รู้สึกกลิ่นไม่ดี! กระแสข่าวอื้ออึงในหมู่ชาวเน็ต หวั่นเกิดสงครามจีนบุกไต้หวันเพราะกระแสตึงเครียดเพิ่มขึ้นสูง หลังจากที่กระทรวงพาณิชย์จีนเตือนประชาชนซื้อตุนสินค้าไว้เผื่อกรณีฉุกเฉิน แต่สื่อทางการจีนออกมาโต้ว่า แค่เป็นการเตรียมการใกล้ฤดูหนาว และการระบาดโควิดระลอกใหม่ยังน่ากังวล คำสั่งนี้ต้องการสร้างหลักประกันว่าประชาชนไม่ประมาทหากต้องถูกล็อกดาวน์อีกครั้ง
สำนักข่าวรอยเตอร์ และสื่อต่างชาติหลายฉบับรายงานเมื่อวันที่ 2 พ.ย.2564 ว่า รัฐบาลจีนแจ้งให้ประชาชนสำรองของใช้จำเป็นในชีวิตประจำวัน เผื่อเหตุฉุกเฉิน หลังเกิดความกังวลด้านสินค้าสำรองจากการระบาดของโควิด-19 และฝนตกหนักผิดปกติ
รายงานระบุว่า ประกาศดังกล่าวสร้างความกังวลในสังคมออนไลน์ โดยเฉพาะภายใต้บริบทความตึงเครียดระหว่างจีนกับไต้หวันที่นับวันสูงขึ้น ประกอบกับท่าทีของสหรัฐอเมริกายังคงยั่วยุท้าทายจีนประเด็นไต้หวันอย่างต่อเนื่อง
หนังสือพิมพ์อีโคโนมิก เดลี ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากพรรคคอมมิวนิสต์จีนตอบโต้ชาวเน็ตโดยระบุว่า “อย่ามีจินตนาการเกินไป” พร้อมให้รายละเอียดว่า มาตรการดังกล่าวมีเพื่อเตรียมพร้อมการหากเกิดการล็อคดาวน์ครั้งใหม่
ประเด็นร้อนเกิดขึ้นเมื่อกระทรวงพาณิชย์จีนสั่งให้หน่วยงานท้องถิ่นควบคุมจำนวนสินค้าสำรองและราคาให้มีเสถียรภาพ และรายงานความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น และล่าสุดออกคำเตือนให้ประชาชนตุนสินค้าไว้เผื่ดฉุกเฉิน
รายงานระบุว่า รัฐบาลจีนต้องใช้ความพยายามเป็นพิเศษในการเพิ่มจำนวนสินค้าผักสดและเนื้อหมูในช่วงวันหยุดเทศกาลวันตรุษจีน อย่างไรก็ดี ในปีนี้ สภาพอากาศเลวร้ายทำลายพืชผลในมณฑลซานตง ซึ่งเป็นพื้นที่ปลูกผักที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ และการระบาดระลอกใหม่ของโควิด-19 อาจส่งผลกระทบต่อเสบียงอาหาร
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แตงกวา ผักโขม และบร็อคโคลี่มีราคาสูงขึ้นกว่าเท่าตัว นักเศรษฐศาสตร์คาดว่า อัตราเงินเฟ้อราคาผู้บริโภคในเดือน ต.ค. 64 จะเพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบเป็นรายปี
กระทรวงพาณิชย์จีนกล่าวเสริมว่า หน่วยงานท้องถิ่นควรซื้อผักที่สามารถเก็บไว้ล่วงหน้า และพยายามเสริมสร้างเครือข่ายการจัดส่งฉุกเฉิน เพื่อรับประกันช่องทางการจำหน่ายที่มีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ รัฐบาลจีนยังได้สั่งให้รัฐบาลท้องถิ่นสนับสนุนการปลูกผักทดแทนอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม มูลเหตุแห่งความวิตกกังวลของสาธารณชนนั้นยังคงมีอยู่ต่อไป เนื่องจากสถานการณ์ในช่องแคบไต้หวันมีแต่ตึงเครียดเพิ่มขึ้น เป็นการปฏิสัมพันธ์ที่ซับซ้อนระหว่างสามฝ่ายของจีนและสหรัฐฯ รวมทั้งเกาะไต้หวัน ความไม่แน่นอนจึงปรากฏเด่นชัดและการตัดสินใจที่ผิดพลาดก็มีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นได้มากขึ้น ส่งผลให้ได้รับความสนใจและความหวาดหวั่นในสงครามเพิ่มขึ้นไปด้วย