ดร.อานนท์ หยามหน้า “พิธา” เป็นนักการเมือง แต่ไม่กล้าเผชิญความจริง ท้าอีกครั้งให้ส่ง ธนาธร-ปิยุบตร มาดีเบตดร.นิวแทน!?
จากกรณี พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ได้อภิปรายต่อที่ประชุมกรรมาธิการงบประมาณ จนนำมาซึ่งกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นข้อมูล ข้อเท็จจริงที่ถูกต้องหรือไม่นั้น
ต่อมาวันที่ 23 กรกฎาคม 2564 ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ หรือ นิด้า ได้โพสต์เพซบุ๊กส่วนตัวเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว พร้อมระบุข้อความว่า ขอเชิญ Pita Limjaroenrat – พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ มาท้าดีเบตกับผมในประเด็นงบประมาณหน่วยราชการในพระองค์ครับ ผมจะขอเวลาช่อง Top News และขอเชิญ สันติสุข มะโรงศรี มาเป็นพิธีกรให้ครับ ขอบพระคุณมากครับ ปล.จะโหลดข้อมูลคู่มืออะไรออนไลน์มาก็ได้นะ แต่จะทันไหม จะมีประโยชน์ไหมหนอ?
และยังได้โพสต์ข้อความถึงนายพิธา อีกครั้งว่า“ผมว่าคุณทิม พิธา Pita Limjaroenrat – พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ น่าจะมีความกล้าหาญ และมีความเป็นลูกผู้ชายมากกว่านี้นะครับ คุณออกมาโพสต์และออกมาพูดใส่ร้ายหน่วยราชการในพระองค์สามหน่วยงาน คือ สำนักพระราชวัง สำนักองคมนตรี หน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ ในเรื่องการของบประมาณ ว่าใช้เอกสาร 7 หน้า ใช้เวลา 10 นาที และกล่าวหาอีกสารพัด ผมไปศึกษาข้อมูลมา และทราบรายละเอียดทั้งหมด ผมได้ขอท้าให้คุณมาออกรายการโทรทัศน์กะผม จะช่องไหนก็ได้ พิธีกรคนไหนก็ได้ ผมจะนำเสนอข้อมูลและข้อเท็จจริงทั้งหมด อย่างตรงไปตรงมา หนุ่มกรรชัย กำเนิดพลอย โทรมาหาผมบอกว่าจะลองเชิญคุณ คุณก็ไม่มา
ทำไมครับ การใส่ร้ายป้ายสีกระทบชิ่งไปด้อยค่าสถาบันพระมหากษัตริย์นี่ ทำแบบลูกผู้ชาย ชนกันด้วยข้อมูลตรงไปตรงมาไม่ได้เหรอครับ ทำไมต้องพูดข้างเดียวฝ่ายเดียว คุณเป็นนักการเมืองและหัวหน้าพรรคการเมืองแบบไหน ถึงไม่กล้ามาเผชิญความจริง จะประดิษฐ์วาทกรรมแล้วเล่าความเท็จฝ่ายเดียว โดยให้สาวกเคลิบเคลิ้ม และมีอคติพอๆ กันและขาดสติปัญญาจนไม่กล้าเผชิญความจริง เราจะฝากประเทศไทยไว้กับคนรุ่นใหม่ที่ไม่กล้าเผชิญความจริงเยี่ยงนี้ได้เหรอครับ กลัวอะไรครับ กลัวกะลาแตก echo chamber แตกหรือครับ กลัวสาวกรู้เหรอครับ ว่าคุณไม่ได้พูดความจริง ทั้งยังบอกว่า ถ้าคุณอยากหาตัวช่วย คุณจะชวน สมาชิกร่วมอุดมการณ์ อันได้แก่ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และ ปิยบุตร แสงกนกกุล และ พรรณิการ์ วานิช มาด้วยกันก็ได้ครับ ผมยินดี ประเด็นนี้แหละครับ
