กรมคุกแจงยิบ!กวิ้น-พวก นอนรพ.ราชทัณฑ์ กินได้หลับสบายคุยคล่อง แต่ไม่ชอบใส่เสื้อ

จากที่ กฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน พร้อมด้วยนางสุรีย์รัตน์ ชิวารักษ์ แม่ของนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน ยื่นขอศาลอาญามีคำสั่งส่งตัวนายพริษฐ์ รักษาโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯนั้น

ต่อมาศาลอาญา ได้มีคำสั่งออกมาว่า ให้มีหนังสือสอบถามทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ว่าจากการติดเชื้อไวรัสโควิดของจำเลยที่ 1 มีอาการเจ็บป่วยอยู่ในสภาพใด และโรงพยาบาลราชทัณฑ์มีศักยภาพเพียงพอที่จะดูแลรักษาอาการเจ็บป่วยของจำเลยที่ 1 ได้หรือไม่ แล้วรายงานให้ศาลทราบ ให้ผู้ร้องทราบคำสั่ง

ล่าสุดวันนี้ 26 สิงหาคม นายธวัชชัย ชัยวัฒน์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ และโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า กรมราชทัณฑ์ ขอรายงานสถานการณ์ และการควบคุมดูแลตัวผู้ต้องขังที่เป็นกลุ่มผู้ชุมนุมที่ออกมาเรียกร้องทางการเมือง ที่ติดเชื้อโควิด – 19 ที่ถูกส่งตัวเพื่อเข้ารับการรักษาที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ จำนวน 6 ราย

โดยประกอบด้วย นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน นายพรหมศร วีระธรรมจารี หรือฟ้า นายสิริชัย นาถึง หรือ นิว นาย Sam Samart หรือแซม สาแมท นายภาณุพงศ์ จาดนอก และนายชาติชาย แกดำ นั้น ในวันนี้แพทย์ประจำทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ได้เข้าตรวจร่างกาย พบว่า นายพริษฐ์ฯ รู้สึกตัวดี ถามตอบรู้เรื่อง ช่วยเหลือตนเองได้ หายใจปกติไม่มีเหนื่อยหอบ ไม่มีไอ ไม่มีเจ็บคอ ไม่มีน้ำมูก พักหลับได้ดี สามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ด้วยตนเอง แพทย์ให้การรักษาตามอาการ

ส่วนนายสิริชัย รู้สึกตัวดี ช่วยเหลือตัวเองได้ หายใจปกติ ไม่มีอาการหอบเหนื่อย ไม่มีไข้ สามารถนอนหลับพักได้ รับประทานอาหารได้ปกติ ขับถ่ายปกติ นายพรหมศรฯ รู้สึกตัวดี สีหน้าสดใส ยิ้มแย้มพูดคุย ช่วยเหลือตัวเองได้ หายใจปกติ ไม่มีหอบเหนื่อย ไม่มีไข้ เจ็บคอ ไม่มีปวดศีรษะ รับประทานอาหารได้ ขับถ่ายปกติ นอนหลับพักผ่อนได้

“นายแซมฯ รู้สึกตัวดี ถามตอบรู้เรื่อง ช่วยเหลือตัวเองได้ ไม่มีอ่อนเพลีย ไม่มีหายใจหอบเหนื่อย ไม่มีไข้ ไม่ไอ รับประทานอาหารได้ ขับถ่ายปกติ นอนหลับพักผ่อนได้ นายภาณุพงศ์ฯ รู้สึกตัวดี สีหน้าสดใส ยิ้มแย้ม พูดคุยช่วยเหลือตัวเองได้ หายใจปกติ ไม่มีหอบเหนื่อย ไม่มีไข้ เจ็บคอ ไม่มีปวดศีรษะ รับประทานอาหารได้ ขับถ่ายปกติ นอนหลับพักผ่อนได้

และนายชาติชายฯ รู้สึกตัวดี สีหน้าสดใส ยิ้มแย้มพูดคุย ช่วยเหลือตัวเองได้ หายใจปกติ ไม่มีหอบเหนื่อย นอนหลับพักผ่อนได้ โดยผู้ต้องขังทั้งหมดมีสัญญาณชีพและค่าออกซิเจนอยู่ในเกณฑ์ปกติ”

