เปียงยางเพิ่งยิงทดสอบในสิ่งที่พวกเขาเรียกว่า “ขีปนาวุธร่อนพิสัยไกลรุ่นใหม่” เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ตามรายงานของสำนักข่าวกลางเกาหลีเหนือและสำนักข่าวต่างประเทศ ในตอนเช้าวันจันทร์ที่ 13 ก.ย.2564 ท่ามกลางเหตุเผชิญหน้าที่เรื้อรังมานานกับสหรัฐฯ เกี่ยวกับการปลดอาวุธนิวเคลียร์ ขณะเดียวกันก็เกิดขึ้นไม่นานหลังจากเกาหลีใต้ ทดสอบยิงขีปนาวุธจากเรือดำน้ำ (SLBM) ที่พัฒนาขึ้นเองในประเทศเป็นครั้งแรก
วันอาทิตย์ที่ 12 ก.ย.2564 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกาหลีเหนือทดสอบการยิงขีปนาวุธในวันเสาร์ (11 ก.ย.) และวันอาทิตย์ (12 ก.ย.) โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูงหลายคนร่วมสังเกตการณ์ พร้อมระบุว่า การทดสอบประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี
รายงานระบุว่า ขีปนาวุธพุ่งไปเป็นเวลา 7,580 วินาที ในวงโคจรที่เป็นวงรีและรูปแบบเลข 8 เหนือเกาหลีเหนือและน่านน้ำอาณาเขตของประเทศ และโดนเป้าหมายที่อยู่ห่างออกไป 1,500 กิโลเมตร
ขีปนาวุธดังกล่าวว่าเป็น “อาวุธทางยุทศาสตร์ที่สำคัญยิ่ง” พร้อมระบุว่า “โดยรวมแล้ว ยืนยันได้ว่าประสิทธิภาพและการใช้งานจริงของระบบอาวุธนั้นยอดเยี่ยมมาก”
การพัฒนาระบบขีปนาวุธนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งทางยุทธศาสตร์ ที่จะมอบอีกหนึ่งหนทางการป้องปรามที่มีประสิทธิภาพสำหรับปกป้องประเทศ และช่วยยับยั้งความเคลื่อนไหวทางทหารของกองกำลังฝ่ายศัตรู
กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อรายงานข่าวการทดสอบขีปนาวุธหนล่าสุดของเกาหลีเหนือ
เกาหลีเหนือยังอยู่ภายใต้มาตรการคว่ำบาตรนานาชาติต่อโครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธแต่พวกเขายังคงเดินหน้าอยู่
การเจรจานิวเคลียร์ระหว่างเกาหลีเหนือกับสหรัฐฯหยุดชะงัก นับตั้งแต่การประชุมซัมมิตระหว่าง คิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ และโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ณ ขณะนั้น ในกรุงฮานอยปี 2019 พังครืนลง ทั้งนี้ ประชุมซัมมิตดังกล่าวเป็นการพูดคุยเจรจาเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของการปลดมาตรการคว่ำบาตรแลกกับการที่เปียงยางยอมละทิ้งโครงการนิวเคลียร์
ซุง คิม ทูตด้านเกาหลีเหนือของประธานาธิบดีโจ ไบเดน แสดงจุดยืนหลายครั้งว่า เขามีความตั้งใจพบปะพูดคุยกับผู้แทนทูตของเกาหลีเหนือ ที่ไหนเวลาใดก็ได้
อย่างไรก็ตาม เกาหลีเหนือไม่เคยบ่งชี้ว่าพวกเขามีความตั้งใจยอมสละคลังแสงนิวเคลียร์ และปฏิเสธความพยายามรื้อฟื้นการเจรจาของเกาหลีใต้ เมื่อสหรัฐซ้อมรบกับเกาหลีใต้
เมื่อเดือนที่แล้ว ทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA) เผยว่าดูเหมือนเปียงยางได้เริ่มเดินเครื่องเตาปฏิกรณ์แปรรูปพลูโตเนียมอีกครั้ง พร้อมเรียกมันว่าเป็นพัฒนาการที่กำลังก่อปัญหาใหญ่หลวง ขณะที่ คิม โยจอง น้องสาวของคิมและที่ปรึกษาคนสำคัญ เรียกร้องให้สหรัฐฯ ถอนทหารพ้นไปจากคาบสมุทรเกาหลี
ความเคลื่อนไหวล่าสุดของเกาหลีเหนือ มีขึ้นหลังจากก่อนหน้านี้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เกาหลีใต้ ได้ทำการทดลองขีนาวุธยิงจากเรือดำน้ำที่พัฒนาขึ้นเอง เทคโนโลยีที่คู่อริอย่างเกาหลีเหนือหาทางพัฒนามานาน ซึ่งนับเป็นอีกขั้นของความพยายามเสริมเขี้ยวเล็บทางทหารอ้างภัยคุกคามของเกาหลีใต้
ปฏิบัติการข่มกลับจึงเกิดขึ้น ทั้งนี้เกาหลีเหนือเคยแสดงขีปนาวุธดังกล่าว 4 ลูก ในพิธีสวนสนามที่มี คิม จองอึน เป็นประธานเมื่อเดือนมกราคม ซึ่งคราวนั้นสำนักข่าวต่างประเทศพากันเรียกมันว่า “อาวุธทรงพลังที่สุดของโลก”
เกาหลีเหนือเคยเผยแพร่ภาพขีปนาวุธที่ถูกยิงขึ้นมาจากใต้ผิวน้ำหลายหน ครั้งล่าสุดคือเมื่อปี 2019 แต่นักวิเคราะห์กลับตั้งข้อสังเกตว่ามันอาจจะถูกยิงขึ้นมาจากแพลตฟอร์มซึ่งติดอยู่กับที่ หรือเรือท้องแบน (submersible barge) มากกว่าเรือดำน้ำจริงๆ สรุปว่าผู้สังเกตการณ์ตะวันตกไม่เชื่อว่าอาวุธเกาหลีเหนือเป็นของจริง มองว่าเป็นแค่การข่มขู่