ล่าสุดวันนี้ (3 สิงหาคม 2564) ดร.อานนท์ ได้โพสต์ข้อความถึงนายพิธาถึงกรณีของงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 โดยระบุข้อความว่า เอาหละครับ ในเมื่อไม่มีใครเป็นลูกผู้ชายพอที่จะเผชิญความจริง ผมจะอธิบายแบบคนเป็นครูให้ฟังแล้วกันนะครับ ประชาชนทั่วไปจะได้รู้ว่าใครพูดจริงใครโกหก
ในเมื่อเป็นนักการเมืองแล้วไม่กล้าเผชิญความจริง Pita Limjaroenrat – พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ผมถือว่าคุณต้องการด้อยค่าใส่ร้ายป้ายสีสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยการใส่ร้ายเรื่องการของบประมาณ และผมถือว่าคุณไม่รู้จัก protocol หรือระเบียบขั้นตอนในการปฏิบัติราชการและงบประมาณเอาเสียเลย แต่อยากจะด้อยค่าสถาบัน จึงได้กล่าวว่า แค่ 7 หน้า ขอ แปดพันกว่าล้าน ใช้เวลา สิบนาที
ประการแรก เอกสารที่หน่วยราชการต่างๆ ทำส่งสำนักงบประมาณนั้นจะมีรายละเอียดมากมายเป็นหลายร้อยหน้า ในเล่มที่หนาๆ ที่ผมแนบในรูปนี้มาให้คุณได้พิจารณานั้น มาจากส่วนราชการในพระองค์ และมีการทำข้อมูลเปรียบเทียบคำของบประมาณ สามปี เอกสารนี้ตีลับมาก ตามที่คุณได้เห็นนั่นแหละ
จะทำให้หนา 20000 หน้าก็ทำได้ มีข้าราชการในหน่วยราชการในพระองค์ หมื่นสี่พันห้าร้อยคน ก็ใส่เงินเดือนค่าจ้าง เงินเพิ่มพิเศษ ประวัติการขึ้นเงินเดือนของทุกคน คนละหน้า ก็หนา 14000 แล้วครับ พิธาซาเล้งรับซื้อกระดาษ ความหนาไม่ใช่สาระ
ประการสอง เอกสารตีลับมาก เหล่านี้ หากต้องการเห็นรายละเอียด คุณก็สามารถขอดูได้โดยอาศัย พรบ ข้อมูลข่าวสารของทางราชการ 2535 หากคุณเป็น กรรมาธิการงบประมาณ คุณสามารถขอจากเจ้าหน้าที่สำนักงบประมาณได้ เพราะคุณมีอำนาจหน้าที่ แต่ถ้าคุณไม่มีอำนาจหน้าที่ เขาก็ไม่ให้คุณ นอกจากนี้ยังมีเป็น electronic file เช่น Microsoft word หรือ excel ด้วย การจะออกมาตีโพยตีพาย แล้วอนุมานทึกทักเอาเองว่า ของที่มีให้ดาวน์โหลดบนอินเตอร์เน็ตได้เท่านั้น ถึงแปลว่ามีรายละเอียดจริงบนโลกนี้ เป็นตรระกะของพวกเกรียนคีย์บอร์ด บนโลกออนไลน์ พวก attacker หรือ hacker บนโลกออนไลน์เท่านั้น หลุดออกมาจากโลกออนไลน์ สู่โลกความเป็นจริงบ้างก็ดีนะครับ ไม่ใช่ว่าทุกอย่างบนโลกนี้หาได้บนโลกออนไลน์เท่านั้น และของบางอย่างจะขอได้ คุณก็ต้องมีเครดิตที่เขาไว้ใจได้ การที่คุณขอแล้วไม่ได้ หรือการที่ไอ้ตี๋บางคนขอ Excel แล้วไม่ได้ มันแปลว่าอะไร มันแปลว่าเขาไม่ไว้ใจพวกคุณ ผมไม่ได้ขอ แต่ผมได้ ลอยมาในเครื่องคอมพิวเตอร์ผมเองเลย ไม่ได้ขอด้วย ก็คิดเอาเองแล้วกันว่ามันต่างกันอย่างไร
