หลังจากที่กลุ่ม “ทะลุฟ้า” นัดหมายชุมนุม ขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นากยกรัฐมนตรี โดยประกาศรวมตัวที่แยกนางเลิ้งในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ก่อนเคลื่อนขบวนไปยังทำเนียบรัฐบาล เขตดุสิต กรุงเทพฯ เพื่อต่อต้านรัฐบาลที่บริหารล้มเหลว และหยุดความเสียหายของประเทศ
เมื่อนับจนถึงวันนี้เป็นความพยายามครั้งที่ 4 ของกลุ่มทะลุฟ้า ในการเดินเท้าไปประท้วงให้ถึงหน้าทำเนียบรัฐบาล แต่ไม่เป็นผลสำเร็จ เพราะเจ้าหน้าที่คฝ. ชิงสกัดเชิงรุก หน่วยเคลื่อนที่เร็วสามารถปราบกลุ่มผู้ชุมนุมจนแตกกระเจิงหลายครั้ง
ซึ่งทิศทางการเคลื่อนไหวของม็อบนับจากนี้ ถ้าให้มองจากหลาย ๆ มุม ถือว่าม็อบทุกกลุ่มกำลังโดนสกัดรอบด้าน ทั้งกลุ่มผู้ชุมนุมด้วยกันเอง ที่จำนวนลดน้อยลง มีกลุ่มเครือข่าย 3 นิ้วที่เท ไม่ขอร่วมด้วย ตามที่โบว์ ณัฏฐา นักเคลื่อนไหวการเมืองเตือนไว้ว่า ป่านนี้กลุ่มที่ดินแดงจะรู้ตัวหรือยังว่าโดนเท กลับบ้านเถอะน้อง ๆ
และเจอประชาชนกดดัน เช่น คดีที่จับมือยิงเด็ก 15 ปี แล้วอ้างว่าม็อบก่อความรำคาญ เพราะบ้านตนเองนั้นอยู่ที่แฟลตดินแดง รับไม่ได้กับการชุมนุมที่ก่อความวุ่นวายรายวัน จึงตัดสินใจลงมือ รวมทั้งเจอศึกหนักจาก “ผบช.น.” คนใหม่ ที่ถือว่าเป็นสายโหด พร้อมจัดการม็อบให้สิ้นซาก
ทั้งนี้ที่ผ่านมา การเคลื่อนไหวของทั้งกลุ่มทะลุแก๊สที่แยกดินแดงนั้น เจ้าหน้าที่คฝ.สามารถสกัดและยึดพื้นที่ไว้ได้ทุกครั้ง จนทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมก็ตอบโต้กลับอย่างหนัก เพราะไม่พอใจ จนกลุ่มนี้ประกาศย้ายหัวขบวนมาที่แยกนางเลิ้ง ร่วมกับกลุ่มทะลุฟ้า ที่เคลื่อนไหวม็อบตามคำฝากฝังของ “ไผ่ ดาวดิน” แกนนำคนสำคัญที่กำลังอยู่ในเรือนจำ และเมื่อวันที่ 28 ก.ย. ที่ผ่าน “ป้าเป้า” ใช้กลยุทธ์ใหม่ โชว์ถอดเสื้อผ้า ทำสิ่งที่ไม่เหมาะสม จนมวลชนในม็อบเดียวกัน และกองหนุนยังบอกว่ารับไม่ได้ เป็นการกระทำที่เกินจากจุดข้อเรียกร้อง
และไม่ว่าตอนนี้กลุ่มทะลุฟ้ากับกลุ่มทะลุแก๊ซ จะเคลื่อนไหวม็อบในรูปแบบไหน ก็ดูเหมือนว่าจะเป็นการนับถอยหลังรอวันจบเท่านั้น เพราะต่อให้เดินหน้ามากกว่านี้ ก็มีมวลชนร่วมจำนวนน้อย ไปต่อก็แป้ก หรือจะถอยหลังกลับก็คงไม่ทันแล้ว เพราะได้สร้างความป่วนรายวัน ทำลายทรัพย์สินราชการ จนมีคดีติดตัวกันไม่ใช่น้อย ๆ ตามที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ได้แจ้งไว้ว่า ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมถึงปัจจุบันมีคดีที่เกี่ยวกับการชุมนุม 236 คดี มีผู้อยู่ในข่ายจะต้องถูกดำเนินคดี 878 คน สามารถจับได้แล้ว 633 คน
รวมถึงงานนี้ “บิ๊กปั๊ด” ผบ.ตร. ส่งตรงถึง “ผบช.น.” คนใหม่ พล.ต.ต.สำราญ นวลมา ให้จัดเต็มปราบม็อบให้สิ้น ไม่ว่าจะกลุ่มไหนก็ตาม การที่พล.ต.ต.สำราญ ขึ้นมารับตำแหน่งเพราะ”ผบช.น.” และมีอำนาจเด็ดขาด รวมทั้งแนวทางจัดการกลุ่มผู้ชุมนุม คาดว่าคงทำให้ฝั่งม็อบ รู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ อยู่บ้าง เพราะใคร ๆ ก็ทราบดีว่า พล.ต.ต.สำราญ นั้น ถือเป็นตัวเต็งที่จะได้ขึ้นมารับตำแหน่งดังกล่าว และยังอายุน้อย ปัจจุบันอายุ 48 ปีเท่านั้น เส้นทางในการทำงานตำรวจ มีผลงานเด่นชัด และถือเป็นสายแข็งที่สุดในรุ่นเดียวกันด้วย เป็นนักเรียนตำรวจรุ่น 50 ตั้งแต่เป็น ผลงานที่ผ่านมา มีทั้งสว.งานสายตรวจ 2 รอง ผกก.สายตรวจ เป็น ผกก.สายตรวจ กระทั่งขึ้น เป็น รอง ผบก.การสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ 191 ก้าวกระโดดแซงหน้าเพื่อน ๆ อย่างมาก
ที่ผ่านมาม็อบอาจจะประเมินการรับมือของคฝ.ต่ำไป คิดว่าเจ้าหน้าที่อ่อนข้อให้ ถึงยังได้ลอยนวล และแกนนำเบื้องหลังยังได้ใจ ส่งเด็ก ๆ มาเป็นโล่รับหน้าแทน แต่หลังจากนี้เชื่อได้ว่า การรับมือของเจ้าหน้าที่จะดุเดือด เข้มข้นมากขึ้น หากกลุ่มป่วนยังไม่หยุด สุดท้ายอาจจะจบที่คุก เดินตามแกนนำไปอย่างแน่นอน