“รุ้ง ” ยังแมนกว่า? “ดร.อานนท์” ซัด “ปิยบุตร” คนมุดใต้กระโปรงเด็ก กลัวอะไร ถึงไม่กล้ารับคำท้าดีเบต!

1647

หลังจากเมื่อวันที่ 7 พ.ย. 2564 ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ ได้แสดงความคิดเห็นถึงประเด็นที่คณะก้าวหน้า และพรรคก้าวไกล ได้เปิดเว็บไซต์ลงชื่อแก้ม.112

โดยระบุว่า “ผมว่าคุณเอ๋ อรรถวิชช์ พูดดีที่ว่า ปิยบุตรยุยงให้เด็กทำผิดกฎหมายแต่ตัวเองอยู่รอดปลอดภัยดี ผมเลยอยากท้าดีเบตพวกอาจารย์ที่ยุยงเด็กอยู่เบื้องหลังให้มาดีเบตกับผมพร้อม ๆ กัน คือ ปิยบุตร แสงกนกกุล , ชาญวิทย์ เกษตรศิริ , ประจักษ์ ก้องกีรติ , ทัศนัย ม.เชียงใหม่ มากันให้ครบ ๆ เลยครับ เรื่องสถาบันที่ชอบเอาไปกุ ไปบิดเบือนกันนัก จะมาตรา 112 หรือทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ก็พร้อมจะดีเบตครับ”

ทำให้มีคอมเม้นต์เข้ามาแสดงความคิดเห็นว่า รอชม รอติดตาม อยากรู้ว่าทางนั้นจะกล้ามาดีเบตด้วยหรือไม่ เพราะดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ ได้ท้าไปหลายครั้ง แต่ไม่มีใครกล้ามาดีเบตด้วย ดังนั้นในรอบนี้ที่คณะก้าวหน้าและพรรคก้าวไกล ได้เปิดเว็บไซต์ล่ารายชื่อแก้มาตรา 112 จึงทำให้น่าติดตามว่า คนที่อยู่เบื้องหลัง อยากให้ประชาชนและกลุ่มม็อบ 3 นิ้ว เข้ามาลงชื่อ กลับไม่กล้าออกมานำขบวนเอง

และล่าสุด ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ ได้เคลื่อนไหว โพสต์ถึงนายปิยุบตร ระบุว่า “ขี้แพ้แก้เกี้ยว​ บิดเบี้ยวโทษทุกสิ่ง​ จอมพูดดัดจริตประดิษฐ์วาทกรรม​ นิติธรรมล้มละลาย​ เก่งใต้ชายกระโปรง​ ยุยงปลุกปั่น​ สันดานขี้ขลาดตาขาว”

 

ซึ่งกรณีสืบเนื่องมาจากที่นายปิยบุตร ทวีตข้อความถึงการดีเบตกับนายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคกล้า เรื่องม.112 ผ่านทางรายการของจอมขวัญ และนายปิยบุตร อ้างทำนองว่า ที่ยอมนิ่งเงียบ ให้อีกฝ่ายข่ม มีคนวิจารณ์ว่า ทำไมผมไปดีเบตกับอรรถวิชช์ในรายการจอมขวัญด้วยท่าทีสุภาพเรียบร้อย ไม่สะใจกองเชียร์ เหตุผลดีกว่าแต่โต้วาทีสู้ไม่ได้? ทั้งหมดผมจงใจให้เป็นแบบนี้ ด้วยเหตุผลหลายประการ นอกจากนั้นก็มีอุปสรรคเรื่องการพูดโดยต้องระวังไม่ให้ตัวผมโดน 112 ด้วย เมื่อเราดีเบตในที่สาธารณะกับฝ่ายรอแยลลิสต์ เราต้องแบกน้ำหนักเสมอ เขาพูดอย่างไรก็ไม่เสี่ยง แต่เราพูด เราเสี่ยง 112 ซึ่งประเด็นนี้ ผมชาชินเสียแล้ว ภายใต้ระบอบนี้ เราขึ้นชกกับเขา เราชกได้ด้วยมือข้างเดียว โดยมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า แท้จริงแล้วอาจจะเป็นเพียงการแถมากกว่า

นอกจากนี้ผศ.ดร.อานนท์ ยังโพสต์ข้อความ ระบุอีกด้วยว่า “ถึงน้องรุ้งจะนุ่งกระโปรง ก็ยังกล้ามาดีเบต มีความเป็นสุภาพบุรุษมากกว่าไอ้กะปิบูด ชอบพูดดัดจริตประดิษฐ์วาทกรรม นิติธรรมล้มละลาย มุดยุยงอยู่ใต้ชายกระโปรง” โดยย้อนไปในปี 2563 รุ้ง ปนัสยา แกนนำม็อบราษฎร ได้ดีเบตในประเด็น “พ.ร.บ.จัดระเบียบทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ 2561” กับ ดร.อานนท์ แม้จะพ่ายยับ เพราะไม่ได้ทำการบ้านมา แต่ก็มีเสียงชื่นชมว่า รุ้ง ยังกล้าหาญกว่าพวกผู้ใหญ่ที่หนุนหลังม็อบเสียอีก ที่ปล่อยให้เด็กออกมาสู้ลำพัง แต่คนอื่น ๆ กลับยุยงเด็กอยู่เบื้องหลัง