ซ่าไม่ออก!! เด็กก้าวไกล โผล่มอบตัว คดีปลุกคาร์ม็อบภูเก็ต “โรม” ปกป้องสุดแรง แค่ชุมนุมป่วน ตร.ไม่ควรเอาผิด!?

1966

จากกรณีที่เกิดการรวมตัวประท้วงของกลุ่มม็อบ 3 นิ้วในจังหวัดภูเก็ต เมื่อช่วงเดือนก.ค. 64 ที่ผ่านมา โดยครั้งนั้นได้มีการรวมตัวที่บริเวณสะพานหิน อำเภอเมืองภูเก็ต

ส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่นในจังหวัดภูเก็ตรวมตัวกันประมาณ 100 คน โดยมีทั้งขับขี่รถยนต์ และรถจักรยานยนต์ไปตามถนนต่าง ๆ พร้อมบีบแตรรถชูป้าย 3 ข้อเรียกร้องคือขับไล่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีให้พ้นจากตำแหน่ง พร้อมให้ลดงบประมาณสถาบันฯและลดงบประมาณกองทัพสุดท้ายคือเรียกร้องให้รัฐบาลจัดสรรวัคซีน covid19 ที่มีคุณภาพเป็น mRNA ให้กับประชาชน

 

ล่าสุดมีรายงานว่า ผู้ถูกกล่าวหาในคดีคาร์ม็อบภูเก็ต จำนวน 3 คน ได้แก่ นายเฉลิมพงศ์ แสงดี หรือ โค้ชแซม ตัวแทนพรรคก้าวไกล เขต 2 และเยาวชน 2 คน ได้เดินทางมายัง สภ.เมืองภูเก็ต เพื่อพบพนักงานสอบสวนและรับทราบข้อกล่าวหาฐานความผิดฐาน “มั่วสุมกันเกิน 10 คนขึ้นไป ก่อความวุ่นวาย ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าพนักงาน” สืบเนื่องจากการนัดรวมตัวกันทำกิจกรรม “คาร์ม็อบภูเก็ต” เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2564 ที่บริเวณวงเวียนสะพานหิน อ.เมืองภูเก็ต ก่อนจะเคลื่อนขบวนรถยนต์และรถจักรยานยนต์เดินทางไปยังศาลากลางจังหวัดภูเก็ต ยื่นหนังสือให้ผู้ว่าฯเรียกร้องให้นายกฯลาออก

ส่วนของผู้ถูกกล่าวหาอีก 2 คน ซึ่งเป็นเยาวชน ได้เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาด้วย พร้อมด้วยทนายความและผู้ปกครอง ซึ่งในการสอบปากคำทั้งสองคนนั้น ได้มีการแยกสอบและมีเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพร่วมสอบด้วย นอกจากนี้ยังมีผู้มาให้กำลังใจ จำนวนประมาณ 10 คน โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจฯ ให้นั่งรออยู่บริเวณด้านหน้าสถานีฯ ไม่อนุญาตให้เข้าไปในตัวอาคารแต่อย่างใด

ขณะเดียวกันทางนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กให้กำลังใจนายเฉลิมพงศ์ แสงดี โดยระบุว่า ให้กำลังใจผู้ถูกหมายเรียกจากกรณีคาร์ม็อบภูเก็ตทุกคน ตำรวจไม่ควรทำตัวเป็นผู้กีดขวางการอยากมีชีวิตที่ดีของประชาชน ผมอยากขอร่วมให้กำลังใจทุกท่าน เนื่องจากสิทธิในการมีชีวิตที่ดีของประชาชน ถูกพรากไปโดยรัฐบาลที่บริหารจัดการล้มเหลว ชาวภูเก็ตเองก็ได้รับผลกระทบเป็นอย่างหนัก

โดยที่การเยียวยาเองก็ไม่ได้ทั่วถึง บทพิสูจน์ถึงผลงานของรัฐบาลเองก็ชัดเจนแล้วว่าไม่มีฝีมือพอที่จะสร้างความเชื่อมั่นว่าจะพาไทยผ่านวิกฤติไปได้ การออกมาเรียกร้องโดยสงบอย่างการจัดคาร์ม็อบ จึงเป็นสิทธิอยู่แล้ว และตำรวจไม่ควรแม้แต่จะดำเนินคดีด้วยซ้ำ เพราะรังแต่จะสร้างความโกรธแค้นให้คนมากขึ้น

ทั้งนี้เหตุการณ์ที่ชาวจังหวัดภูเก็ตรวมตัวกันคัดค้านกลุ่มภูเก็ตปลดแอก จัดกิจกรรมคาร์ม็อบ เพื่อไม่ให้กลุ่มภูเก็ตปลดแอกจัดคาร์ม็อบทำลายโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวภูเก็ต เพราะประชาชนต้องการทำมาหากิน แต่คนกลุ่มนี้กลับมาป่วนเพื่อให้โครงการล้มเหลว และมีการแพร่เชื้อโควิด แต่สุดท้ายแล้วคนพวกนี้ต้องหนี เพราะเจอพลังชาวภูเก็ตขับไล่จนต้องยกเลิกกิจกรรม รวมทั้งยังแจ้งความเอาผิดแกนนำหลายคนด้วย

อย่างไรก็ตามในโลกโซเชียลฯ มีการส่งต่อรายชื่อของคนที่ถูกระบุว่าเป็นแกนนำกลุ่มคาร์ม็อบภูเก็ต ประกอบด้วย

นายเฉลิมพงศ์ แสงดี ตัวแทนพรรคก้าวไกล เขต 2 แกนนำก้าวไกลพื้นที่ จ.ภูเก็ต

นายฐิติกันต์ ฐิติพฤฒิกุล แกนนำก้าวไกลภูเก็ต, ที่ปรึกษา ส.ส.รังสิมันต์ โรม/สนับสนุน

นายทรงศักดิ์ สวนอักษร แกนนำก้าวไกลภูเก็ต, ที่ปรึกษา ส.ส.รังสิมันต์ โรม/สนับสนุน

นายธนู แนบเนียร แกนนำก้าวไกลภูเก็ต, ที่ปรึกษา ส.ส.รังสิมันต์ โรม/สนับสนุน

นายจีรเวทย์ วินิจไพโรจน์ ตัวแทน New gen ภาคใต้, ฝ่าย IT ของกลุ่มฯ

นายธีรยุทธ ศิริมาศ แกนนำกลุ่มภูเก็ตปลดแอก

ชัดเจนว่าการเคลื่อนไหวของกลุ่มคาร์ม็อบภูเก็ต และภูเก็ตปลดแอกนั้นมีนักการเมืองหนุนอยู่เบื้องหลัง รวมทั้งยังมองว่า การรวมตัวออกมาสร้างความปั่นป่วนไม่มีความผิด ในขณะที่ชาวบ้านในพื้นที่ เคยร้องเรียกให้คนกลุ่มนี้หยุดการกระทำดังกล่าว เพราะพื้นที่ภูเก็ต กำลังจะกลับมาดีขึ้นอีกครั้ง หากยังมีม็อบจะทำให้นักท่องเที่ยวไม่กล้าเข้ามา จนชาวบ้านได้ทยอยแจ้งความเอาผิดกับแกนนำหลายคนในช่วงที่ผ่านมาด้วย