เดือดจัด และจริงสุดๆ! วิมล-ดร.เสรี ชำแหละชัด “ดารา-นักร้อง” คอลเอาต์ สุดใจดำอำมหิต นำวัคซีนมาเป็น ”อาวุธชีวภาพ”
สืบเนื่องก่อนที่จะมีดารา นักร้อง ตามกระแสกันออกมาคอลเอาต์ หลังจากที่โควิดได้แพร่ระบาดอย่างหนักและรุนแรงอย่างในปัจจุบัน เป็นเพียงปลายทาง ที่ไม่ได้มองถึงสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ว่ามีคนดังที่หนุนขบวนการสามกีบ ออกมาประกาศต้าน “ซิโนแวค” สื่อบางสำนักก็ร่วมวงประโคมข่าวด้อยค่าวัคซีนที่ไทยนำเข้า จนสร้างกระแส ต่อต้านวัคซีนเป็นผล มีหลายคนยอมทิ้งคิวฉีดซิโนแวค เพราะหลงเชื่อคำหลอกลวง ทำให้หลายๆคนมีโอกาสได้ฉีดวัคซีนแต่ไม่ยอมฉีด ยิ่งทำให้เสี่ยงต่อการเสียชีวิตมากขึ้น
โดยในวันที่ 26 ก.ค.64 ที่ผ่านมา ทางด้านของ นายวิมล ไทรนิ่มนวล นักเขียนรางวัลซีไรต์ ก็ได้มีมุมมองต่อเรื่องดังกล่าวในแนวทางเดียวกัน โดยมองว่านี่คือ การนำวัคซีนมาเป็น ”อาวุธชีวภาพ” โดยมีรายละเอียดว่า
“การนำวัคซีนมาเป็น”อาวุธชีวภาพ”ทำลายล้างกันทางการเมืองนับว่าได้ผลอยู่บ้าง (เท่าที่รู้) มีชาวบ้านสละสิทธิ์ไม่ฉีด เพราะกลัวอันตรายตามที่พวกใจอำมหิตประโคมโหมแห่กันในโลกออนไลน์และสื่อ
โดยหารู้ไม่ว่า.. พวกอำมหิตมันฉีดกันไปก่อนนานแล้ว แถมจ้องจะฉีดเข็ม3ก่อนอีก
หมอพูดไม่เชื่อ! แต่เชื่อพวกอันธพาลทางนักการเมือง เชื่อดารา เชื่อนักร้อง นางงาม เชื่อสื่อที่ไม่มีกระดูกสันหลัง! ”
ต่อมาในวันที่ 27 ก.ค.64 ทางด้านของ ดร.เสรี วงษ์มณฑา ผู้ร่วมก่อตั้งสถาบันทิศทางไทย และพิธีกรชื่อดัง ก็ได้ออกมาโพสต์ข้อความ ถึงความใจดำอำมหิตของแผนการนี้ด้วยเช่นกันว่า
“ฝ่ายค้านบางคน ฝ่ายตรงกันข้ามกับรัฐบาลหลายคน สื่อบางราย มือคีย์บอร์ดหลายคน ชอบสื่อสารทำให้คนไม่ฉีดวัคซีน ทำให้คนโกรธเกลียดรัฐบาล ถ้าเป็นกันแบบนี้ เราจะเอาชนะโควิดได้อย่างไร
มีบางคนจงใจอยากให้มีคนติดเยอะๆ ชวนคนติดเชื้อออกมาชุมนุม จัดกิจกรรมให้คนมารวมตัวกันมากๆ เพื่อให้มีการติดเชื้อเป็น cluster ให้จำนวนคนติดแต่ละวันเกินหมื่น
ทำไมใจดำอำมหิตขนาดนี้ ทำไมเอาชีวิตคนมาเป็นเครื่องมือทางการเมือง ไม่คิดบ้างหรือว่า ในยามวิกฤตเช่นนี้ เราไม่ควรสร้างความแตกแยก สร้างความเกลียดชัง จนไม่มีความสามัคคี
มาร่วมมือกันดีกว่านะคะ อย่าทำอะไรที่สร้างปัญหาให้สังคมดีกว่า ในยามนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาตั้งหน้าตั้งตาไล่นายกฯ หรือไล่รัฐบาล แทนที่จะด่า ให้ขอเสนอแนะการทำงานเพื่อประเทศชาติ เพื่อประชาชนดีกว่านะคะ”