รัสเซีย-จีนเปิดฉากซ้อมรบร่วมเป็นครั้งแรกบนแผ่นดินจีน ซึ่งแน่นอนว่าการผนึกแน่นทางการทหารของพันธมิตรทั้งสองทำให้สหรัฐฯไม่สบายใจ ขณะที่ไต้หวันพร้อมสำหรับเกมสงครามใหญ่แยกประเทศ ด้วยมั่นใจว่าสหรัฐฯและพันธมิตรจะร่วมช่วยป้องกันการโจมตีของกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน ที่อาจจะเกิดขึ้นไม่นานจากนี้
ไต้หวันจะเป็นจุดประกายของสงครามโลกหรือไม่หรือจะเป็นเพียง “เส้นสีแดง” ที่ถูกพิชิตจากกองทัพจีน และการตัดสินใจของสหรัฐฯในการการต่อสู้เพื่อให้เกาะไต้หวันแยกตัวเป็นเอกเทศ สามารถเพิ่มอำนาจบารมีหรือจะกลายเป็นทำลายสหรัฐอเมริกาในที่สุดกันแน่
ขณะที่สหรัฐฯ และญี่ปุ่นได้ย้ำคำมั่นว่าจะปกป้องสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวันอย่างโจ่งแจ้งทำให้ใต้หวันฮึกเหิมพร้อมแล้วที่จะให้อเมริกาเล่นเกมสงครามผู้พิทักษ์จากการโจมตีของจีน โดยจะจัดซ้อมรบครั้งใหญ่ท้าทายจีนในช่วงกลางเดือนกันยายน เพื่อทดสอบความพร้อมรบและกลยุทธ์การป้องกันของกองกำลังติดอาวุธต่อการโจมตีทางทหารที่อาจเกิดขึ้นโดยปักกิ่ง
เมื่อวันอังคารที่ 10 ส.ค. กองทัพไต้หวันประกาศจัดการซ้อมรบในเดือนกันยายนในขณะที่กองทัพปลดปล่อยประชาชนจีนจัดการซ้อมรบครั้งใหญ่ร่วมกับรัสเซียเป็นเวลา 5 วันในตลอดสัปดาห์นี้ การฝึกซ้อมรบประจำปีของไต้หวัน จะจัดขึ้นภายในเกาะและเกาะนอกชายฝั่งเป็นเวลา 5 วันตั้งแต่วันที่ 13 กันยายน โดยจะมีการฝึกซ้อมทางอากาศ ทะเล และทางบกพร้อมกัน
พฤติกรรมของไต้หวันภายใต้การนำของปธน.ไช่ อิงเหวินเป็นการกระตุ้นความตึงเครียดในย่านนี้อย่างชัดเจนหลังจากที่สั่งซื้ออาวุธหนักจากสหรัฐอเมริกาหลายครั้ง ล่าสุดสหรัฐอนุมัติขายปืนใหญ่ฮาววิตเซอร์ให้ไต้หวัน40กระบอก รวม750ล้านดอลลาร์สหรัฐราว 24,921 ล้านบาท ด้านรัฐบาลไต้หวันระบุอาวุธจากสหรัฐจะช่วยรักษาเสถียรภาพในภูมิภาคนี้ในแบบที่รัฐบาลไต้หวันต้องการนั่นเอง
พลเรือเอกจอห์น อากีลิโน (Gen.John Aquilino)กล่าวว่าการยึดครองไต้หวันด้วยอาวุธของจีนมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นภายในหกปีข้างหน้า การป้องกันไต้หวันอย่างต่อเนื่องเป็นเงื่อนไขที่จำเป็นในการรักษาผลประโยชน์ของอเมริกาและรักษาลำดับความสำคัญด้านการป้องกันประเทศในมหาสมุทรอินโด-แปซิฟิก
หลังจากนั้นไม่นานสหรัฐฯได้กระชับความสัมพันธ์กับไต้หวันมากขึ้นทั้งการทูตและการทหาร และเริ่มยั่วยุจีนถี่ขึ้นโดยการส่งเรือรบเข้าไปแล่นในช่องแคบไต้หวันอ้างเสรีภาพตามกฎหมายสากล
ด้านประธานาธิบดีไช่ อิงเหวินแห่งไต้หวันประกาศจะไม่ยอมยกดินแดนของไต้หวันแม้แต่นิ้วเดียวให้จีน ตามรายงานของ Associated Press สะท้อนปมขัดแย้งที่ไม่อาจคลี่คลาย แต่มีแนวโน้มลากประชาชนไต้หวันเข้าสู่สงครามเร็วกว่าที่ทุกฝ่ายคาดการณ์
