หลังจากที่เสร็จสิ้นการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล และนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เมื่อวันที่ 28 พ.ย. 2564 ที่ผ่านมา โดยต่อมาทราบว่าผลเลือกตั้ง อบต. 5,297 เขต มีผู้ชนะมาจาก
– พลังประชารัฐ 349 ที่นั่ง
– ภูมิใจไทย 313 ที่นั่ง
– เพื่อไทย 307 ที่นั่ง
– ประชาธิปปัตย์ 198 ที่นั่ง
– ชาติพัฒนา 65 ที่นั่ง
– คณะก้าวหน้า 35 ที่นั่ง
– กลุ่มการเมืองอิสระ 3852 ที่นั่ง
– และอื่น ๆ 277 ที่นั่ง
ทั้งนี้การเคลื่อนไหวทางการเมืองของคณะก้าวหน้าและพรรคก้าวไกล ดูท่าทีมีความมั่นใจกับชัยชนะอบต.ในครั้งนี้ เพราะในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด สามารถกวาดไปถึง 8 ที่นั่ง และเมื่อตรวจสอบคะแนนเลือกตั้งในปี 2562 ของพรรคอนาคตใหม่ในขณะนั้น โซนภาคอีสาน มีคะแนนเป็นรองแค่พรรคเพื่อไทยเท่านั้น ยิ่งตอกย้ำให้ทางคณะก้าวหน้าและพรคก้าวไกล มั่นใจมากยิ่งขึ้น ที่จะคว้าฐานเสียงคนอีสานได้ ตามที่นายพิธา หัวหน้าพรรคก้าวไกล เคยกล่าวไว้ว่า หากอยากจะเป็นนายกฯ ต้องเอาชนะใจคนอีสานให้ได้ จึงทำให้เกิดประเด็นตั้งข้อสังเกตว่า ในอนาคตการเลือกตั้งครั้งหน้า “ก้าวหน้า-ก้าวไกล” ถือเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวของพรรคเพื่อไทย
ล่าสุดนายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย ได้ออกมาเปิดเผยว่า จากความล้มเหลวของรัฐบาลที่นำโดยนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนได้ ขณะที่ความขัดแย้งในพรรคร่วมรัฐบาลยิ่งทำให้เสถียรภาพสั่นคลอน หากเพลี่ยงพล้ำก็มีโอกาสเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองทุกเมื่อ “พรรคเพื่อไทย” จึงได้เตรียมความพร้อมเข้าสู่สนามการเลือกตั้งในครั้งหน้าด้วยการเดินหน้าระดมความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เปิดให้ประชาชนคนไทยทั่วประเทศเข้ามามีส่วนร่วมและเป็นส่วนหนึ่งในการเข้ามาแก้ไขปัญหาของประเทศร่วมกับ “พรรคเพื่อไทย” ผ่านแคมเปญ ครอบครัวเพื่อไทย แลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดิน
โดยโครงการ “ครอบครัวเพื่อไทย” คือการประสานความร่วมมือกับประชาชนในวงกว้าง ให้ผู้ที่สนใจและสนับสนุนพรรคแต่ยังไม่พร้อมสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมือง สามารถเข้าร่วมเป็น”ครอบครัวเพื่อไทย”ได้ ซึ่งมีความแตกต่างจากการเป็นสมาชิกพรรคคือ การลดข้อจำกัดเรื่องคุณสมบัติของผู้เข้าร่วมลง เช่น ไม่จำกัดอายุ ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการสมัคร ทำให้ประชาชนทุกวัย ทุกภาคส่วน สามารถมีส่วนร่วมกับพรรคการเมืองได้ง่ายขึ้นเพื่อร่วมกันเป็นส่วนหนึ่งในการแสดงพลังและเจตจำนงในการสนับสนุนพรรคการเมืองตามครรลองของระบอบประชาธิปไตย ทั้งนี้ผู้เป็นครอบครัวเพื่อไทยจะมีสิทธิประโยชน์ ดังนี้ คือ 1. ได้รับข้อมูลข่าวสารและกิจกรรมต่าง ๆ โดยตรงจากทางพรรคเพื่อไทย , 2. มีสิทธิ์ลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ที่ทางพรรคจัดขึ้นในอนาคตก่อนบุคคลทั่วไป และ 3. สามารถซื้อสินค้าที่ระลึกต่าง ๆ ของ “พรรคเพื่อไทย”ได้ในราคาพิเศษ
อย่างไรก็ตาม การออกมาทำแคมเปญดังกล่าวของเพื่อไทย หลังจากเลือกตั้งอบต.จบลง น่าจับตามองสัญญาณเกมการเมือง ว่าอาจจะเป็นการฟาดฟันสู้กับ “ก้าวหน้า-ก้าวไกล” อีกครั้ง หลังมีความไม่ลงรอยมาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงประเด็นการแย่งชิงฐานเสียงในแดนอีสานด้วย การกระจายข่าวสารของพรรคเพื่อไทย และเปิดให้ประชาชนทั่วประเทศเข้ามามีส่วนร่วมกับพรรคได้นั้น ถือเป็นการสร้างเครือข่ายใหญ่ เพื่อเตรียมพร้อมการเลือกตั้งครั้งหน้า มีความเป็นไปได้ว่า เพื่อไทยเร่งปูทาง เล่นเกมการเมืองรุกหนัก เพื่อไม่ให้คะแนนเสียงในหลาย ๆ พื้นที่เดิม หลุดไปสนับสนุนพรรคอื่น
