อดีตนักการทูตไทยสัมภาษณ์สื่อจีน?!?ยินดี 100 ปีแห่ง ‘พรรคคอมมิวนิสต์จีน’ นำทางจีนสู่ความก้าวหน้า ปชช.พ้นความยากจน

1639

ประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน:People’s Republic of China (PRC)ได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2518 ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศมีความใกล้ชิด มีการแลกเปลี่ยนการเยือนในทุกระดับอย่างสม่ำเสมอ และมีการขยายความร่วมมือเชิงลึกในทุกมิติ โดยในปี 2564 จะครบรอบ 46 ปีของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับจีน

การเสด็จฯ เยือนจีนของพระบรมวงศานุวงศ์ของไทยมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อการเสริมสร้าง และกระชับความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น รวมทั้งการส่งเสริมมิตรภาพและความเข้าใจระหว่างประชาชนของสองประเทศอีกด้วย

วันที่ 30 พ.ค.2564 สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นายเตช บุนนาค อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทยให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซินหัวเมื่อไม่นานนี้ว่า กว่า 100 ปีที่ผ่านมา พรรคคอมมิวนิสต์จีน (CPC) ได้ฝ่าฟันอุปสรรคนานัปการ จนสามารถนำพาประเทศชาติสู่การพัฒนาและความรุ่งเรืองสำเร็จ

“เห็นได้ชัดว่าหากไม่มีพรรคคอมมิวนิสต์จีน ประเทศจีนก็จะไม่เป็นเช่นทุกวันนี้” เขากล่าวเนื่องในวาระครบรอบ 100 ปีของการก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์จีนในปีนี้

เตชซึ่งเป็นเอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศจีนในช่วงปี 1986-1990 ได้เป็นประจักษ์พยานในการเปิดประเทศของจีนสู่โลกภายนอก และการเปลี่ยนแปลงจากประเทศที่ขาดการพัฒนาและยากจนสู่ประเทศที่มีคุณูปการสำคัญต่อเศรษฐกิจโลก

“ผมเดินทางไปจีนครั้งแรกในปี 1973 ตอนนั้นเซินเจิ้นยังเป็นเพียงหมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ ทว่าบัดนี้กลับกลายเป็นเมืองนานาชาติที่มีผู้อยู่อาศัยมากกว่า 10 ล้านคน ทั้งยังเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีขั้นสูง” ชายวัย 77 ปีกล่าว

เขากล่าวว่าการนำทางของพรรคคอมมิวนิสต์ ทำให้จีนก้าวไกลครั้งใหญ่ในทุกด้าน ซึ่งสิ่งที่ทำให้เขาประทับใจมากที่สุดคือความมั่งคั่งของจีนที่เติบโตอย่างรวดเร็ว

ชาวจีนมีความสุขกับผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ต่อหัวและมาตรฐานการครองชีพที่สูงขึ้นกว่าที่เคยมีมา อีกทั้งจีนยังประสบความสำเร็จในการขจัดความยากจนขั้นสูงสุด เตชยังเล่าถึง ‘ความน่าทึ่ง’ ของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของจีนในการเดินทางจากปักกิ่งสู่เทศบาลนครเทียนจิน ระยะทางราว 110 กิโลเมตร ซึ่งเขาเคยใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมง ทว่าปัจจุบันกลับใช้เวลาเพียงครึ่งชั่วโมงเท่านั้นด้วย ‘รถไฟความเร็วสูง’

ตลอดระยะเวลา 100 ปีพรรคคอมมิวนิสต์จีนได้ก้าวเดินอย่างมั่นคงบนเส้นทางของสังคมนิยมอันมีอัตลักษณ์จีน ปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงและปรับเปลี่ยนนโยบายของตนอย่างยืดหยุ่น ซึ่งเตจเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้คือจุดแข็งของพรรคฯ

จีนมุ่งมั่นที่จะปฏิรูปและเปิดกว้าง สร้างสรรค์สิ่งใหม่เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนา หยิบยกข้อเสนอต่างๆ เช่น แผนริเริ่ม หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง (BRI) ส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในรูปแบบใหม่ สร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันของมนุษยชาติ และมีส่วนร่วมในการพัฒนาโลก

เตชกล่าวว่า “ผมมั่นใจว่าพรรคคอมมิวนิสต์จีนจะเปลี่ยนแปลงและพัฒนาต่อไปเพื่อผลประโยชน์ของชาวจีน” 

เมื่อพูดถึงการต่อสู้กับโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) เขากล่าวว่าจีนควบคุมการแพร่ระบาดภายในประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพในระยะเวลาอันสั้น ขณะเดียวกันก็เป็นประเทศแรกที่เริ่มพัฒนาวัคซีน พร้อมทั้งแสดงความมุ่งมั่นในการทำให้วัคซีนดังกล่าวเป็นสินค้าสาธารณะเพื่อช่วยเหลือนานาชาติ

เขากล่าวย้ำว่า“วัคซีนตัวแรกที่ใช้ในประเทศไทยก็มาจากบริษัทซิโนแวค (Sinovac) สัญชาติจีน ซึ่งเราจะยังคงร่วมมือกับจีนต่อไปในการขับเคลื่อนโครงการรณรงค์การฉีดวัคซีนของเรา”