การประท้วงต่อต้านรัฐบาลในคิวบา เป็นผลงานของรัฐบาลวอชิงตัน ที่ทำการปิดล้อมทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องกับประเทศคิวบาตั้งแต่ช่วงปลายทศวรรษ 1950 เป็นการคว่ำบาตรทางการค้าที่ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์สมัยใหม่ ล่าสุดการประท้วงในวงกว้างและการจลาจลที่เขย่าประเทศย่านทะเลแคริบเบียนนั้น กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียชี้ว่าเกิดจากการรณรงค์ แทรกแซงโดยเจ้าหน้าที่อเมริกันเพื่อขับไล่รัฐบาลสังคมนิยมของประเทศ ที่วอชิงตันไม่ต้องการ
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 15 ก.ค.2564 มาเรีย ซาคาโรวา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของรัสเซีย (Maria ZakharovaMoscow’s top diplomatic representatives, ministry spokeswoman)หนึ่งในผู้แทนทางการทูตระดับสูงของมอสโก ได้ประณามความหยิ่งทะนงของสหรัฐฯ ที่ชี้ว่าการประท้วงเป็นผลมาจากความผิดพลาดของรัฐบาลคิวบาเอง เธออธิบายแนวทางนี้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของ“การแสดงละครตีสองหน้าทางการเมือง แบบหน้าซื่อใจคดของสหรัฐอเมริกาอีกครั้งหนึ่ง”
“ความเห็นที่ถากถางดูถูกต่อรัฐบาลคิวบา ของวอชิงตันว่าตลอดระยะเวลาของการดำรงอยู่ของคิวบาปฏิวัติ คิวบาได้ดำเนินตามยุทธศาสตร์ในการบีบบังคับในประเทศ เลือกปฏิบัติต่อประชาชน และทำลายเศรษฐกิจ”เธอกล่าวต่อว่าเป็นการสร้างวาทะกรรมให้ร้ายประเทศอื่น
“วอชิงตันนำพฤติกรรมแบบนี้ไปใช้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าในสถานการณ์ต่างๆ และในทุกกรณี มีเป้าหมายเดียวกัน คือจุดประกาย ‘การปฏิวัติสี’ เพื่อตอบสนองแผนต่อต้านคณะบริหารและการปกครองที่สหรัฐไม่ต้องการ” เจ้าหน้าที่กล่าวเสริมว่า แนวทางดังกล่าว ใช้มาตรการคว่ำบาตรและกระตุ้นความตึงเครียดโดยทำให้สถานการณ์ทางเศรษฐกิจและสังคมในประเทศแย่ลงตลอดเวลา
ซาคาโรวากล่าวว่า หน่วยงานทางความคิดในฮาวานาเพียงแห่งเดียวที่ถูกตำหนิว่าเป็นต้นเหตุให้เกิดความไม่พอใจนั้นเป็นเรื่องเท็จอย่างเห็นได้ชัด “แม้จะมีมาตรการทั้งหมดที่ใช้โดยทางการคิวบาเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจของประเทศ และให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชน แต่พวกเขากลับถูกวอชิงตันกล่าวหาว่า เป็นต้นเหตุสถานการณ์วิกฤตในปัจจุบัน” “ในขณะเดียวกัน ชาวอเมริกันกลับนิ่งเฉยกับการกระทำที่ที่ฉวยโอกาสเช่นเคย”
เธอยังเปรียบเทียบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวอชิงตันเมื่อเดือนมกราคม 2564 เมื่อผู้สนับสนุนอดีตปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ในขณะนั้น ประท้วงความพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งของเขา “ความเชื่อเกี่ยวกับค่านิยมด้านมนุษยธรรม พหุนิยมทางการเมือง และเสรีภาพในระบอบประชาธิปไตยของอเมริกาที่โฆษณาอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันอยู่ที่ไหน”
เธอกล่าวว่า“เมื่อผู้ที่บุกโจมตีรัฐสภาถูกควบคุมตัวทั่วอเมริกาถูกกล่าวหาว่า ‘เป็นพวกก่อการร้ายในประเทศ’ และขณะนี้กำลังถูกตั้งข้อหาทางอาญาอื่นๆ คนอเมริกันว่าอย่างไร?
สัปดาห์ก่อนหน้านี้เน็ด ไพรซ์โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐกล่าวว่าสถานการณ์ที่นำไปสู่การประท้วงหลายหมื่นคนตามท้อง เกิดจากการทุจริตของระบอบการปกครองคิวบา แต่ไม่ได้บอกว่าสหรัฐอเมริกาได้ทำอะไรกับคิวบาบ้าง
เจ้าหน้าที่ในประเทศกล่าวว่า สหรัฐประกาศจะลดภาษีสำหรับผู้ที่นำอาหาร ยารักษาโรค และสิ่งจำเป็นอื่น ๆ เข้ามาในประเทศเพื่อสนับสนุนการประท้วงต่อต้านรัฐบาลที่สำคัญที่สุดในรอบหลายทศวรรษ การขาดแคลนสินค้าสำคัญเป็นต้นเหตุของความขัดแย้งที่ทำให้เกิดการประท้วงอย่างกว้างขวาง คิวบาต้องเผชิญกับการคว่ำบาตร และการปิดล้อมทางเศรษฐกิจที่สำคัญจากวอชิงตันมาตั้งแต่ปี 2501 แต่สถานการณ์การระบาดโควิด-19 ได้สร้างแรงกดดันกับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนคิวบามากขึ้น
แถลงการณ์ของกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียชี้ว่า “สหรัฐฯยังคงละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงทั้งภายในและภายนอกประเทศอย่างต่อเนื่อง ผ่านมาตรการที่ผิดกฎหมายและกระทำฝ่ายเดียว เช่น การคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ-การเมืองต่อประเทศอื่น “ตัวอย่างที่เลวร้ายที่สุดคือการคว่ำบาตรที่บังคับใช้กับคิวบา ซึ่งยังคงดำเนินต่อไป แม้จะมีมติของสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติคัดค้านหลายครั้งก็ตาม”รายงานกล่าว
