เปิดเบื้องลึก เหตุ “ทักษิณ” ไม่ส่ง “โอ๊ค” ลูกชายคนโต นำทัพเพื่อไทย สู้ศึกเลือกตั้ง!

2055

หลังจากที่พรรคเพื่อไทยหงายไพ่ใบสำคัญ กลางงานประชุมใหญ่พรรคที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 28 ต.ค. ที่ผ่านมา และมีการเปิดตัว “อุ๊งอิ๊ง” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ลูกสาวคนเล็กของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อให้เข้ามาทำหน้าที่งประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรมพรรคเพื่อไทย

แม้ว่า “อุ๊งอิ๊ง” จะออกตัวว่า สำหรับการเปิดตัว ที่ถูกมองว่าเหมือนเป็นตัวแทนของนายทักษิณที่กลับมาทำงานให้พรรคเพื่อไทยนั้น ตนมองว่าไม่ว่าจะอยู่ในสถานะไหน ก็แยกภาพตนกับนายทักษิณออกจากกันไม่ได้อยู่แล้ว เนื่องจากมีความสัมพันธ์เป็นพ่อลูกกัน ส่วนการตัดสินใจร่วมงานกับพรรคเพื่อไทยครั้งนี้เป็นเรื่องที่พูดคุยกับนายทักษิณอยู่แล้ว การมาในวันนี้เป็นฐานะที่ไม่ใช่นักการเมือง รู้สึกสบายใจมากกว่าและคิดว่าสามารถทำได้ และตนเองยังไม่คิดเรื่องในอนาคตหากถูกเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ตนขอทำหน้าที่ปัจจุบันให้ดีก่อน รวมทั้งดูกระแสตอบรับจากในพรรคด้วย หากมีโอกาสนั้นค่อยมาสัมภาษณ์ตนอีกรอบ

งานนี้ “อุ๊งอิ๊ง” จึงเปรียบเสมือนตัวแทนของทักษิณ ที่อาจจะมีนัยยะพาพ่อกลับบ้าน เพราะในการเปิดตัว “อุ๊งอิ๊ง” ก็ได้กล่าวว่า พ่ออยากกลับมากราบแผ่นดินไทยอีกครั้ง ทำให้กระแสของเจ้าตัว ตอนนี้มาแรงมาก และใคร ๆ ต่างก็มองว่า นี่คือลูกไม้หล่นใต้ต้นของจริง ถ้าในบรรดา 3 พี่น้อง “อุ๊งอิ๊ง” เหมาะที่สุด ที่จะเป็นตัวตายตัวแทนของนายทักษิณ นอกจากนี้ยังมีประเด็นที่โซเชียลตั้งคำถามว่า ทำไมนายทักษิณ ถึงเลือกลูกสาวคนเล็ก แต่กลับไม่เลือกลูกชายคนโต คงด้วยเพราะวีรกรรมในอดีตที่ทำให้ภาพลักษณ์ของ “โอ๊ค พานทองแท้” เทียบกับ “อุ๊งอิ๊ง” ไม่ได้ แม้จะมีประเด็นถูกแฉเรื่องข้อสอบเอนทรานซ์รั่วก็ตาม

