กลายเป็นประเด็นที่น่าติดตาม หลังกองทุนราษฎรประสงค์ กองทุนเงินม็อบ 3 นิ้ว ได้ออกมาอัพเดท ชี้แจงรายละเอียดบัญชี ที่ตอนนี้ยอดเงินบริจาคลดฮวบ โดยระบุว่า “เงินประกันตัวลดฮวบอีกครั้ง หากราษฎรยังพอไหว เรารบกวนขอแรงเติม ตามคิวอาร์โค้ดในโพสต์นี้
เมื่อวานนี้ (29 พ.ย. 64) กองทุนราษฎรประสงค์ได้เบิกเงินจำนวนทั้งสิ้น 603,000 บาท เพื่อนำไปใช้วางประกันในคดีต่าง ๆ ตามที่ได้รับการประสานงานจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ภายหลังการเบิกจ่ายข้างต้น ยอดเงินคงเหลือในบัญชีคือ 781,374.42 บาท ดังหลักฐานในภาพ ”
ทั้งนี้ต่อมาได้พบว่า มีมวลชนเข้ามาคอมเม้นต์ และช่วยกันบริจาคใหม่ แต่กลับไม่คึกคักเหมือนครั้งก่อน ๆ ที่มีการขอระดมทุน และทางด้านครูใหญ่ อรรถพล ยังได้ทวีตข้อความขอแรงให้มวลชนมาร่วมบริจาคด้วย แต่ก็พบว่า มวลชนส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือน้อย บางรายก็บอกว่า ขอให้รอเงินเดือนออกก่อน
โดยก่อนหน้านี้ในเพจเฟซบุ๊กอานนท์ นำภา ได้โพสต์เอกสารค่าใช้จ่ายตั้งแต่วันที่ 14-19 พ.ย.2564 จำนวน 48,516 บาท เพื่อช่วยเหลือแกนนำ และแนวร่วมม็อบราษฏร ระหว่างถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ อาทิ ซื้อของให้เพนกวิน (1 อาทิตย์) จำนวน 4,975 บาท ซื้อของให้เบนจา (1 อาทิตย์) 6,513 บาท ซื้อของให้ไพฑูรย์ สุขสันต์ จักรี ขจรศักดิ์ ภาณุเดช 982 บาท ซื้อของให้อานนท์ แซม ธีรเมธ 476 บาท ซื้อของให้จิตรกร พิชัย นฤเบศ ยุรนันท์ ณรงค์ศักดิ์ อนันต์ 2,590 บาท
และเมื่อวันที่ 20 พ.ย.64 ที่ผ่านมา มีการระบุรายการซื้อของให้จิตรกร พิชัย นฤเบศ ยุรนันท์ ณรงค์ศักดิ์ อนันต์ อีก 3,342 บาท ซื้อของให้ไผ่ 714 บาท และซื้อของให้คเชนทร์ 727 บาท
นอกจากนี้ในเฟซบุ๊กอานนท์ นำภา ยังโพสต์ข้อความอีกด้วย ระบุว่า 7 วันที่ผ่านมา คิดว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นมากมายนัก แต่ปรากฎว่าอานนท์ ถูกอัยการสั่งฟ้องในคดี ม.112 อีก 3 คดี (ปราศรัยหน้ารัฐสภา 17 พ.ย. , ปราศรัยหน้า scb 25 พ.ย. , ปราศรัย 5 แยกลาดพร้าว 2 ธ.ค. 63 ทำให้ปัจุบันเขาถูกขังจาก 7 หมายขังในคดี ม.112 และอีก 1 คดีในศาลแขวง (ยังไม่แน่ใจว่าคดีอะไร) รวมเป็น 8 คดี หากจะต้องใช้เงินประกันตัวอานนท์เพียงคนเดียว คงจะต้องใช้เงินเกือบ 2 ล้านบาท! หากดูตามสถิติการประกันตัวในคดีม.112 ที่ใช้คนละ 2-3 แสนบาท
อย่างไรก็ตามทำให้น่าติดตามว่า หลังจากนี้ จะมีมวลชนร่วมบริจาคเติมเงินเข้ากองทุนมากน้อยแค่ไหน เพราะยังมีรายจ่ายที่ต้องจัดการเรื่องเงินประกันตัวอีกจำนวนมาก ยิ่งมีข่าวว่าแกนนำใช้เงินหมดไปเยอะ ก็ทำให้มวลชนบางส่วนถอดใจ ไม่ได้ร่วมบริจาคอีก หากเงินในกองทุนลดฮวบลงอีก การจะเคลื่อนไหวช่วยเหลือกลุ่ม 3 นิ้วในคดีต่าง ๆ น่าจะทำได้ยากขึ้น