เมื่อวันพุธที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า สภาเมืองลอสแองเจลิสได้อนุมัติขั้นสุดท้าย ออกกฎหมายห้ามตั้งแคมป์รอบสวนสาธารณะ ห้องสมุด และสิ่งอำนวยความสะดวกสาธารณะอื่น ๆ นักวิจารณ์กล่าวว่าเป็นบทลงโทษผู้คนที่อาศัยอยู่ตามท้องถนน และไม่ช่วยแก้ปัญหาอย่างแท้จริง มาตรการนี้ได้รับการอนุมัติด้วยคะแนนเสียง 13-2 ลงโทษปรับเรียกเก็บเงิน โดยมองว่าเป็นวิธีที่มีมนุษยธรรมมากขึ้นในการเคลียร์ทางเท้า ตรอก และพื้นที่เปิดโล่งของเมือง โดยจะมีทีมประชาสัมพันธ์ของเมืองเสนอที่พักชั่วคราวก่อนที่จะมีการบังคับใช้กฎหมายนี้
นายกเทศมนตรีเอริค การ์เซ็ตตี(Eric Garcetti) เตรียมลงนามให้ กฎหมายบังคับใช้อย่างเข้มงวดแต่ยังไม่มีการระบุเวลาและความชัดเจนอื่นๆ
กฎหมายฉบับนี้สั่งห้ามนั่งนอนหรือการหยิบฉวยทรัพย์สินสาธารณะที่อยู่ใกล้กับห้องสมุด, สวนสาธารณะ, ศูนย์ดูแลเด็กโรงเรียนและสถานที่อื่น ๆ แต่ยังระบุด้วยว่า การบังคับใช้ในสถานที่ดังกล่าวไม่สามารถเกิดขึ้นได้จนกว่าสภาเทศบาลเมืองจะตรวจสอบยืนยันประเภทสถานที่และลงมติให้ดำเนินการต่อไป
สมาชิกสภาได้ให้คำมั่นว่าการบังคับใช้กฎหมายจะมี”ทีมผลักดันข้างถนน” มาพร้อมกัน ได้แก่นักสังคมสงเคราะห์ ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต และคนอื่นๆ ที่จะเสนอที่พักชั่วคราวให้โดยไม่มีการให้บริการอื่นๆ โดยนักวิเคราะห์นโยบายของเมืองได้เสนอให้มอบหมายทีมเผยแพร่ 17 ทีมจาก Los Angeles Homeless Services Authority เพื่อปฏิบัติงานนี้ ทีมเหล่านั้นจะมุ่งหน้าไปยังพื้นที่ ก่อนที่สภาเทศบาลเมืองจะลงมติรับรองห้ามการตั้งแคมป์ในสถานที่สาธารณะ
แมท ซาโบ(Matt Szabo)เจ้าหน้าที่บริหารเมือง กล่าวในรายงานของเขาว่าเมื่อเคลียร์พื้นที่แล้ว เจ้าหน้าที่ภาคสนามจะกลับมาในช่วงสามเดือนต่อมาเพื่อดูว่าคนเร่ร่อนกลับมาหรือไม่ หากกลับมาจะมีการใช้มาตรการ “ส่งเสริมการปฏิบัติตามโดยสมัครใจ”อื่นๆ
มาร์ค ริดลีย์-โธมัส สมาชิกสภา ผู้ช่วยร่างกฎหมายฉบับนี้ เรียกไทม์ไลน์นั้นว่ามีความเป็นไปได้จริง โดยกล่าวว่าแม้ต้องใช้ระยะเวลานานก็ยังได้รับการต้อนรับว่าเป็นข่าวดีจากผู้คนที่ใช้เวลาหลายปีอยู่ตามท้องถนน “สิ่งนี้ไม่อาจเกิดขึ้นในชั่วข้ามคืน” เขากล่าว “ข่าวดีก็คือว่ามันจะเกิดขึ้นได้แน่นอน”
