นายกทิพย์สะดุ้ง! “นักข่าวประวิตร” เหน็บ “พิธา” ขึ้นชิงนายก? ถามแรง มีนโยบายลดความรุนแรงในครอบครัวยังไง!? 

1938

นายกทิพย์สะดุ้ง! “นักข่าวประวิตร” เหน็บ “พิธา” ขึ้นชิงนายก? ถามแรง มีนโยบายลดความรุนแรงในครอบครัวยังไง!?

จากกรณีเมื่อวันที่ 16 ตุลาคมที่ผ่านมา ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ จ.ขอนแก่น หรือไคซ์ พรรคก้าวไกลได้กำหนดจัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี ครั้งที่ 1/2564 โดยมีคณะกรรมการบริหารพรรค , สมาชิกพรรค, ส.ส.ของพรรค รวมทั้งว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ในหลายจังหวัดของภารอีสาน เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง

โดยทางนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่า การประชุมของพรรคก้าวไกล ที่ผ่านมาห่างเหินกันไปนานเนื่องจากวิกฤตโควิด-19 การเดินทางที่ยากลำบาก ทำให้ไม่มีโอกาสได้ประชุมกัน ไม่ได้จัดทัพเพื่อเตรียมต่อสู้ ในปีที่จะถึง ทั้งนี้การมาภาคอีสานต้องการมาร่วมทุกข์ร่วมสุขกับประชาชน ซึ่งได้เห็นช่วงที่ชาวนากำลังลำบาก ทั้งเรื่องราคาพืชผลการเกษตร

ทั้งยังเผชิญกับภาวะน้ำท่วมซ้ำซาก แต่พื้นที่อีสานยังคงแล้งต่อไป ซึ่งเป็นเรื่องที่อยู่คู่กับอีสานมานาน ตนในฐานะพรรคก้าวไกลอยากจะอยู่ใกล้ๆ เขาเพื่อแก้ปัญหาในเบื้องต้น ในการเปิดสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 1 พ.ย.นี้ ขณะเดียวกันก็ต้องการมาเห็นกับตาเพื่อนำข้อมูลไปจัดทำนโยบายในการเลือกตั้งครั้งต่อไป ทั้งนี้หากแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ ที่ดิน เรื่องน้ำ ให้คนอีสานได้ เชื่อว่าจะสามารถชนะใจคนอีสานได้

โดยในการเลือกตั้งในครั้งหน้า ทางพรรคก้าวไกลได้เสนอชื่อ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ซึ่งก็ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เป็นจำนวนมาก โดยมีการนำประเด็นของชีวิตครอบครัวของนายพิธา ที่มีการพูดถึงเรื่องของควมารุนแรงในครอบครัว

ล่าสุดทางด้าน นายประวิตร โรจนพฤกษ์ นักข่าวอาวุโสประจำข่าวสด ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีดังกล่าว โดยระบุข้อความว่า

ในเมื่อพิธาประกาศพร้อมจะเป็นผู้ชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแล้ว ผมก็ขอประกาศว่าอยากเห็นคุณพิธาพูดให้ชัดว่าตนเองและพรรคก้าวไกลจะมีนโยบายเรื่องการลดความรุนแรงในครอบครัว และป้องกันการทำร้ายร่างกายภรรยา (หรือสามี) อย่างไรบ้าง – เรื่องนี้สำคัญ เป็นเรื่องหลักการ และหวังว่าพิธาจะไม่เลี่ยง #ป #พิธา #ก้าวไกล

ย้อนไปเมื่อปี 2562 ต่าย ชุติมา ทีปะนาถ อดีตภรรยาของนายพิธา ได้ยื่นฟ้องอดีตสามี ต่อมาศาลมีคำสั่งและตัดสิน ยกคำร้อง คดีคุ้มครองสวัสดิภาพความรุนแรงในครอบครัว โดยทางต่าย ชุติมา ได้เปิดเผยว่า ต้องขอชี้แจงก่อนว่าคดีนี้ไม่ได้เกี่ยวกับคดีก่อนหน้านี้ คนหลายคนจะเอาไปปนกันว่าเราฟ้องเขา เขาฟ้องเรา คือคดีนี้มันเป็นคดีที่แยกออกไป ไม่เกี่ยวอะไรกับเด็ก คดีนี้เป็นคดีเกี่ยวกับความรุนแรงในครอบครัว หมายถึงเรื่องของการทำร้ายร่างกายที่ต่ายยื่นฟ้องไปทางคุณทิม

เป็นการฟ้องเพื่อคุ้มครองสิทธิ์ในตัวเรา พอเหมือนเราได้ไปปรึกษาทางกระทรวง พม. กับมูลนิธิส่งเสริมความเสมอภาค ตอนแรกเราก็ไม่แน่ใจว่าสิ่งที่เราเจอมามันถูกต้องตามทำนองคลองธรรมหรือเปล่า หรือว่ามันเป็นสิ่งที่ภรรยาคนนึงต้องรับมันให้ได้ แต่พอทางผู้ใหญ่แนะนำว่าควรจะดำเนินคดีเพราะฟังดูน่าเป็นห่วงก็เลยตัดสินใจฟ้อง

วันนี้ พอไต่สวนแล้ว มีการทำร้ายร่างกายจริงแต่ไม่ถึงกับเป็นความรุนแรงในครอบครัว แต่ว่ามันก็กระทบจิตใจของเรา คือถึงมันไม่รุนแรงแต่มันก็มีความกังวลในการอยู่ร่วมกัน