เมื่อความตึงเครียดทวีความรุนแรงขึ้นจำนวนเรือรบของจีนและอเมริกาที่ซ้อมรบในภูมิภาคนี้เพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่า ความเสี่ยงที่จะเกิดความขัดแย้งทางทหารต่อการแยกตัวของไต้หวันที่ยังคงดำเนินต่อไป และได้กลายเป็นอันตรายที่ชัดเจนในปัจจุบัน
ในระหว่างที่ไต้หวันเตรียมตัวเข้าสู่โหมดสงครามนั้น ด้านจีนเองก็ได้เตรียมการรับมือสถานการณ์ที่ไม่คาดฝันท่ามกลางความขัดแย้งในทะเลจีนใต้ที่เดือดระอุ
นักวิเคราะห์ทางทหารมองว่า เนื่องจากความขัดแย้งที่เพิ่มขึ้นกับสหรัฐฯ และความกังวลร่วมกันเกี่ยวกับความไม่มั่นคงของเอเชียกลางเป็นมูลเหตุเบื้องต้นที่ดึงกองทัพจีนและรัสเซียเข้ามาใกล้ชิดกันมากขึ้น แม้ว่ากองทัพจีนและรัสเซียจะประกาศมุ่งเน้นไปที่การต่อต้านการก่อการร้ายและความมั่นคง ไม่ใช่ต่อต้านสหรัฐ-พันธมิตร แต่ความแนบแน่นแข็งแกร่งของ 2 มหาอำนาจที่พัฒนาขั้นสูงทางการทหารย่อมทำให้สหรัฐและพันธมิตรไม่สบายใจเป็นแน่ เมื่อกองทัพรัสเซียและกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน 2 ประเทศมหาอำนาจซีกโลกตะวันออก ซ้อมรบร่วมขนาดใหญ่ ด้วยกำลังพลกว่า 10,000 คน และกลับมาทดสอบยุทธวิธีทางทหารของกันและกันด้วยการฝึกทวิภาคีและพหุภาคีต่อเนื่อง หลังเกิดโรคระบาด โดยส่ง ‘สัญญาณอันทรงพลัง’ เกี่ยวกับความสามารถในการทำงานร่วมกันของปักกิ่งและมอสโก
วันที่ 9 ส.ค.2564 สำนักข่าวซินหัว-เซาท์ไชนามอร์นิ่งโพสต์รายงานถึงการฝึกซ่อมรบโปรเจ็กต์ ZAPAD/INTERACTION-2021 ซึ่งเป็นการซ้อมรบร่วมระหว่างจีนและรัสเซีย เริ่มขึ้นที่ฐานฝึกยุทธวิธีรวมอาวุธ ของกองทัพปลดแอกประชาชน (PLA) ในเขตปกครองตนเองหนิงเซี่ยหุยทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน ภูมิภาคหลี่ซูเช็ง(Li Zuocheng) งานนี้ สมาชิกของคณะกรรมาธิการการทหารกลาง และเสนาธิการของแผนกเสนาธิการร่วมของจีนทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยการทั่วไปของการฝึกซ้อม
การซ้อมรบร่วมกันมีจุดมุ่งหมายเพื่อ กระชับปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายร่วมกันระหว่างกองทัพจีนและรัสเซีย และแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและความแข็งแกร่งของทั้งสองประเทศในการร่วมกันปกป้องความมั่นคงและเสถียรภาพในระดับนานาชาติและระดับภูมิภาค
เจ้าหน้าที่จีนและรัสเซียต่างกล่าวถึงความเป็นหุ้นส่วนเชิงกลยุทธ์ที่ครอบคลุมของจีน – รัสเซียในการประสานงานสำหรับยุคใหม่ และความไว้วางใจซึ่งกันและกันเชิงกลยุทธ์การแลกเปลี่ยนเชิงปฏิบัติและการประสานงานระหว่างทั้งสองประเทศการฝึกร่วมมีกำหนดดำเนินต่อไปจนถึงวันที่ 13 ส.ค.
