เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องของสปป.ลาวให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศและสื่อท้องถิ่นอย่างเชื่อมั่นว่า เส้นทางรถไฟความเร็วสูงเชื่อมต่อกับเมืองคุนหมิงของจีน จะเปิดเดินรถได้ตามกำหนด ในวันที่ 2 ธ.ค.นี้ หลังใช้เวลาสร้างนานประมาณ 5 ปี ส่งผลการเชื่อมโยงการเดินทางและการท่องเที่ยวจากประเทศจีนสู่ประเทศลุ่มน้ำโขงจะเป็นไปอย่างสะดวกรวดเร็ว ส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุนตามเป็าหมายของรัฐบาลลาว
เมื่อวันที่ 6 ก.ย.2564 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครหลวงเวียงจันทน์ ประเทศลาว ว่า นายเขมขำ พงสะหวัด หัาหน้าคณะผู้ประสานงานการเดินรถไฟความเร็วสูงลาว-จีน กล่าวกับสำนักข่าวเอ24 ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ( ยูเออี ) ยืนยันว่า เส้นทางรถไฟดังกล่าวจะเปิดการเดินรถตั้งแต่วันที่ 2 ธ.ค.นี้เป็นต้นไปแน่นอน ซึ่งเป็นการเฉลิมฉลองวันชาติของลาวด้วย
ขณะเดียวกัน นายเขมขำแสดงความเชื่อมั่นว่า โครงการดังกล่าวซึ่งดำเนินการก่อสร้าง เมื่อปี 2559 จะช่วยส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างจีนและสปป.ลาวตลอดจนประเทศเพื่อนบ้าน และเพิ่มความสะดวกให้กับการเดินทางของประชาชน ถือเป็น “ผลประโยชน์ร่วมทางยุทธศาสตร์”
สำหรับโครงการรถไฟความเร็วสูงลาว-จีน ประกอบด้วย 32 สถานี แบ่งเป็นสถานีขนส่งสินค้า 22 แห่ง และสถานีโดยสาร 10 แห่ง ผ่านเมืองสำคัญหลายแห่งในนครหลวงเวียงจันทน์ แขวงเวียงจันทน์ แขวงอุดมไซ และแขวงหลวงพระบาง จนถึงปลายทางคือเมืองบ่อเต็น ในแขวงหลวงน้ำทา ซึ่งจะมีการเชื่อมระบบต่อถึงเมืองคุนหมิง เมืองเอกของมณฑลยูนนาน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน
ทั้งนี้ เส้นทางทั้งหมดมีระยะทางยาวประมาณ 414 กิโลเมตร เป็นระบบรางเดี่ยว และใช้งบประมาณลงทุนประมาณ 5,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 191,160 ล้านบาท ) เกือบทั้งหมดเป็นการลงทุนจากฝั่งจีน
อย่างไรก็ตาม รายงานวิเคราะห์ของธนาคารโลก ( เวิลด์แบงก์ ) ให้คำแนะนำเพิ่มเติมด้วยว่า เพื่อให้เส้นทางรถไฟสายนี้ตอบโจทย์ด้านการพัฒนาให้มากขึ้น ลาวควรมีนโยบายเพิ่มกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่มีระบบและประสิทธิภาพ ตามพื้นที่ซึ่งเส้นทางรถไฟตัดผ่าน
สำนักข่าวVientiane Times ระบุว่า “การรถไฟลาว-จีนเป็นส่วนยุทธศาสตร์ของ โครงการ Belt and Road Initiative หรือBRI ของจีนสอดคล้องกับแผนของรัฐบาลลาวในการเปลี่ยนลาวจากประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลให้กลายเป็นทางเชื่อมทางบกภายในภูมิภาคนี้”
ความจริงที่ว่าทางรถไฟมีกำหนดจะแล้วเสร็จตามกำหนดเวลาเป็นเครื่องยืนยันถึงความจริงที่ว่าแม้จะมีการหยุดชะงักของการระบาดใหญ่ของ COVID-19 แต่ปักกิ่งยังคงมุ่งมั่นที่จะกระชับการบูรณาการทางเศรษฐกิจและทางกายภาพระหว่างจีนและประเทศในภูมิภาคแม่น้ำโขงตอนล่างให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ในกรณีนี้สปป.ลาวได้รับประโยชน์ไปอย่างเต็มๆ
ตลอดสองทศวรรษที่ผ่านมา กระบวนการรวมมือนี้ได้ทำลายอุปสรรคของภูมิประเทศที่เป็นภูเขา ซึ่งครั้งหนึ่งแทบจะผ่านไม่ได้ ซึ่งแบ่งจีนออกจากแผ่นดินใหญ่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทำให้ภูมิภาคนี้เปิดรับกระแสการเดินทางและการลงทุนจากจีนไปทางทิศใต้
ดังนั้นการรถไฟลาว-จีนที่ใกล้จะเสร็จสมบูรณ์จึงถูกกำหนดให้ผูกประเทศที่มีประชากรเจ็ดล้านคนใกล้ชิดกับเพื่อนบ้านยักษ์ใหญ่ นี่เป็นเรื่องจริงที่เห็นได้ชัดในแง่กายภาพ รถไฟมีแนวโน้มที่จะเพิ่มจำนวนชาวจีนที่เดินทางไปเวียงจันทน์ซึ่งมีประชากรชาวจีนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากในขณะที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวของจีนไปยังเมืองหลวงของหลวงพระบางในอดีต ให้ประโยชน์ในด้านพัฒนาเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวด้วย