นอกจากนี้ นายธวัชชัย ยังกล่าวอีกว่า ยืนยันอีกครั้งตามรายงานทางการแพทย์และข้อเท็จจริง อาการ ของผู้ต้องขังที่เป็นกลุ่มผู้ชุมนุมทางการเมืองที่ติดเชื้อโควิด – 19 ขณะนี้ทุกคนสภาพร่างกายโดยรวม และสัญญาณชีพ อยู่ในเกณฑ์ปกติ โดยเฉพาะนายพริษฐ์ สภาพร่างกายทั่วไปรู้สึกตัวดี พูดคุยรู้เรื่อง ช่วยเหลือตัวเองได้ สัญญาณชีพอยู่ในเกณฑ์ปกติ เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2564 พบมีฝ้าที่ชายปอดขวาเล็กน้อย

“หลังให้การรักษาได้เอกซเรย์ปอด วันที่ 18 สิงหาคม 2564 ผลลดลงจากเดิม ในส่วนประเด็นที่ผู้ป่วยมีโรคประจำตัวเป็นโรคหอบ แพทย์ได้ปรับการใช้ยาพ่นโดยแพทย์เจ้าของไข้ ซึ่งเป็นยาพ่นโรคหอบพื้นฐาน มิได้เป็นการให้ยาผิดพลาดแต่ประการใด ด้านผลตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจอยู่ในเกณฑ์ปกติ ในส่วนของหอผู้ป่วยจะมีผู้ต้องขังที่ผ่านการอบรมหลักสูตรอาสาสมัครสาธารณสุขเรือนจำ หรือ อสรจ. ที่เป็นความร่วมมือระหว่างกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข และกรมราชทัณฑ์ ซึ่งจะเป็นผู้ช่วยเหลือกรณีการปฐมพยาบาล เบื้องต้น

กรณีชุดผู้ป่วยที่หอผู้ป่วยจะมีชุดใหม่ทั้งเสื้อและกางเกงให้ผู้ต้องขังเปลี่ยนเพียงพอทุกวัน โดยนายพริษฐ์ ได้เปลี่ยนกางเกงทุกวัน แต่จะไม่สวมเสื้อเกือบตลอดเวลาที่อยู่ในหอผู้ป่วย และในส่วนกรณีที่ระบุว่าหอผู้ป่วยแออัดนั้น ขอยืนยันว่าการจัดเตียงผู้ป่วยมีการเว้นระยะห่างดำเนินการตามมาตรฐานสาธารณสุข อากาศถ่ายเท พื้นที่โล่งโปร่ง และไม่แออัดตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด

ส่วนที่มีกระแสข่าวว่านายสิริชัยฯ อดอาหารประท้วงเพื่อเรียกร้องให้ส่งตัวออกไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลภายนอกนั้น ขอชี้แจงว่า นายสิริชัยฯ ยังคงรับประทานอาหารได้ ไม่ได้มีการอดอาหารแต่อย่างใด รวมถึงกระแสข่าวที่ระบุว่านายแซมฯ ต้องหาแก้วน้ำจากถังขยะ และต้องดื่มน้ำจากก๊อกน้ำ ขอชี้แจงว่า ผู้ต้องขังทุกคนที่เข้ามารักษาตัวที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์จะได้รับอุปกรณ์แก้วน้ำประจำตัว พร้อมทั้งมีเครื่องกรองน้ำประจำห้องสำหรับผู้ป่วยเพื่อสำหรับใช้ในชีวิตประจำวัน

จึงขอฝากถึงพี่น้องประชาชนที่ได้รับข้อมูลข่าวสารผ่านทาง Facebook และสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ อย่าหลงเชื่อข้อมูลที่บิดเบือนหรือข้อมูลที่เป็นเท็จ และขอให้ติดตามข้อมูลข่าวสารจากกรมราชทัณฑ์ เนื่องจากการชี้แจงข้อมูลในทุกประเด็นของกรมราชทัณฑ์เป็นการนำเสนอข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นจริง สามารถตรวจสอบได้ มีหลักฐานพยาน ด้วยกล้องวงจรปิด มีภาพถ่ายยืนยัน แต่เนื่องด้วยหลักสิทธิมนุษยชนเกี่ยวกับการเผยแพร่ภาพถ่ายของผู้ต้องขัง จึงต้องพิจารณาอย่างรอบคอบเพื่อมิให้กระทบต่อหลักสิทธิมนุษชนของผู้ต้องขัง” โฆษกกรมราชทัณฑ์ กล่าว