สันติไม่มีจริง!? “อานนท์” เขียนจดหมายถึงม็อบ ยอมรับคนรุ่นใหม่แค้น เลยใช้ความรุนแรงกับตร. มวลชนด่ายับ สู้แบบนี้ก็รอคุกได้เลย

2005

หลังจากที่การชุมนุมของม็อบ 10 สิงหา ได้เกิดเหตุป่วนชุลมุนหลายจุด ทั้งที่แยกดินแดง และบริเวณอนุสาวรีย์ชัย ที่มีกลุ่มมวลชนบุกเผาป้อมตำรวจ และพบว่ามีการปะทะเกิดขึ้นต่อเนื่องทั้งสองฝ่าย เหตุการณ์เริ่มบานปลายจนถึงเวลา 21.00 น. จึงจะสงบ อีกทั้งมีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจบาดเจ็บ 6 นายนั้น

ล่าสุดทางทนายอานนท์ นำภา แกนนำราษฎร ที่ขณะนี้ถูกคัดค้านการประกันตัว หลังเดินทางไปมอบตัวที่ สน.ปทุมวัน และอยู่ระหว่างรอฝากขังศาลศาลอาญาใต้ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ได้เคลื่อนไหวเขียนจดหมายถึงม็อบ 3 นิ้ว ถึงประเด็นที่มีการปะทะเดือดเกิดขึ้น อีกทั้งแอดมินยังโพสต์ข้อความระบุว่า “ฝากจดหมายถึงพี่ ๆ ตำรวจ อัยการ ศาล และส่งกำลังใจให้พี่น้องคนรุ่นใหม่ทุกคน

จากสถานการณ์ตอนนี้พวกเขาเจตนาจะปุ่นให้เกิดการใช้ความรุนแรง กระตุ้นให้พวกเราโกรธแค้นและใช้ความรุนแรงกับเจ้าหน้าที่ ขอให้พวกเราตั้งสติ รอบคอบ และใช้สันติวิธีให้ถึงที่สุด ดูแลกันและกันให้ปลอดภัยในการต่อสู้ครั้งนี้
คุกขังผมได้ คุกก็ขังประยุทธ์กับพวกได้เช่นกัน”

อีกทั้งในจดหมายลายมือของทนายอานนท์ ได้เขียนข้อความ สรุปได้ว่า “เลยจากชุมนุมประท้วง มันจะกลายเป็นจลาจล ไม่มีใครสามารถควบคุมได้ ความสูญเสียจะเป็นบาดแผล รัฐต้องหยุดกระตุ้นให้เกิดความรุนแรง คนรุ่นเก่าต้องถอยและรับฟังอนาคตของชาติ คนรุ่นใหม่เขาออกมาสู้ ก็เพื่อพวกท่านด้วย ตำรวจ อัยการ ศาล จะได้มีวัคซีนดี ๆ สำหรับคนรุ่นใหม่ก็ควรต่อสู้ด้วยสติ มองให้รอบคอบ กุมหลักสันติวิธีให้ถึงที่สุด ดูแลกันกันให้ดี ระหว่างที่ต่อสู้ ”

อย่างไรก็ตามได้มีคอมเม้นต์จากมวลชนที่ยังเชื่อมั่น และเคารพในการนำขบวนของแกนนำม็อบ แต่ก็มีมวลชนอีกฝั่งมองว่า ม็อบเริ่มรุนแรงขึ้นทุกครั้ง และครั้งนี้ต้องยอมรับด้วยว่า เราสู้กันแบบนี้ คุมสติไม่ได้ ไม่มีทางชนะแน่นอน , สันติจนติดคุก มันไม่น่าจะใช่แล้วล่ะ นอกจากนี้ยังมีการตั้งข้อสังเกตด้วยว่า กลุ่มมวลชนบางพวกจะรอปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แม้แกนนำจะสั่งให้กลับบ้านก็ไม่ได้สนใจฟัง แค่แฝงเข้ามาในม็อบเพื่อสร้างสถานการณ์ ตรงนี้หากควบคุมไม่ได้ ก็ต้องยอมรับว่าชื่อเสียงที่คนรุ่นใหม่พยายามจะเรียกร้องแบบสันติก็จบลงไปด้วย เพราะแกนนำไม่เคยทันเกมเลยสักครั้ง