“โอ๊ค พานทองแท้” มีประเด็นเรื่อง แอบซุกโพยข้อสอบ ขณะที่เรียนอยู่ชั้นปี 3 เจ้าตัวได้เอาโพยเข้าไปในห้องสอบวิชา การศึกษาระบบการเมืองในเชิงวิเคราะห์ จนมหาวิทยาลัยต้องตรวจสอบหาข้อเท็จจริง และต่อมาก็มีข่าวลือว่า เขาได้ยื่นใบลาออกจากการเป็นนักศึกษา และโอ๊คยังถูกโจมตีและเผยแพร่ข่าวลือด้านลบมาโดยตลอดโดยกลุ่มผู้ต่อต้านทักษิณ จนเริ่มมีบทบาททางการเมืองเด่นชัดนับจากปี 2555 จากกรณีการกล่าวหาว่าอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หนีทหาร และจากนั้นก็ได้แสดงความคิดเห็นทางการเมืองโดยการจ้างคอลัมนิสต์เขียนผ่านทางเฟซบุ๊กของตัวเอง และเป็นประเด็นในสื่อกระแสหลักเรื่อยมา หลังรัฐประหารในประเทศไทย พ.ศ. 2557 เขาถูกทหารควบคุมตัว ในวันที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 ณ ท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ และปรากฏข้อมูลในเอกสารคำร้องฝากขังกลุ่มแอดมินเพจ “เรารักพล.อ.ประยุทธ์” ระบุว่า นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย ทักษิณ ชินวัตร ให้เงินสนับสนุน

และเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2560 กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ออกหมายเรียกให้ นายพานทองแท้ เข้ารับทราบข้อหาฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน ต่อมาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางมีคำพากษาเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 ให้ยกฟ้องคดีนี้

จนเมื่อ 28 พ.ค.2563 สำนักงานอัยการสูงสุด มีคำสั่งไม่ยื่นอุทธรณ์ คดีหมายเลขดำที่ อท.245/2561 ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายพานทองแท้ ชินวัตร ลูกชาย นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี คดีร่วมกันกันฟอกเงินทุจริตเงินปล่อยกู้ธนาคารกรุงไทย จำกัด จำนวน 10 ล้านบาท ในความความผิดฐานร่วมกันฟอกเงิน และสมคบคบกันฟอกเงิน ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 5 , 9 , 60 และ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2558 มาตรา 10 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 , 91

นอกจากนี้ยังมีเหตุการณ์เมื่อครั้งที่โอ๊คมาศาล เพื่อฟังผลคดีฟอกเงิน โดยในโลกโซเชียลก็ยังพากันแชร์คลิปในอดีตช่วงนั้น ที่ “โอ๊ค พานทองแท้” ให้สัมภาษณ์สื่อ แบบอารมณ์ไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเท่าไหร่ พร้อมแซวด้วยว่า “นายกฯของผมต้องคนนี้เท่านั้น”

ทั้งนี้ภาพลักษณ์ของ “โอ๊ค พานทองแท้” ดูไม่ได้รับความนิยมมากนัก เพราะเจ้าตัวชอบเคลื่อนไหวการเมือง และโพสต์ข้อความโจมตีบิ๊กตู่ รวมทั้งรัฐบาล ที่บางครั้งก็ออกแนวข้าง ๆ คู ๆ แม้แต่กองเชียร์พวกเดียวกันยังไม่เห็นด้วย

อย่างไรก็ตาม ยังมีนักเขียนดังอย่าง “ผักกาดหอม” มองประเด็นนี้ไว้ด้วยว่า ลูกไม้หล่นใต้ต้น! ทายาททางการเมืองของ “ทักษิณ” คือ “อุ๊งอิ๊ง” นี่แหละ ไม่ใช่ “โอ๊ค อ๊าก” และ “อุ๊งอิ๊ง” ต่างหากที่ประกาศนโยบายใหม่ และทิศทางใหม่ของเพื่อไทย “ยิ่งลักษณ์” เป็นนายกฯ ตอนอายุ ๔๔ ปี วันนี้ “อุ๊งอิ๊ง” 35 ปีแล้ว เข้าคุณสมบัติการเป็นนายกฯ ตามรัฐธรรมนูญซึ่งกำหนดไว้ที่ 35 ปีพอดี การเลือกตั้งครั้งหน้าถ้าพรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้งถล่มทลาย และตั้งรัฐบาลสำเร็จ “อุ๊งอิ๊ง” จะเป็นนายกฯ ที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ คือ 37 ปี นี่คือเกมใหม่ที่ “ทักษิณ” แบออกมาแล้ว