กองทัพเรือสหรัฐฯ แถลงยอมรับว่าเรือดำน้ำจู่โจมที่ปฏิบัติการในน่านน้ำทะเลจีนใต้ ชนวัตถุใต้น้ำ ทำให้ลูกเรือหลายคนได้รับบาดเจ็บ และทำให้เรือเสียหาย การนำเรือดำน้ำนิวเคลียร์เข้ามาสอดแนมและปฏิบัติภารกิจในทะเลจีนใต้นั่นน่าจะหมายความว่า สหรัฐกำลังละเมิดสนธิสัญญาอาเซียน ที่ระบุพื้นที่น่านน้ำทะเลจีนใต้เป็นเขตปลอดอาวุธนิวเคลียร์อย่างเห็นได้ชัดหรือไม่
ในขณะที่เรียกร้องให้ประเทศต่างๆทั่วโลก ต้องไม่สร้างหรือสะสมอาวุธนิวเคลียร์ แต่สหรัฐกลับอวดอำนาจ นำเรือรบ เรือดำน้ำติดอาวุธนิวเคลียร์ร่อนไปทั่ว แล้วถูกจับได้ล่าสุดเพราะว่ามาสอดแนมทะเลจีนใต้ และความแตกเพราะดันไปชนวัตถุบางอย่าง ซึ่งอ้างว่าไม่รู้ว่าเป็นอะไร ส่งผลให้มีการบาดเจ็บ เรือดำน้ำเสียหายบางส่วน โลกจึงรู้ว่า นอกจากซ้อมรบบนน่านน้ำในท้องทะเลจีนใต้แล้ว ยังส่งเรือดำนำมุดสอดแนมประเทศอื่น อ้างยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิกที่เสรีและเปิดกว้าง แบบนี้หมายความว่าอะไร? จับตาดูต่อไปว่าอาเซียนจะมีท่าทีต่อเรื่องนี้อย่างไร?
เมื่อวานนี้ วันที่ 7 ต.ค.2564 สำนักข่าว USNI News เว็บไซต์ที่รายงานข่าวกองทัพเรือโดยเฉพาะ และสื่อต่างประเทศหลายสำนักรายงานข่าวว่ามีลูกเรือสหรัฐราว 10 กว่าคนได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์เรือดำน้ำนิวเคลียร์ชนวัตถุไม่ระบุชนิด ขณะปฏิบัติหน้าที่ในทะเลจีนใต้
ยูเอสเอสคอนเน็คติกัต (USS Connecticut) เป็นเรือดำน้ำจู่โจมเร็วพลังงานนิวเคลียร์ชั้นซีวูล์ฟ (Seawolf) ชนเข้ากับวัตถุที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ ในขณะที่แล่นอยู่ใต้น้ำเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม กองเรือแปซิฟิกของกองทัพเรือกล่าวว่ามีลูกเรือเกือบโหลได้รับบาดเจ็บ แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บที่ถือว่าเป็นอันตรายถึงชีวิต
กองทัพเรือสหรัฐระบุว่าเป็นเรือที่เงียบเป็นพิเศษ เร็ว ติดอาวุธมาอย่างดี และติดตั้งเซ็นเซอร์ที่ทันสมัยที่สุด มีท่อยิงตอร์ปิโด 8 ท่อ
สถาบันนาวิกโยธินสหรัฐ (USNI) อ้างถึงวัตถุที่ถูกชนว่า”ไม่ทราบชนิด”และกล่าวว่าเรือดำน้ำกำลังปฏิบัติการในทะเลจีนใต้ในขณะที่เกิดอุบัติเหตุ
ความเสียหายต่อเรือดำน้ำยังอยู่ในระหว่างการประเมิน และเหตุการณ์ดังกล่าวจะถูกสอบสวนตามคำแถลงของกองทัพเรือ USS Connecticut ซึ่งกำลังเดินทางไปยังท่าเรือในกวม
USNI ระบุว่า “เรือดำน้ำยังคงปลอดภัยและอยู่ในภาวะเสถียร เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ของยูเอสเอส คอนเนตทิคัต ไม่ได้รับความเสียหาย และยังคงทำงานอย่างสมบูรณ์”
ตามรายงานของสำนักข่าว CNN เรือรบ USS Connecticut อยู่ในทะเลจีนใต้ เนื่องจากเรือจากประเทศต่างๆ รวมถึงสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย สหราชอาณาจักร และญี่ปุ่น ทำการซ้อมรบครั้งใหญ่ เพื่อแสดงความสามารถทางทหารของพวกเขา ตามวาระต้านจีนอย่างท้าทาย
ความตึงเครียดในอินโดแปซิฟิก โดยเฉพาะน่านน้ำทะเลจีนใต้เพิ่มขึ้นระอุเดือด จุดอันตรายที่เหมือนระเบิดเวลาอยู่ที่ช่องแคบไต้หวัน ที่สหรัฐและพันธมิตรส่งเรือรบแล่นเข้าช่องแคบไต้หวันติดต่อกัน ขณะที่รัฐบาลไต้หวันประกาศจุดยืนต้องการแยกเป็นอิสระจากจีนแผ่นดินใหญ่ พร้อมทั้งยกระดับทางการทหาร สั่งซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์จากสหรัฐอย่างต่อเนื่อง
และล่าสุดกองทัพจีนได้แสดงเจตนารมย์อย่างชัดเจนจะมีการรวมชาติเกาะไต้หวันอย่างแน่นอนและพร้อมเผชิญหน้า การรุกรานทุกรูปแบบจากสหรัฐและพันธมิตร
ปักกิ่งออกแถลงการณ์ตำหนิวอชิงตันหลายครั้งที่สหรัฐฯส่งเรือรบ และเครื่องบินรบเข้า สู่ทะเลจีนใต้และช่องแคบไต้หวันโดยเรียกว่าการกระทำของสหรัฐเป็นภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุดต่อสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค
ด้านสหรัฐฯ เรียกร้องให้จีนหยุดกิจกรรมทางทหารว่าเป็นการยั่วยุ แต่การขายอาวุธให้ไต้หวันการส่งเสริมแยกดินแดน บอกเป็นการส่งเสริมประชาธิปไตย และการรวมพวกมาซ้อมรบโชว์แสนยานุภาพยิ่งสุมไฟให้ความขัดแย้งขยายวงมากขึ้น แม้ว่าจะมีการโหมข่าวว่าปักกิ่งและวอชิงตันตกลงที่จะจัดการประชุมสุดยอดเสมือนจริงก่อนสิ้นปีนี้ กรณีไต้หวัน ก็แค่สร้างภาพทางการทูต เพราะพฤติกรรมทางการทหารสวนทางคำพูดอย่างโจ่งแจ้ง