ดูชัดๆลีลา “บิ๊กอาย” สวมบทไฮปาร์ค ขึ้นปราศรัยสุราษฎร์! ปชช.ยี้ตอนเป็น “โฆษกรบ.” ไม่ได้เรื่อง?

1328

ดูชัดๆลีลา “บิ๊กอาย” สวมบทไฮปาร์ค ขึ้นปราศรัยสุราษฎร์! ปชช.ยี้ตอนเป็น “โฆษกรบ.” ไม่ได้เรื่อง?

จากกรณีเมื่อวันที่ 30 พ.ย.64 ที่โรงแรมแก้วสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พร้อมด้วย นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค พร้อม ส.ส.ของพรรค ได้เดินทางมาให้กำลังใจในการประชุมการเลือกตัวแทนพรรคพลังประชารัฐ เขต 1-6 เพื่อเป็นตัวแทนในการทำงานของพรรคในฐานะปากเสียงของประชาชนชาวสุราษฎร์ เพื่อเสนอต่อกรรมการนโยบายพรรคในการแก้ปัญหาความเดือดร้อนได้อย่างรวดเร็ว และตรงเป้าหมาย โดยมีสมาชิกพรรคในภาคใต้ 14 จังหวัด ให้การร่วมต้อนรับอย่างพร้อมเพรียง ภายใต้มาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเคร่งครัด

ทางด้าน ร.อ.ธรรมนัส ได้ขึ้นเวทีพร้อมกล่าวต้อนรับว่าที่ตัวแทนเขต 1-6 พร้อมขอบคุณทุกคน ทั้งชาวสุราษฎร์ธานี และตัวแทนสมาชิกพรรคทุกคน ที่ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี ตั้งแต่ที่สนามบิน ซึ่งทำให้เห็นว่าการทำงานที่ผ่านมาของตนเอง มีผลทำให้ทุกคนเกิดความเชื่อใจ ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีในการที่จะรวมพลังในการได้รับความไว้วางใจในการเป็นตัวแทนของประชาชนในฐานะฝ่ายรัฐบาลอีกครั้ง โดยเป้าหมายหนึ่งเดียว คือ การแก้ปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องฐานราก ที่ถือเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศไทยมากที่สุด ที่ส่วนใหญ่ทำอาชีพเกษตรกรรมซึ่งเป็นรายได้ของประเทศ แต่กลับต้องเจอสภาวะผลผลิตตกต่ำไม่ได้ราคา โดยเฉพาะภาคใต้ที่ส่วนใหญ่มีอาชีพปลูกปาล์มและยางพารา ที่ยังต้องประสบปัญหาส่งผลต่ออาชีพรายได้ และปากท้อง

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ ตนเองเคยได้รับการร้องเรียนจากพี่น้องประชาชนใน อ.ชัยบุรี จ.สุราษฎร์ธานี ที่อาศัยอยู่ในที่ดิน ส.ป.ก. ไม่มีบ้านเลขที่ ทำให้น้ำ ไฟ เข้าไม่ถึง เมื่อทราบเรื่องและได้ลงพื้นที่จึงได้ดำเนินการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการทันที ซึ่งปัจจุบันพื้นที่ตรงนี้หลายเป็นพื้นที่ของความเจริญ นั่นจึงทำให้เชื่อว่าการมีตัวแทน ส.ส.แต่ละเขตเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้พรรคพลังประชารัฐ สามารถเข้าถึงปัญหาของประชาชนได้อย่างทั่วถึง ไม่ใช่เพียงแค่การมองภาพรวมของจังหวัด แต่ต้องมองให้ลึกลงไปยังความเดือดร้อน โดยเฉพาะการลดขั้นตอนการทำงานของรัฐบาลที่ทำให้การช่วยเหลือเป็นไปอย่างล่าช้า

“ผมเชื่อว่า ครอบครัวพลังประชารัฐ จะสามารถสร้างพลังพัฒนาสุราษฎร์ธานี ทั้ง 6 เขต จะช่วยทำให้พี่น้องฐานราก อิ่มท้อง มีอาชีพ มีรายได้ มีชีวิตที่ดีขึ้น” ร.อ.ธรรมนัส กล่าว

ในขณะที่ นางนฤมล ยืนยันว่า พรรคพลังประชารัฐ พร้อมส่งตัวแทนผู้สมัคร ส.ส.สุราษฎร์ธานี ลงทุกเขต ตั้งเป้าหมายไม่ว่าในอนาคตตนเอง และ ร.อ.ธรรมนัส จะมีตำแหน่งทางการเมืองหรือไม่ ก็จะยังเดินหน้าแก้ปัญหาเรื่องที่ดินทำกินให้กับชาวบ้านต่อไป เพราะเป็นปัญหาใหญ่ที่ไม่มีใครแก้ได้ แต่ที่ผ่านมา ร.อ.ธรรมนัส ก็ดำเนินการอย่างเต็มความสามารถเพื่อยึดคืนที่ดินจากนายทุนกลับมาให้พี่น้องประชาชนได้มีที่ทำกิน รวมถึงบัตรสวัสดิการรัฐ ที่จะดูแลตั้งแต่ในครรภ์มารดาจนถึงเชิงตะกอน ในการแก้ปัญหาความยากจนอย่างยั่งยืน และการแก้ปัญหาของสินค้าทางการเกษตรที่จะต้องมีการตลาดนำ มีตลาดส่งออก และการแปรรูปสินค้า

“ไม่ได้ต้องการอำนาจ ไม่ได้ต้องการผลประโยชน์ แต่เราต้องการมาแก้ปัญหาเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง ด้วยเป้าหมายเดียวกันคือ การแก้ปัญหาอย่างไรให้ประชาชนอยู่ดีกินดีแบบยั่งยืน” นางนฤมล กล่าว

ล่าสุดเมื่อวานนี้ (1 ธันวาคม 2564) นายศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ นักวิเคราะห์การเมืองรายการโทรทัศน์ ได้โพสต์ข้อความพร้อมกับคลิปของนางนฤมล ระบุว่า “ไม่รู้ไปโกรธใครมา”

ซึ่งในคลิปเป็นการพูดปราศรัยของนางนฤมล พูดถึงปัญหาปากท้องและหนี้สินของเกษตรกร ด้วยลีลาท่าทางที่ขึงขังและห่าชมได้ยากก็ทำให้คลิปดังกล่าว ถูกพูดถึงเป็นจำนวนมาก

 

ในขณะที่ นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้มีการแชร์คลิปวิดิโอ พร้อมกับบอกว่า ห่วงคอนแทคเลนส์จะหลุด

อย่างไรก็ตาม นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เธอเป็นอดีตอาจารย์ประจำสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ หรือ นิด้า  และเข้าสู่เส้นทางการเมืองโดยการเป็น ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 5 ของพรรคพลังประชารัฐ นอกจากนี้ นางนฤมล ยังเคยได้รับตำแหน่งโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ภายใต้การสนับสนุนของร.อ.ธรรมนัส  ซึ่งทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รวมถึงรัฐบาลด้วย แต่การเป็นโฆษกรัฐบาลของนางนฤมลไม่ค่อยราบรื่นนัก ถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงการทำงานอยู่เสมอ