เอกสารงบประมาณ ตีตราลับมาก กรอบสีแดงสี่ด้าน แบบนี้มีทุกหน่วยงานราชการแหละครับ จะขอดูก็ขอได้ ถ้าคุณมีเครดิตพอหรือปฏิบัติตามระเบียบขั้นตอน
ประการที่สาม จากเอกสารเล่มหนาๆ เป็นร้อยๆ หน้านั้น สำนักงบประมาณมีหน้าที่ย่อสรุป ใส่ในเล่มแดงคาดขาว เล่มแดงคาดขาวนี่แหละครับที่พิมพ์แจก กมธ งบประมาณ และสามารถดาวน์โหลดได้ ซึ่งคุณเห็นแค่นี้ หรือคุณเห็นมากกว่านี้ แต่มีเจตนาบิดเบือนพูดความจริงครึ่งเดียวและตีความด้อยค่าสถาบันหรือไม่ ผมว่าให้ประชาชนคนที่มีใจเทียงธรรมเป็นคนตัดสินดีกว่า
ส่วนตัวผมเอง เคยมีกมธ งบประมาณ ให้ผมช่วยอ่านเอกสารเหล่านี้ ทั้งเล่มขาวคาดแดง เล่มเต็มที่หน่วยงานส่งคำขอไปยังสำนักงบประมาณ หนาเป็นร้อยเป็นพันหน้า ได้ file excel มาให้ช่วยเคาะตัวเลขวิเคราะห์งบที่ขอและเตรียมร่างให้ท่านผู้ใหญ่ลุกขึ้นอภิปรายงบประมาณในสภา ผมทำมาแล้วทั้งสิ้น ในฐานะการช่วยงานแผ่นดินฟรีๆ ไม่ได้ค่าตอบแทนใดๆ ไม่ได้เครดิตใดๆ ด้วย และผมเองก็ไม่ได้ต้องการ ผมอยากจะให้คุณตระหนักว่า การวิจารณ์ใดๆ ก็ตาม ต้องสืบเสาะข้อเท็จจริงและข้อมูลให้ได้มากที่สุดก่อน และต้องไม่ทำบนอคติ เช่น ต้องการด้อยค่าสถาบัน มีธงในใจนำไปก่อน ทำให้การวิเคราะห์บิดเบิ้ยว จนถึงกับพูดความจริงครึ่งเดียวหรือตีความบิดเบื้ยวจนเป็นการใส่ร้ายป้ายสี
นักการเมืองต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคมและประเทศชาติ ต้องทำหน้าที่อย่างซื่อตรงไม่บิดเบิ้ยว
อันที่จริงผมมีรายละเอียดครบถ้วนทุกประการว่าเป็นงบประมาณอะไร หมวดใดอย่างละเท่าไหร่ ขอไปด้วยเหตุผลอะไร ผมได้อ่านและได้ศึกษามาแล้วเป็นอย่างดีและพร้อมที่จะดีเบตกับคุณทุกเมื่อทางรายการโทรทัศน์ หากคุณกล้าเผชิญความเป็นจริงอย่างลูกผู้ชายเพียงพอ ขอให้คุณเชิญเพื่อนคุณมาช่วยก็ได้ ไม่ว่าจะเป็น Thanathorn Juangroongruangkit – ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ Piyabutr Saengkanokkul – ปิยบุตร แสงกนกกุล ผมพร้อมเสมอ เพราะผมยืนอยู่บนข้อมูลและข้อเท็จจริง ขอบคุณมากครับ
ถ้าไม่อยากดีเบตกับผม ดีเบตกับน้องผมก็ได้ น้องนิว Suphanat Aphinyan ผมเชื่อว่าน้องชายผมก็พร้อมดีเบตกับคุณเช่นกัน เดี๋ยวผมจะติวน้องผม ให้เข้าใจข้อมูลและกฎหมายทั้งหมดเอง ให้พร้อมไปดีเบตกับคุณ แต่น้องผมเขาเก่งเองอยู่แล้วแหละครับ