วันที่ 25 ก.ค.2564 เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน ในงานฉลองครบรอบ 325 ปีกองทัพเรือรัสเซีย ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ประกาศชัดว่า กองทัพเรือของรัสเซียสามารถตรวจจับศัตรูใดๆ และเปิด “การโจมตีที่ไม่อาจป้องกันได้” หากจำเป็น เป็นการประกาศกร้าวหลังจากที่เรือรบอังกฤษลำหนึ่งแล่นเรือรุกล้ำใกล้คาบสมุทรไครเมีย และการซ้อมรบของสหรัฐ-นาโต้ในน่านน้ำทะเลดำ ทางการรัสเซียถือเป็นการข่มขู่และท้าทายในเขตน่านน้ำอิทธิพลของรัสเซียอย่างเด่นชัด โดยเฉพาะคำพูดของผู้บัญชาการกองทัพเรือสหรัฐฯแสดงถึงการข่มขู่คุกคามอย่างชัดเจน
“เราสามารถตรวจจับศัตรูที่อยู่ใต้น้ำ เหนือน้ำและทางอากาศได้ และหากจำเป็น ก็สามารถโจมตีต่อมันอย่างไม่อาจป้องกันได้” ปูตินกล่าวขณะขบวนพาเหรดวันกองทัพเรือในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ซึ่งกองเรือ และเรือดำน้ำกว่า 50 ลำเข้าร่วมขบวนพาเหรด ส่วนทางอากาศของขบวนพาเหรดประกอบด้วย เครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์มากกว่า 40 ลำ มีบุคลากรประมาณ 4,000 คนเข้าร่วมงานด้วย
ปูตินกล่าวว่า “ในเวลาอันสั้น รัสเซียได้เข้ามาแทนที่บรรดามหาอำนาจทางทะเลชั้นนำ ได้ผ่านวิธีการพัฒนาขนาดมหึมาตั้งแต่เรือลำเล็กๆ ในสมัยของปีเตอร์มหาราช ไปจนถึงเรือเดินทะเลที่ทรงพลังและเรือดำน้ำปรมาณูขีปนาวุธ” “ทุกวันนี้กองทัพเรือรัสเซียมีทุกสิ่งที่จำเป็นเพื่อรับประกันการปกป้องประเทศของเราและผลประโยชน์ของชาติ”
ในงานนี้กองเรือจากกองทัพเรืออิหร่าน อินเดีย และปากีสถาน ได้เข้าร่วมขบวนสวนสนามเหนือมหาสมุทรด้วย ตามรายงานของสำนักข่าวสปุตนิค(Sputnik) ของรัสเซีย วันกองทัพเรือมีการเฉลิมฉลองทุกปีในรัสเซียในวันอาทิตย์สุดท้ายของเดือนกรกฎาคม
ประธานาธิบดีรัสเซียกล่าวเสริมว่า “ปีนี้กองทัพเรือรัสเซียฉลองครบรอบ 325 ปี รัสเซีย ได้เข้าซื้อกิจการการบินนาวีพิสัยไกลและระยะสั้น ระบบป้องกันชายฝั่งที่ปลอดภัย ระบบอาวุธยุทโธปกรณ์นำร่องด้วยความเร็วเหนือเสียงล่าสุดที่ยังไม่มีระบบอะนาล็อกในโลกสามารถต้านทาน” การเฉลิมฉลองครั้งนี้มีขึ้นหนึ่งเดือนหลังจากเรือพิฆาต HMS Defender ของอังกฤษ บุกทะลวงรุกเข้าสู่น่านน้ำของรัสเซียนอกชายฝั่งไครเมีย โดยอ้างว่าเป็นน่านน้ำสากล
การเคลื่อนไหวยั่วยุกระตุ้นให้เรือลาดตระเวนชายแดนรัสเซียยิงปืนเตือน และเครื่องบินทิ้งระเบิด Sukhoi-24M บินกดดันเหนือเรือพิฆาต หลังจากการยิงเตือนของรัสเซีย HMS Defender ก็ออกจากน่านน้ำ แม้บอริส จอห์นสันจะปฏิเสธ แต่โลกก็ได้พบว่าเป็นการโกหกหน้าตาย เพราะมีพยานเป็นผู้สื่อข่าวบีบีซีที่มากับเรือพิฆาตลำนั้น
เหตุการณ์ครั้งนี้ ปูตินกล่าวว่ารัสเซียอาจจมเรือทหารอังกฤษโดยไม่ต้องเริ่มสงครามโลกครั้งที่สามและเน้นว่าสหรัฐฯมีบทบาทในการยั่วยุ
แหลมไครเมียประกาศอิสรภาพจากยูเครนเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2014 และประกาศอย่างเป็นทางการในการว่าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียหลังจากการลงประชามติ ซึ่งผู้เข้าร่วม 96.8 เปอร์เซ็นต์โหวตเห็นด้วย ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างมอสโกกับตะวันตกเริ่มตกต่ำมานับแต่นั้น
สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป และยูเครนอ้างว่ารัสเซียได้ผนวกภูมิภาคแห่งนี้ไว้แต่เพียงผู้เดียว ซึ่งมอสโกปฏิเสธข้อกล่าวหาอย่างรุนแรงว่าเป็นการให้ร้ายเกินจริง
ก่อนหน้านี้ การซ้อมรบข้ามชาติระหว่างสหรัฐและพันธมิตรนาโต้ 12 ประเทศในน่านน้ำทะเลดำ สะท้อนการแสดงแสนยานุภาพยั่วยุรัสเซียอย่างชัดเจน เพราะรัสเซียมีพรมแดนประเทศติดทะเลดำเท่ากับซ้อมรบข่มขู่หลังบ้านของรัสเซียนั่นเอง
ผู้บัญชาการกองทัพเรือสหรัฐฯโรเบิร์ต พี เบิร์ก (Robert P. Burke) เรียกการกระทำของรัสเซียว่าเป็นความพยายามที่จะกลั่นแกล้งเพื่อนบ้านให้ยอมรับเรื่องที่ว่าไม่มีประเทศอื่นใดมีสิทธิที่จะอยู่ในทะเลดำ ความพยายามของรัสเซียในการควบคุมทะเลดำจะต้องพบกับการปรากฏตัวทางยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯและนาโต้อย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง
