สืบเนื่องจากกรณีที่ศาลฎีกาอ่านคำพิพากษาจำคุก นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) 12 เดือน โดยไม่รอลงอาญา
จากคดีหมิ่นนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และให้นับโทษคดีจำคุกนายจตุพรต่อจากคดีอาญาหมายเลขแดง อ.4907/2555 (หมายเลขดำ อ.1962/2552) กรณีกล่าวหาเป็นฆาตกรมือเปื้อนเลือดฆ่าประชาชนนั้น
ต่อมาทางด้านนายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด นักกิจกรรมทางการเมือง ได้โพสต์เฟซบุ๊กถึงกรณีดังกล่าว โดยระบุข้อความดังนี้ ไม่ว่าคุณจะคิดยังไงกับ จตุพร พรหมพันธุ์ เมื่อสักครู่เมื่อศาลตัดสินจำคุกคดีหมิ่นฯนายอภิสิทธิ์ เขาโทรมาหาผมและพูดว่า “พี่จำเป็นต้องเข้าคุกอีกรอบ ฝากภารกิจ (ไล่ประยุทธ) ให้น้องดำเนินการต่อ ขอให้ประสบความสำเร็จ” ชัดเจนว่าหลังจากนี้ มวลชนของกลุ่มไทยไม่ทน จะมารวมกันกับกลุ่ม car mob และนายสมบัติ จะมานำม็อบแทนนายจตุพร
ล่าสุดทางด้านนายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือบก.ลายจุดโพสต์เฟซบุ๊ก ชี้แจงเส้นทาง Car Mob ในวันเสาร์ที่ 10 ก.ค.นี้ โดยนัดหมาย 13.00 น. นัดเจอกันที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ใช้เส้นทางมุ่งหน้าสะพานพระปิ่นเกล้ากลับรถแยกอรุณอมรินทร์วนกลับมาที่อนุสาวรีย์ฯ ใหม่ ก่อนไปตั้งขบวนที่ป้อมมหากาฬ ผ่านฟ้าลีลาศก่อนเคลื่อนขบวนไปพบพรรคร่วมรัฐบาล
โดยพรรคแรกที่ไปพบคือพรรคประชาธิปัตย์ ใช้เส้นทางถนนหลานหลวง แยกยมราช เลี้ยวซ้ายแยกอุรุพงษ์ เข้าถนนพระราม 6 เมื่อผ่านหน้ารพ.รามาธิบดีให้งดใช้เสียง ไปแยกตึกชัย ผ่านแยกโรงกรองน้ำ เมื่อผ่านรพ.วิชัยยุทธให้งดใช้เสียง มายื่นหนังสือที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ จากนั้นมุ่งหน้าไปพรรคภูมิใจไทยใช้ถนนพระราม 6 ผ่านตลาด อ.ต.ก. เลี้ยวซ้ายเข้าถนนพหลโยธิน ผ่านห้าแยกลาดพร้าว ผ่านแยกเกษตร ถึงพรรคภูมิใจไทย
จุดต่อมาคือพรรคพลังประชารัฐ โดยกลับรถใช้ถนนพหลโยธินขาเข้า-เลี้ยวซ้ายเข้าแยกรัชโยธินมุ่งหน้าถนนรัชดาภิเษกผ่านหน้าพรรคพลังประชารัฐยื่นหนังสือ จากนั้นก็จะเดินทางไปพรรครวมพลังประชาชาติไทยมุ่งหน้าแยกรัชดา-ลาดพร้าว ยื่นหนังสือ เป้าหมายสุดท้ายคือแยกราชประสงค์ใช้ถนนรัชดาภิเษกยาวถึงแยกอโศกมนตรี เลี้ยวขวาเข้าถนนสุขุมวิทจนถึงแยกราชประสงค์ จอดรถหน้าห้างสรรพสินค้า ก่อนกดแตรดัง ๆ ยาว ๆ ส่งท้าย ก่อนแยกย้าย ทั้งนี้บก.ลายจุดได้ขอความร่วมมือตลอดกิจกรรม เว้นระยะห่าง ไม่ลงจากรถหากไม่มีเหตุจำเป็น เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด โควิด-19
อย่างไรก็ตามที่ผ่านมา การจัดม็อบของนายสมบัติ แบบ car mob นั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหาผิดบางส่วนแล้ว ว่าผิดตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน , พ.ร.บ.ควบคุมโรค และการใช้เครื่องเสียง และทางศบค.ได้มีมาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มงวดขึ้น ในช่วงสถานการณ์ที่โควิดติดรุนแรง ยอดติดเชื้อหลักถึงหลักหมื่น ซึ่งก่อนหน้านี้มีข่าวว่าม็อบของนายจตุพร ประกาศยกเลิกไปแล้ว เพราะไม่มีแกนนำ แต่ล่าสุดได้ฝากฝังให้นายสมบัติ หรือบก.ลายจุดออกมาทำภารกิจแทน ทำให้ต้องจับตามองถึงการรับมือของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และการรวมตัวที่อาจจะทำให้เกิดคลัสเตอร์ใหม่ ซ้ำเติมสถานการณ์โควิดด้วย