อย่างไรก็ตาม ผู้สนับสนุนคนไร้บ้านยังคงแสดงความตื่นตระหนกต่อข้อเสนอนี้ โดยกล่าวว่าพื้นที่พักพิงไม่เพียงพอสำหรับรองรับประชากรที่ไม่มีบ้านในเมือง ซึ่งเกิน 44,000 ในการนับอย่างเป็นทางการครั้งสุดท้ายของเมือง
สมาชิกสภา,ไมค์ โบนิน(Mike Bonin) ซึ่งลงคะแนนคัดค้านกฎหมายต่อต้านการตั้งแคมป์ กล่าวว่า เมืองนี้ต้องการสิทธิ์ในการจัดหาที่อยู่อาศัย ไม่ใช่คำสั่งที่บังคับให้ผู้คนต้องอยู่ในที่พักพิงชั่วคราว เขากล่าวว่า“ผู้คนต้องการที่อยู่อาศัย ไม่ได้ต้องการคลังเก็บสินค้า พวกเขาไม่ต้องการที่พักพิง พวกเขาต้องการที่อยู่อาศัยถาวร”
นางนิธยา รามัน(Nithya Raman) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรซึ่งเป็นตัวแทนของย่านต่างๆ ตั้งแต่เชอร์แมน โอ๊คส์ ไปจนถึงซิลเวอร์เลค ลงคะแนนเสียงคัดค้านกฎหมายฉบับนี้ด้วย
การอภิปรายเกี่ยวกับแนวทางการแก้ปัญหาคนเร่ร่อนของเมืองมีขึ้นในขณะที่สมาชิกสภาให้ความสำคัญกับการเลือกตั้งในปีหน้ามากขึ้น บางคนกำลังลงสมัครรับเลือกตั้งใหม่ ในขณะที่บางคนกำลังแสวงหาตำแหน่งที่สูงขึ้น ในเวลาเดียวกัน ผู้นำธุรกิจและกลุ่มเพื่อนบ้านเริ่มมีเสียงเรียกร้องมากขึ้นในความต้องการลดจำนวนแคมป์ที่เต็มไปด้วยเต้นท์ของคนเร่ร่อน
มาร์ค แบรดี(Mark Brady) ผู้บริหาร Barnsdall Square Shopping Plaza ในฮอลลีวูด บอกกับสมาชิกสภาว่า ค่ายพักแรมคนจรจัดที่ตั้งไปตามทางเท้าบนถนน Vermont Avenue และการคุกคามที่เกิดขึ้นกับพนักงานของศูนย์การค้าก่อความเดือดร้อนมายาวนานแล้ว เขากล่าวว่า“ลูกค้าบอกกับฉันและกับผู้จัดการของร้านค้าว่าพวกเขารู้สึกไม่ปลอดภัยที่จะไปที่ร้านเพราะกลัว” และว่าธุรกิจขนาดเล็กเหล่านี้กำลังถูกฆ่าตาย จากสภาพไร้ระเบียบของเมือง
เรเนย์ โรดิเกซ(Renay Rodriguez) ทนายความในแชตเวิร์ธ (Chatsworth) ซึ่งให้บริการช่วยเหลือแก่คนไร้บ้านบอกกับสมาชิกสภาว่ากฎหมายจะทำให้คนเร่ร่อนกลับมายืนขึ้นได้ยากกว่าเดิม “คุณจะเก็บค่าปรับกับคนที่สามารถจ่ายได้น้อยที่สุด มันเท่ากับว่าคุณกำลังจะเตะพวกเขา และวางเข่าบนคอของพวกเขานั่นเอง”
มุมมองที่แตกต่างของสภาทำให้บางคนโต้แย้งว่ากฎหมายฉบับใหม่นี้จะทำให้แนวทางการไร้บ้านของเมืองกลายเป็นเรื่องการเมืองมากขึ้น โดยมีการบังคับใช้แตกต่างกันไปในแต่ละเขต ขึ้นอยู่กับความคิดเห็นทางการเมืองของสมาชิกสภา
