เสียงตีกลับ! “ธนาธร” ลั่นแม้อนาคตใหม่ถูกยุบ ก็หยุด “ก้าวไกล” ไม่ได้ เจอโซเชียลสวน ส.ส.ไม่ทำประโยชน์ แถมวุ่นแต่เรื่องม็อบ!

1988

หลังจากเมื่อวันที่ 15 ต.ค. 2564 นายพิธา​ ลิ้มเจริญรัตน์​ หัวหน้าพรรคก้าวไกล​ นำทีมว่าที่ผู้สมัคร ​ส.ส.จังหวัดขอนแก่น สักการะศาลหลักเมือง​จังหวัดขอนแก่น พร้อมประกาศปักธงอีสาน​หน้าอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยขอนแก่น​ โดยนายพิธา​ กล่าวว่า​ จังหวัดขอนแก่นถือเป็นประตูสู่อีสาน​

และเชื่อว่าถ้าอยากจะเป็นนายกฯ ต้องเอาชนะใจคนอีสานให้ได้ ซึ่งเจ้าตัวก็ได้กล่าวด้วยว่า “อย่างที่พวกเราพรรคก้าวไกลยืนยันมาโดยตลอดว่าจะเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยได้ ต้องชนะใจคนอีสานให้ได้ ด้วยอุดมการณ์ที่แน่วแน่และความจริงใจทั้งหมดที่เรามี เราจะพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะชนะใจคนขอนแก่นและประชาชนทั้งหมดในภาคอีสานต่อไป เมื่อคนอีสานไว้วางใจพรรคก้าวไกล ผมก็จะเป็นนายกรัฐมนตรีแห่งการเปลี่ยนแปลง ผมก็จะพาให้พรรคก้าวไกลเป็นพรรคแห่งการเปลี่ยนแปลง”

ต่อมามีการแชร์ข้อความที่ นางอมรัตน์​ โชติปมิตต์กุล​ ส.ส.ก้าวไกล ได้ทวีตข้อความไว้ว่า “ถึงคิววัวชัยภูมิ ต้อนรับนายกควาย” ซึ่งข้อความนี้ อาจจะดูเป็นการใช้ถ้อยคำไม่เหมาะสม ถึงพี่น้องชาวอีสานด้วย ทำให้มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า ถ้านายพิธาอยากชนะใจคนอีสาน ก็ต้องดูพฤติกรรมลูกพรรคด้วย ไม่ใช่ไปพิมพ์เชิงดูถูกแบบนี้

ขณะที่เมื่อวันที่ 16 ต.ค. 2654 เพจเฟซบุ๊กของพรรคก้าวไกล – Move Forward Party ได้โพสต์ภาพที่นายพิธา ขึ้นปราศรัย ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติขอนแก่น ซึ่งก่อนเปิดเวทีปราศรัยนำเสนอนโยบายพรรคต่อประชาชนภายใต้ชื่องาน “ก้าวไกล ไปนำแหน่” โดยมีการปราศรัยของทั้งแกนนำพรรค ตัวแทนว่าที่ผู้สมัครของพรรคก้าวไกลในภาคอีสาน และงานแสดงทางวัฒนธรรม ท่ามกลางประชาชนและผู้สนับสนุนพรรคที่เข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก แต่จากการโพสต์ข้อความและหัวข้อการปราศรัยที่ว่า [ประชุมใหญ่ “ก้าวไกล”ประกาศปักธงอีสาน ประกาศวิสัยทัศน์พลิกชะตาดินแดนต้องคำสาปห้ามพัฒนา] ก็ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ 2 มุมมอง โดยมีพี่น้องชาวอีสานเข้ามาคอมเม้นต์ว่า ชื่นชมพรรคก้าวไกล จะขอเลือกนายพิธาเป็นนายกฯ อยากให้พื้นที่บ้านเราได้พัฒนา และเชื่อว่าพรรคนี้ทำได้แน่นอน

ล่าสุดทางด้านนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ได้ทวีตข้อความในทวิตเตอร์ ระบุว่า “นั่งย้อนดูไลฟ์การประชุมใหญ่ของพรรคก้าวไกลแล้วผมรู้สึกภูมิใจอย่างมาก และเชื่อมั่นว่าก้าวไกลไปต่อได้อย่างเข้มแข็ง กระตือรือร้น พร้อมรับใช้ประชาชน พิสูจน์แล้วว่าการยุบพรรคอนาคตใหม่ เอาธนาธร-ปิยบุตร ออกจากสภา ไม่มีผลอย่างสิ้นเชิง #ก้าวไกลไปนำแหน่”

ทำให้มีคอมเม้นต์ชื่นชมในการนำทีมของก้าวไกล ที่เดินหน้ามาเรื่อย ๆ นับตั้งแต่วันที่พรรคอนาคตใหม่โดนยุบ พร้อมทั้งชมว่า เพราะมีนายธนาธรหว่านพืชไว้แบบนี้ ขณะเดียวกันก็มีบางคอมเม้นต์เข้ามาสวนกลับด้วยว่า ที่เขายุบพรรค เพราะทำผิดกฎหมายไม่ใช่เหรอ หยุดโทษคนอื่นแล้วมองสันดานตัวเองเสียบ้าง

 

 

นอกจากนี้ในเพจเฟซบุ๊ก Street Hero V3 ได้โพสต์ถึงประเด็นนี้ด้วยว่า “ใครไปบังคับให้พวกคุณเอาเปรียบพรรคอื่น โดยที่หัวหน้าพรรคปล่อยเงินกู้ยืมเงินจำนวน 191 ล้านบาทให้พรรคตัวเอง” ทำให้มีชาวโซเชียลวิพากษ์วิจารณ์ด้วยว่า ยังกล้าพูดว่าภูมิใจ ทางเรานี่อายแทนจนเหนื่อย , “พร้อมรับใช้ประชาชน” ใช้ปากพูดหรือใช้ตูดพูด พรรคนี้ไม่เห็นทำอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนหรือประเทศชาติสักนิด แถมสร้างปัญหาไม่จบไม่สิ้น เปลืองภาษีของประเทศ

อย่างไรก็ตามที่มา จะพบว่าสมาชิกพรรคก้าวไกล หลายคน ต่างทำหน้าที่ใช้ตำแหน่งส.ส.ช่วยประกันตัวแกนนำ และผู้ที่โดนแจ้งข้อหา 112 อยู่ต่อเนื่อง จนทำให้สังคมมองว่าพรรคนี้อาจจงใจหนุนม็อบที่ต้องการล้มล้างสถาบันฯ ดังนั้นคำกล่าวของนายธนาธรที่ว่า พร้อมรับใช้ประชาชน อาจจะฟังไม่ขึ้น เพราะยังมีพฤติกรรมของส.ส.ที่แสดงออกไม่เหมาะสม รวมทั้งการเลือกตั้งที่ผ่านมา น่าจะเป็นตัวชี้วัดได้ว่า สุดท้ายแล้วประชาชนยอมรับก้าวไกลมากน้อยแค่ไหน