ไม่สนใจ ขอแค่ได้คะแนน! พรรคก้าวไกล โดนฉะเละ ส่ง “อดีตกปปส.” ลงสมัครเลือกตั้ง หวังดึงฐานเสียง?

2567

หลังจากเมื่อวันที่ 14 ก.ย. 64 มีรายงานว่า ทางพรรคก้าวไกลกำลังดำเนินกระบวนการคัดเลือกผู้สมัคร ส.ส. เพื่อเตรียมส่งลงแข่งขันในการเลือกตั้งครั้งหน้า ได้เกิดประเด็นดราม่าการคัดเลือกตัวผู้สมัครที่มีความเกี่ยวข้องกับการชุมนุม กปปส. รวมถึงการแสดงความเห็นทางการเมืองที่ย้อนแย้งต่ออุดมการณ์ของพรรค

โดยการคัดเลือกในส่วนพื้นที่ภาคเหนือ มีการขุดประวัติอดีตของผู้สมัครบางคนที่เคยเข้าร่วมการชุมนุมกับ กปปส. และเคยแสดงความเห็นที่เห็นดีเห็นงามให้ใช้ความรุนแรงกับคนเสื้อแดงด้วย จนทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหลากหลาย ทั้งไม่พอใจที่พรรคไม่มีระบบคัดสรรคนอย่างไม่มีคุณภาพ ซึ่งอาจจะทำให้ได้ ส.ส.ที่กลายเป็นงูเห่าในอนาคต และรับได้หากคนหนึ่งได้กลับใจเปลี่ยนแนวคิดมาอยู่ฝั่งประชาธิปไตยนั้น

ล่าสุดทางด้านนายพงศธร ศรเพชรนรินทร์ ทีมผู้สมัครนายก อบจ.ระยอง ตำแหน่งรองนายกอบจ.ระยอง คณะก้าวหน้า ได้โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า ก้าวไกล-อดีตกปปส.-โอเทลโล่แห่งการเปลี่ยนแปลงสังคม จากกรณีมีคนจงใจโจมตีก้าวไกลหรือบางคนอาจตั้งคำถามด้วยความเป็นห่วงว่าทำไมมี ส.ส.บ้าง ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.บ้าง ทีมงานบ้าง เป็นอดีต กปปส. สิ่งที่ขุดคุ้ยโจมตีบางเรื่องไม่จริง แต่แน่นอนครับในพรรคมีบุคลากรหลายคนในหลายบทบาทเป็นอดีต กปปส.แล้วไง????

หากเราไม่พอใจดาราหรือผู้กำกับรุ่นใหญ่ที่เที่ยวไล่คนออกจาก “แผ่นดินของพ่อ” ฉันใด เราก็ไม่ควรไล่ใครออกจาก “แผ่นดินไทย” ฉันนั้น การหวังจะเปลี่ยนแปลงสังคมเราย่อมต้องได้รับการสนับสนุนจากผู้คนจำนวนมากเมื่อเราไม่ควรไล่หรือโยนใครออกนอกกระดาน หากเปรียบดั่งการเดินหมากโอเทลโล่ วิธีพลิกเกมส์บนกระดานที่เต็มไปด้วยหมากสีดำคือเราต้องวางหมากเพื่อ “เปลี่ยนหมากสีดำเป็นหมากสีขาว” ให้มากที่สุดจึงจะเอาชนะได้

การเมืองว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสังคมก็เช่นกัน หากเราต้องการให้สังคมเปลี่ยนไปในทิศทางใดเราย่อมต้องโน้มน้าวผู้คนให้เปลี่ยนมาเห็นพ้องต้องกันกับเราให้มากที่สุดมิใช่หรือ ยิ่งมีอดีตพันธมิตร อดีต กปปส. “เปลี่ยนใจ” มาทำงานร่วมกับเรามากเท่าไหร่เรายิ่งควรยินดี เราควรเปิดพื้นที่ให้ทุกคนได้พิสูจน์ตัวเองและช่วยกันโน้มน้าวคนอื่นๆ ให้เปลี่ยนใจมากขึ้น ยิ่งหากเราต้องการสร้างความเปลี่ยนแปลงแบบพลิกฟ้าคว่ำแผ่นดินแล้วยิ่งต้องเปลี่ยนมากจนหมากเกือบทั้งกระดานเป็นสีขาว

นี่คือสิ่งที่ อ.ปิยบุตร พูดบ่อยครั้งในช่วงตั้งพรรคอนาคตใหม่ ว่าเราต้องขีดเส้นแบ่งเราแบ่งเขาใหม่จากการที่ประชาชนด้วยกันถูกแบ่งด้วยสีเสื้อจากยุทธวิธีแบ่งแยกและปกครองของชนชั้นนำ มาเป็นเส้นแบ่งระหว่างประชาชนกับขุนศึก ศักดินา และนายทุนผูกขาดที่สนับสนุนอำนาจจารีต เราตั้งใจชักชวนประชาชนทุกฟากฝ่ายหันมาร่วมมือกันต่อสู้กับศัตรูที่แท้จริงของประชาชน เพื่อร่วมกันสร้างอนาคตใหม่ก้าวไกลให้ไทยก้าวหน้าสู่สังคมแห่งความเท่าเทียม เพื่อเสรีภาพ และภราดรภาพ หลายคนอาจกังวลเรื่องงูเห่าถ้าไปดูกันจริงๆ จะเห็นว่างูเห่ามีหลายพรรคทั้งเพื่อไทย พลังประชารัฐ อื่น ๆ ปัญหาเกิดจากการออกแบบรัฐธรรมนูญอย่างจงใจให้มีระบบนิเวศทางการเมืองที่เหมาะสมต่อการเกิดงูเห่า ซึ่งเราต้องมาแก้ที่จุดนี้

ในส่วนของการสรรหาบุคลากรของพรรคก้าวไกล แน่นอนว่าอาจไม่สมบูรณ์แบบ แต่เราก็ได้พยายามกลั่นกรองอย่างซื่อตรงต่ออุดมการณ์พรรคอย่างถึงที่สุด เท่าที่เราพอจะทำได้