กระทรวงกลาโหมของจีนและรัสเซียแถลงว่า ปฏิบัติการซ้อมรบในภูมิภาคตะวันตกของหนิงเซี่ยซึ่งมีทหารมากกว่า 10,000 นาย มุ่งเน้นไปที่การเตือนล่วงหน้าและการลาดตระเวน สงครามอิเล็กทรอนิกส์ และการโจมตีร่วม
เมื่อสหรัฐฯถอนกำลังที่เหลืออยู่ออกจากอัฟกานิสถาน และหลังจากที่ทั้งปักกิ่งและมอสโกได้ติดต่อกับกลุ่มตอลิบานแล้ว การฝึกซ้อมก็ถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดเพื่อหาสัญญาณว่ากองกำลังจีนและรัสเซียกำลังเรียนรู้ที่จะประสานภารกิจและปฏิบัติการร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ
โรเดอร์ริค ลี(Roderick Lee) ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของสถาบัน China Aerospace Studies แห่งมหาวิทยาลัย Air ซึ่งสนับสนุนโดยกองทัพอากาศและอวกาศของสหรัฐฯกล่าวว่า นี่เป็นครั้งแรกที่จีนลงมืออย่างจริงจัง โดยปล่อยให้รัสเซียเข้าร่วมในการฝึกซ้อมของตนเอง “การฝึกซ้อมทวิภาคีโดยเฉพาะที่พวกเขามักทำนั้นมีจุดมุ่งหมายเพื่อพัฒนาความสัมพันธ์มากกว่าความสามารถในการสู้รบที่แท้จริง แต่ครั้งนี้จริงจังและเปิดเผยเชิงลึกมากขึ้น”
มิคาอิล บาราบานอฟ นักวิจัยอาวุโสของศูนย์วิเคราะห์กลยุทธ์และเทคโนโลยี หน่วยงานคลังสมองด้านกลาโหมในกรุงมอสโก ระบุว่า การตัดสินใจเข้าร่วมของรัสเซียเป็น “ก้าวสู่การมีปฏิสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นและความร่วมมือทางทหารอย่างไม่ต้องสงสัย” “ดูเหมือนว่าความร่วมมือนี้จะเข้มข้นขึ้นเร็วกว่าที่คาดไว้ ซึ่งเกี่ยวข้องกับกลยุทธ์ใหม่ทั้งหมดของทั้งสองฝ่าย” แม้ว่ามอสโกและปักกิ่งจะยืนยันว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาไม่ใช่พันธมิตรด้านการทหารอย่างเป็นทางการ แต่นักวิเคราะห์เชื่อว่ากองทัพทั้งสองสามารถให้สิทธิ์การเข้าถึงระบบการสื่อสารทางอิเล็กทรอนิกส์ของกันและกัน และสร้างโครงสร้างการบัญชาการร่วมกันอย่างไม่เคยทำมาก่อน
“ถ้าเราเห็นพวกเขาทำงานเคียงข้างกัน และพวกเขาเริ่มแบ่งปันข่าวกรองและการสื่อสาร มันก็จะทำงานร่วมกันได้ในสถานการณ์เกิดความขัดแย้งหรือวิกฤต” สื่อทางการทหารของจีนในช่วงสุดสัปดาห์กล่าวว่าทหารรัสเซียจะได้รับสิทธิ์เข้าถึงรถหุ้มเกราะของจีนเป็นครั้งแรกด้วย
Richard Weitz ผู้อำนวยการศูนย์วิเคราะห์การเมือง-การทหารที่ฮัดสัน สถาบันคลังความคิดของวอชิงตันวิเคราะห์ว่า “ปักกิ่งต้องการหลีกเลี่ยงการจุดกระแสความกังวลของประเทศนาโตเกี่ยวกับอำนาจทางทหารของจีนว่าจะนำกองกำลังภาคพื้นดินของพวกเขาไปยังพรมแดนทางตะวันออกของนาโตหรือไม่ โดยทำให้การฝึกนี้ในจีนทดแทนการมีส่วนร่วมซ้อมรบในรัสเซียปลายปีตามแผนเดิม”
โปรเจ็กต์ Zapad/Interaction 2021 เกิดขึ้นท่ามกลางการถอนกองกำลังที่นำโดยสหรัฐฯ ออกจากอัฟกานิสถาน ซึ่งเสี่ยงต่อความไม่มั่นคงในภูมิภาคเอเชียกลางที่มอสโกมองว่าเป็นสนามหลังบ้าน
รัสเซียและจีนได้ดำเนินการซ้อมรบระดับทวิภาคีและพหุภาคีมาตั้งแต่ปี 2548ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทั้งสองฝ่ายได้เพิ่มความร่วมมือในการตระเตรียมการเผชิญหน้ากับสหรัฐและพันธมิตรตะวันตกคว่ำบาตร รัสเซีย หลังจากการผนวกไครเมียในปี 2557 และทำให้ความสัมพันธ์กับสหรัฐจมดิ่งสู่ระดับต่ำสุดในปัจจุบันเมื่อปธน.โจ ไบเดนก้าวมากุมบังเหียนสหรัฐด้วยท่าทีแข็งกร้าวต่อรัสเซียทั้งเศรษฐกิจ การเมืองและการทหาร
ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ได้บอกใบ้ถึงพันธมิตรทางทหารรัสเซีย-จีนซึ่งการยกระดับจากหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ในปัจจุบันสู่อนาคตภายหลัง Zapad/Interaction 2021 กองทัพรัสเซียและกองทัพปลดแอกประชาชนจีนกำลังวางแผนฝึกซ้อมรบภายใต้พันธมิตรเซี่ยงไฮ้ Shanghai Cooperation Organisation (SCO) ที่นำโดยรัสเซียและจีนในเดือนกันยายนอีกด้วย
