นอนคุกอีกรอบ!? ตำรวจยื่นฝากขัง 31 ผู้ต้องหาม็อบหน้าบช.ปส. ค้านประกันตัว “ไผ่ ดาวดิน” เหตุกระทำผิดซ้ำซาก ชุมนุมต่อเนื่อง

2075

เจ้าหน้าที่ตำรวจทุ่งสองห้อง ยื่นคำร้องฝากขังผ่านจอภาพ 2 สำนวน ไผ่ ดาวดิน พร้อมพวกม็อบ 31 คนชุมนุมหน้า บช.ปส. เมื่อวันที่ 2 ส.ค. ที่ผ่านมา

โดยมีการสาดสีใส่เจ้าหน้าที่ ที่ประตูรั้วหน้า บช.ปส. ซึ่งอ้างว่าจะเข้าไปเอารถ 6 ล้อ เครื่องขยายเสียงคืน พร้อมค้านประกัน ไผ่ ดาวดิน คนเดียว เหตุกระทำผิดซ้ำซากหลายครั้งหลายหน หากปล่อยตัวจะไปทำผิดอีก แถมก่อนหน้านี้ก่อเหตุในพื้นที่ สน.ต่าง ๆ มาแล้ว 12 ครั้ง

มีรายงานระบุว่า ศาลอาญาคดีทุจริตเเละประพฤติมิชอบกลาง ซอยสีคาม ถนนนครไชยศรี พนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง ได้ยื่นคำร้องขออำนาจศาลฝากขังผ่านจอภาพครั้งเเรก นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน แกนนำราษฎร กับพวกรวม 29 คน ผู้ต้องหาที่ร่วมกันชุมนุม ก่อความวุ่นวาย ร่วมกันพยายามข่มขืนใจเจ้าพนักงานให้ปฏิบัติการอันมิชอบด้วยหน้าที่หรือให้ละเว้นการปฏิบัติการตามหน้าที่โดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย และร่วมกันชุมนุมหรือทำกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรคในพื้นที่ที่มีการประกาศหรือคำสั่งกำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด เป็นเวลา 12 วันตั้งเเต่วันที่ 3 -14 ส.ค. นี้เนื่องจากยังต้องสอบพยาน 6 ปากเเละรอผลตรวจสอบรายนิ้วมือประวัติต้องโทษผู้ต้องหา จึงขออำนาจศาลฝากขัง

โดยคำร้องระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 1 ส.ค.64 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมกันจับกุมผู้ตัวผู้ต้องหาที่เข้าร่วมชุมนุม “คาร์ม็อบ” ซึ่งมาร่วมชุมนุมเพื่อขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและได้นำตัวมาควบคุมไว้ที่ บช.ปส. ต่อมาวันที่ 2 ส.ค.64 กลุ่มผู้ต้องหาได้นัดรวมตัวกันที่หน้าบช. ปส. ถ.วิภาวดีฯ เพื่อมาชุมนุมและข่มขู่กดดันพนักงานสอบสวน สน. สำราญราษฎร์ให้ปล่อยตัวผู้ต้องหาที่ถูกควบคุมตัวอยู่ที่ บช.ปส. ต่อมาพนักงานสอบสวนนำผู้ต้องหาที่ถูกควบคุมตัวอยู่ที่ บช. ปส. ไปยื่นคำร้องขอผัดฟ้องฝากขังต่อศาลแขวงดุสิต และศาลได้มีคำสั่งให้ปล่อยชั่วคราวโดยไม่มีหลักประกันไปแล้ว แต่กลุ่มผู้ชุมนุมก็ยังคงชุมนุมกดดันพนักงานสอบสวน สน. สำราญราษฎร์ ให้คืนรถบรรทุก 6 ล้อและเครื่องขยายเสียงซึ่งถูกยึดเป็นของกลางในคดีและพยายามที่จะเข้าไปใน บช.ปส. เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ประกาศและสั่งให้ยุติการชุมนุม แต่กลุ่มผู้ชุมนุมไม่ยอมยุติ

จากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมได้นำสีแดงที่ได้เตรียมมาสาดใส่รั้วประตูของ บช.ปส. และเจ้าหน้าที่ และพยายามจะเข้าไปใน บช. ปส. เพื่อไปเอารถบรรทุก 6 ล้อและเครื่องขยายเสียงของกลางที่ถูกยึดไว้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงร่วมกันจับกุมตัวเพื่อส่งสน. ทุ่งสองห้องดำเนินคดีตามกฎหมาย แต่เนื่องจากได้รับแจ้งจากพนักงานสอบสวน สน. ทุ่งสองห้องว่า มีกลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนเดินทางเข้าไปยังที่สน. ทุ่งสองห้องเกรงว่า จะถูกปิดล้อมและกดดันให้ปล่อยตัวผู้ต้องหาและอาจมีการก่อเหตุร้ายขึ้นจึงขอให้นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปส่งที่ บก. ตชด. ภาค 1 จ.ปทุมธานีซึ่งใช้เป็นที่ทำการของพนักงานสอบสวนจึงแจ้งสิทธิและข้อกล่าวหาให้ทราบ

ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนระบุว่า หาก นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษ์หรือไผ่ ดาวดิน ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวพนักงานสอบสวนขอคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเกรงว่าจะหลบหนีและไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ประกอบกับนายจตุภัทร์ มีพฤติการณ์ที่จะกระทำความผิดโดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมือง อันก่อให้เกิดความเสียหายต่อประเทศชาติอีกทั้งมีแนวโน้มที่จะกระทำความผิดในลักษณะเดิมต่อไปอีกซึ่งการกระทำผู้ต้องหาเป็นการกระทำซ้ำ ๆ ต่างกรรมต่างวาระตามข้อกล่าวหาเดิมหลายครั้งหลายหน จึงมีเหตุอื่นอันเชื่อว่าหากอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาจะไปก่อเหตุในลักษณะเดียวกันกับความผิดที่ถูกกล่าวหาอีกซึ่งนายจตุภัทร์ ผู้ต้องหานี้เคยก่อเหตุในพื้นที่ สน.ต่าง ๆ รวม 12 คดี

นอกจากนี้พนักงาน สน.ทุ่งสองห้อง ได้ยื่นคำร้องขอฝากขังผ่านจอภาพผู้ต้องหาหญิงอีก 2 คน คือ น.ส.ชนาภา สิทธินววิชอายุ 24 ปีเเละ น.ส.รุ่งฤดี แก่งดาภา อายุ 20 ปี ข้อหาร่วมกันพยายามข่มขืนใจเจ้าพนักงาน ให้ปฏิบัติการอันมิชอบด้วยหน้าที่หรือให้ละเว้นการปฏิบัติการตามหน้าที่ โดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายและร่วมกันชุมนุมหรือทำกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรคในพื้นที่ที่มีการประกาศหรือคำสั่งกำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด จากการชุมนุมวันเดียวกันด้วย ศาลพิจารณาคำร้องแล้วอนุญาตให้ฝากขังได้

อย่างไรก็ตามในวันที่ 7 ส.ค. นี้ ที่กลุ่มเยาวชนปลดแอกจะจัดชุมนุม และมีแกนนำของม็อบราษฎรไปร่วมด้วยนั้น จะไม่มีไผ่ ดาวดิน ปรากฎตัวไปร่วมชุมนุมด้วย เนื่องจากศาลคัดค้านการประกันตัว