ทุกคนก็มีครอบครัว!? ครอบครัว “ลูกนัท” อ้างสูญเสียครั้งร้ายแรง เทียบ “ส.ต.ต.” ถูกม็อบยิงเจาะคอ แม่เจ็บปวด ลูกตกเป็นเป้ามวลชนขณะปฏิบัติงาน

2001

จากกรณีที่นายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย หรือไฮโซลูกนัท ได้แถลงรายละเอียดเรื่องอาการบาดเจ็บ สรุปได้ว่าตาขวานั้นถูกยิง และในอนาคตหลังทำการรักษาเสร็จสิ้น ตาดวงนี้จะบอดสนิทลง โดยต่อมาในแถลงการณ์ยังได้ระบุถึงการเตรียมฟ้องร้อง หลายหน่วยงาน รวมทั้งเจ้าหน้าที่ ที่เข้าสลายการชุมนุม ซึ่งเจ้าตัวชี้แจง บางช่วงบางตอน ดังนี้

 


ดังนั้น นายธนัตถ์ฯ และครอบครัวจึงเห็นว่าการใช้มาตรการสลายการชุมนุมดังกล่าวเป็นการใช้กําลังและเครื่องมือควบคุมฝูงชนที่เกินจําเป็น ไม่ได้สัดส่วนที่เหมาะสมและไม่สอดคล้องกับแนวทางสากลในการจัดการและควบคุมฝูงชน ทั้งยังเป็นการกระทำที่เกินสมควรแก่เหตุและไม่ชอบด้วยกฎหมาย จนเป็นเหตุให้ประชาชนจำนวนมากรวมถึงนายธนัตถ์ฯ ได้รับบาดเจ็บอันเป็นการละเมิดต่อสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและการชุมนุมของประชาชน

ด้วยเหตุนี้ นายธนัตถ์ฯ และครอบครัวจึงมีความประสงค์ที่จะใช้สิทธิในการดำเนินคดีตามกฎหมายทั้งในคดีอาญา คดีแพ่ง และคดีอื่นใด กับบุคคลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ในการพิสูจน์ข้อเท็จจริงและความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อนายธนัตถ์ฯ เนื่องจากการใช้อำนาจหน้าที่ การปฏิบัติการ และการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายดังกล่าวจนถึงที่สุดในทุกวิถีทาง

โดยมีเจตนาเพื่อที่จะให้เป็นบรรทัดฐานและแบบอย่างในการปกป้องสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและเสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธของประชาชนตามรัฐธรรมนูญฯ ที่บุคคลย่อมมีสิทธิเสรีภาพที่จะแสดงออกซึ่งความคิดเห็นของตน และอยู่ร่วมกันในสังคมโดยสามารถแสดงความคิดเห็นที่แตกต่างกันได้ รวมถึงเพื่อเป็นการปกป้องสิทธิและศักดิ์ศรีของนายธนัตถ์ฯ และครอบครัวตามกรอบของกฎหมายและตามรัฐธรรมนูญฯ
โดยการดำเนินการดังกล่าวข้างต้นนี้นายธนัตถ์ฯ และครอบครัวมิได้มีเจตนาและมิได้มีความประสงค์ที่จะให้บุคคล กลุ่มบุคคล หรือฝ่ายการเมืองใดนำไปใช้ประโยชน์ในทางการเมือง ไม่ว่าในลักษณะหรือแง่มุมใดก็ตาม

ครอบครัวธนากิจอำนวยขอเรียนว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับนายธนัตถ์ฯ ถือเป็นความสูญเสียครั้งร้ายแรงของครอบครัว ซึ่งครอบครัวธนากิจอำนวยหวังว่าการดำเนินการใด ๆ ต่อจากนี้ จะช่วยไม่ให้เกิดความสูญเสียหรือความรุนแรงในลักษณะเดียวกันต่อบุคคล หรือประชาชนที่ต้องการแสดงออกทางความคิดของตนโดยสงบและปราศจากอาวุธ โดยขอยืนยันว่าการใช้สิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญฯ ของประชาชนต้องไม่ถูกขัดขวางหรือคุกคามโดยรัฐ

 

ทั้งนี้หากย้อนไปเทียบเหตุการณ์ความสะเทือนใจ ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ถูกมือมืดยิงร่วงกลางม็อบ วันที่ 7 สิงหา โดยกระสุนเข้าเจาะคอ ส.ต.ต.นิตินัย ครองสม ผู้บังคับหมู่ ร้อย 3 กองกำกับการควบคุมฝูงชน กองบังคับการควบคุมฝูงชน ถูกยิงด้วย กระสุนขนาด.22 เข้าบริเวณท้ายทอย ทะลุเข้ากล้ามเนื้อติดหลอดลม ได้รับบาดเจ็บสาหัส จนต้องเข้ารับการผ่าตัด และพ้นขีดอันตรายแล้ว ซึ่งต่อมาเจ้าตัวได้วีดีโอคอลคุยกับแม่ ซึ่งอยู่ต่างจังหวัด โดยแม่ พูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า ตั้งแต่วันที่ 7 ที่ได้รับทราบข่าว รู้สึกตกใจมาก ร้องไห้เป็นลม กินข้าวไม่ได้ เคยเห็นแต่ข่าวในทีวี ไม่คิดว่าจะเป็นลูกตัวเอง เพราะมีคนเป็นร้อยเป็นพัน แต่ทำไมมาโดนยิงอยู่คนเดียว

โดยแม่ส.ต.ต.นิตินัย ยังกล่าวอีกว่า ลูกอยากเป็นตำรวจ เพราะส.ต.ต.นิตินัย เคยทำงานเป็นผู้ช่วยพยาบาลตามที่เรียนมา แต่ก็มาขอสอบตำรวจ ซึ่งแม่ไม่อยากให้เป็นตำรวจ เพราะกลัว ถึงตอนนี้ อยากจะมาดูแลลูก แต่ไม่สามารถเดินทางไปได้ เพราะติดสถานการณ์โควิด ขณะที่ ส.ต.ต.นิตินัย ได้บอกกับแม่ว่า อาการดีขึ้นแล้ว ไม่ต้องเป็นห่วง

อย่างไรก็ตามประเด็นที่ไฮโซลูกนัทและครอบครัวต้องการจะฟ้องเอาผิดเจ้าหน้าที่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่เจ้าตัวอ้างว่ามีส่วนทำให้ตนเองนั้นบาดเจ็บ จึงมองได้อีกมุมว่า ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจที่บาดเจ็บหนัก ในขณะกำลังปฏิบัติหน้าที่นั้น ก็มีความเสียใจ สะเทือนใจ ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเช่นกัน เพราะไม่คาดคิดว่า การออกมาควบคุมการชุมนุม จะถูกยิงจากฝั่งตรงข้าม และนับวันม็อบยิ่งมีความรุนแรงจากคนบางกลุ่มที่เข้ามาป่วนสร้างสถานการณ์ปะทะ รวมทั้งก็ไม่ได้มีเพียงฝ่ายมวลชนที่บาดเจ็บ จึงเป็นการตั้งข้อสังเกตได้ว่าไฮโซลูกนัท ได้ตระหนักถึงประเด็นนี้ด้วยหรือไม่