อุ๊เดือด!2ปีร้องกองปราบเอาผิดปิยบุตรยังเงียบ รีบนำหลักฐานศาลรธน.จัดการ

2042

จากที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยแล้วเห็นว่า 10 ข้อเรียกร้อง ของกลุ่มผู้ชุมนุม คณะราษฎร เมื่อวันที่ 10 สิงหา 63 ที่ ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิตซึ่งนำโดย อานนท์ นำภา , ภาณุพงศ์ จาดนอก , ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล , มีความผิดฐานล้มล้างการปกครองชัดเจน

ต่อมามีการตั้งข้อสังเกตที่น่าสนใจ เกี่ยวกับผู้ที่ให้การสนับสนุน ก็อาจจะเข้าข่ายมีความผิดไม่ต่างกันโดยเฉพาะ “ปิยบุตร แสงกนกกุล” เลขาธิการคณะก้าวหน้า ที่แม้เคลื่อนไหวและมีปัญหากับ สถาบันพระมหากษัตริย์มาโดยตลอด แต่กลับรอดพ้นไม่เคยโดนข้ออะไร ด้วยอาศัยความเป็นนักกฎหมาย

โดยตัวอย่างหนึ่ง หากย้อนไปต่อมาเมื่อวันที่ 13 สิงหาค 2563 นายปิยบุตร ได้ยืนยันผ่านเฟซบุ๊คของตนเอง ว่า  10 ข้อเรียกร้อง “ธรรมศาสตร์จะไม่ทน” คือข้อเท็จจริง และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องละเมิด “สถาบัน”

ซึ่งได้เปิดเผยว่า “ข้อเสนอทั้ง 10 ข้อของพวกเขา ไม่ได้ทำให้ประเทศไทยเปลี่ยนรูปแบบของรัฐ ประเทศไทยยังคงเป็นราชอาณาจักร มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขของรัฐสืบทอดทางสายโลหิต เช่นเดิม

ข้อเสนอทั้ง 10 ข้อของพวกเขา ไม่มีตรงไหนที่กระทบถึงการดำรงอยู่ของสถาบันพระมหากษัตริย์ในประเทศไทย ตรงกันข้าม ข้อเสนอทั้ง 10 ข้อของพวกเขา คือ การนำสิ่งที่พวกเขาเห็นว่าสำคัญอย่างยิ่งยวด

ขึ้นมาพูดคุยอย่างเปิดเผย จริงใจ ตรงไปตรงมา ทั้งหมดก็เพื่อธำรงรักษาสถาบันพระมหากษัตริย์ ให้สอดคล้องกับประชาธิปไตย”

ล่าสุดวันนี้ 11 พฤศจิกายน 2564 อุ๊ หฤทัย ม่วงบุญศรี ศิลปินนักร้องชื่อดัง ได้ออกมาโพสต์ข้อความถึงกรณีดังกล่าว พร้อมทวงถามถึงคามวคืบหน้าคดีที่เคยร้องทุกข์เอาผิดนายปิยบุตรไว้ที่กองปราบว่า

“2 ปีแล้วที่อุ๊​ร้องทุกข์​กล่าว​โทษนายปิยบุตร​ที่สำนักงาน​กองปราบ​ฯ​ เรื่องนาย​ปิยบุตร ​มีเจตนา​ปั่นทอนสถาบัน​พระมหา​กษัตริย์ ​(เสาหลัก​ของชาติ)​​ ให้​สั่นคลอน​ เพื่อ​เจตนา​มุ่งหวัง​ให้​เกิด​เปลี่ยนแปลง​การ​ปกครอง​ หลังจาก​คำพิพากษา​ของศาลรัฐธรรมนูญ​วันนี้ทางกองปราบ​ฯสามารถ​ดำเนิน​การตรวจสอบ​ได้​รึยัง​คะ?”

อย่างไรก็ตามทีมข่าวเดอะทรูธ  ได้ตรวจสอบถึงเนื้อหาที่ อุ๊ หฤทัย เปิดเผยไว้ ก็พบรายละเอียดของคดีนี้เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2562 ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) น.ส.หฤทัย ม่วงบุญศรี หรือ อุ๊ พร้อมทนายความ ได้เดินทางเข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน บก.ป. เพื่อขอให้ตรวจสอบคลิปคำพูดของ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ในขณะนั้น ที่กล่าวในงานเสวนาเรื่อง “การเมืองความยุติธรรมและกษัตริย์” ซึ่งจัดขึ้นที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2556 ว่าขัดต่อความมั่นคงของชาติหรือไม่ พร้อมนำหลักฐานคลิปวิดีโอ ความยาว 51 นาที พร้อมสำเนาบทถอดคำพูดอย่างละเอียดมามอบให้พนักงานสอบสวนด้วย

ทั้งนี้ อุ๊ หฤทัย กล่าวว่า  แม้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมานานแล้ว และไม่เกี่ยวข้องกับพรรคการเมือง แต่การเสวนาดังกล่าวมีการบันทึกเทปเผยแพร่ในสื่อโซเชียลทำให้ประชาชนทุกคนสามารถเข้าไปรับชมรับฟังตลอดเวลา ซึ่งเนื้อหาในการเสวนามีลักษณะการพาดพิงในเรื่องของรัฐสภาที่ปัดตกร่าง พ.ร.บ. แก้ไข มาตรา 112 และพาดพิงสถาบันหลักของชาติ ทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิด

“ในฐานะเป็นพลเมืองแม้ไม่ใช่คู่กรณีของนายปิยบุตร แต่เนื้อหาที่เกิดขึ้นทำให้ประเทศชาติเสียหายเป็นการหวังผลให้เกิดความสั่นคลอนต่อระบบการปกครองที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ตนเองจึงมาร้องกองปราบให้ตรวจสอบว่าเข้าข่ายการกระทำความผิดว่าด้วยเรื่องความมั่นคงหรือไม่”

นอกจากนี้ในวันดังกล่าว ผู้สื่อข่าวยังรายงานด้วยว่า เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวน ได้รับคำร้องไว้พิจารณา และจะสอบปากคำอย่างละเอียด ส่วนจะมีการออกหมายเรียกบุคคลใดหรือไม่ อยู่ระหว่างพิจารณา