรมนัส ได้ขึ้นเวทีพร้อมกล่าวต้อนรับว่าที่ตัวแทนเขต 1-6 พร้อมขอบคุณทุกคน ทั้งชาวสุราษฎร์ธานี และตัวแทนสมาชิกพรรคทุกคน ที่ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี ตั้งแต่ที่สนามบิน ซึ่งทำให้เห็นว่าการทำงานที่ผ่านมาของตนเอง มีผลทำให้ทุกคนเกิดความเชื่อใจ ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีในการที่จะรวมพลังในการได้รับความไว้วางใจในการเป็นตัวแทนของประชาชนในฐานะฝ่ายรัฐบาลอีกครั้ง โดยเป้าหมายหนึ่งเดียว คือ การแก้ปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องฐานราก ที่ถือเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศไทยมากที่สุด ที่ส่วนใหญ่ทำอาชีพเกษตรกรรมซึ่งเป็นรายได้ของประเทศ แต่กลับต้องเจอสภาวะผลผลิตตกต่ำไม่ได้ราคา โดยเฉพาะภาคใต้ที่ส่วนใหญ่มีอาชีพปลูกปาล์มและยางพารา ที่ยังต้องประสบปัญหาส่งผลต่ออาชีพรายได้ และปากท้อง
ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ ตนเองเคยได้รับการร้องเรียนจากพี่น้องประชาชนใน อ.ชัยบุรี จ.สุราษฎร์ธานี ที่อาศัยอยู่ในที่ดิน ส.ป.ก. ไม่มีบ้านเลขที่ ทำให้น้ำ ไฟ เข้าไม่ถึง เมื่อทราบเรื่องและได้ลงพื้นที่จึงได้ดำเนินการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการทันที ซึ่งปัจจุบันพื้นที่ตรงนี้หลายเป็นพื้นที่ของความเจริญ นั่นจึงทำให้เชื่อว่าการมีตัวแทน ส.ส.แต่ละเขตเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้พรรคพลังประชารัฐ สามารถเข้าถึงปัญหาของประชาชนได้อย่างทั่วถึง ไม่ใช่เพียงแค่การมองภาพรวมของจังหวัด แต่ต้องมองให้ลึกลงไปยังความเดือดร้อน โดยเฉพาะการลดขั้นตอนการทำงานของรัฐบาลที่ทำให้การช่วยเหลือเป็นไปอย่างล่าช้า
“ผมเชื่อว่า ครอบครัวพลังประชารัฐ จะสามารถสร้างพลังพัฒนาสุราษฎร์ธานี ทั้ง 6 เขต จะช่วยทำให้พี่น้องฐานราก อิ่มท้อง มีอาชีพ มีรายได้ มีชีวิตที่ดีขึ้น” ร.อ.ธรรมนัส กล่าว
ในขณะที่ นางนฤมล ยืนยันว่า พรรคพลังประชารัฐ พร้อมส่งตัวแทนผู้สมัคร ส.ส.สุราษฎร์ธานี ลงทุกเขต ตั้งเป้าหมายไม่ว่าในอนาคตตนเอง และ ร.อ.ธรรมนัส จะมีตำแหน่งทางการเมืองหรือไม่ ก็จะยังเดินหน้าแก้ปัญหาเรื่องที่ดินทำกินให้กับชาวบ้านต่อไป เพราะเป็นปัญหาใหญ่ที่ไม่มีใครแก้ได้ แต่ที่ผ่านมา ร.อ.ธรรมนัส ก็ดำเนินการอย่างเต็มความสามารถเพื่อยึดคืนที่ดินจากนายทุนกลับมาให้พี่น้องประชาชนได้มีที่ทำกิน รวมถึงบัตรสวัสดิการรัฐ ที่จะดูแลตั้งแต่ในครรภ์มารดาจนถึงเชิงตะกอน ในการแก้ปัญหาความยากจนอย่างยั่งยืน และการแก้ปัญหาของสินค้าทางการเกษตรที่จะต้องมีการตลาดนำ มีตลาดส่งออก และการแปรรูปสินค้า
“ไม่ได้ต้องการอำนาจ ไม่ได้ต้องการผลประโยชน์ แต่เราต้องการมาแก้ปัญหาเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง ด้วยเป้าหมายเดียวกันคือ การแก้ปัญหาอย่างไรให้ประชาชนอยู่ดีกินดีแบบยั่งยืน” นางนฤมล กล่าว
ล่าสุดเมื่อวานนี้ (1 ธันวาคม 2564) นายศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ นักวิเคราะห์การเมืองรายการโทรทัศน์ ได้โพสต์ข้อความพร้อมกับคลิปของนางนฤมล ระบุว่า “ไม่รู้ไปโกรธใครมา”
ซึ่งในคลิปเป็นการพูดปราศรัยของนางนฤมล พูดถึงปัญหาปากท้องและหนี้สินของเกษตรกร ด้วยลีลาท่าทางที่ขึงขังและห่าชมได้ยากก็ทำให้คลิปดังกล่าว ถูกพูดถึงเป็นจำนวนมาก
ในขณะที่ นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้มีการแชร์คลิปวิดิโอ พร้อมกับบอกว่า ห่วงคอนแทคเลนส์จะหลุด
อย่างไรก็ตาม นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เธอเป็นอดีตอาจารย์ประจำสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ หรือ นิด้า และเข้าสู่เส้นทางการเมืองโดยการเป็น ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 5 ของพรรคพลังประชารัฐ นอกจากนี้ นางนฤมล ยังเคยได้รับตำแหน่งโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ภายใต้การสนับสนุนของร.อ.ธรรมนัส ซึ่งทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รวมถึงรัฐบาลด้วย แต่การเป็นโฆษกรัฐบาลของนางนฤมลไม่ค่อยราบรื่นนัก ถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงการทำงานอยู่เสมอ