ทักษิณฉาวโลก! สื่อต่างชาติ แฉ โครงการก่อสร้างบริษัทผิดกม. รุกที่เกาะมอนเตเนโกร?
จากกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ออกมาเคลื่อนไหว ร่วมสนทนา ในรายการ CARE Talk ตอน “มานี่…พี่จะบอก ประยุทธ์ทำแพง ประชาชนจะหมดแรงแล้ว แม๊!!” โดยทางเพจ CARE คิด เคลื่อน ไทย เผยแพร่คำพูดที่ นายทักษิณ ตอนหนึ่งว่า …เป็นนายกรัฐมนตรีแต่ไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่รัฐเขายังทำมาแล้วเลย กลัวอะไรกับเรื่อง 8 ปี… ผมไม่แน่ใจว่าวันที่ 22 นี้ ท่านนายกฯ จะชิงยุบสภาก่อนเพื่อจะลงเลือกตั้งใหม่ก็เป็นวิธีหนึ่งที่นายกฯ คิดไว้ แต่ก็ยังไม่สามารถไปตีความได้ว่านายกฯ จะอยู่เกิน 8 ปีได้หรือป่าว
ซึ่งเอาจริงๆ นายกฯเขาสามารถนะ เป็นนายกรัฐมนตรีแต่ไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่รัฐเขายังทำมาแล้วเลย ผมเลยไม่แน่ใจว่า คราวหน้าเนี่ย พอครบ 8 ปีแล้วเขาอาจจะบอกว่าไอ้ที่ 8 ปีเนี่ย ยังไม่ได้เป็นนายกฯ พึ่งเป็นนายกฯได้ 2 ปีกว่าก็ได้ ก็ไม่รู้เหมือนกัน กลัวอะไรกับเรื่อง 8 ปี เพราะเรื่องกระบวนการยุติธรรมบ้านเราเนี่ย มันแล้วแต่ว่าจะตัดสินให้ใคร มันก็จะลำบากหน่อย
ในขณะที่เมื่อวานนี้ (15 มีนาคม 2565) สำนักข่าวอิสรา ได้เผยแพร่บทความในหัวข้อ เมื่อโครงการก่อสร้าง บ.’ทักษิณ ชินวัตร’ ถูกกล่าวหาทำลายป่า-ชายหาดสวยงาม ‘มอนเตเนโกร’ โดยมีเนื้อหาบางส่วนที่น่าสนใจว่า
สำนักข่าว vijesti ของประเทศมอนเตเนโกรลงวันที่ 28 ก.พ. ในหัวข้อว่าโครงการก่อสร้างของบริษัทของนายทักษิณที่ประเทศมอนเตเนโกรนั้นอาจจะมีส่วนในการรุกที่ ซึ่งผิดกฎหมาย และเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมของเกาะในประเทศมอนเตเนโกร โดยสำนักข่าวอิศราได้นำเอารายงานข่าวมานำเสนอมีรายละเอียดว่า พบข้อมูลว่ามีสิ่งก่อสร้างรกร้างจำนวน 2 หลัง ขนาด 900 ตารางเมตร ถูกตรวจพบในภายหลังว่าที่บางส่วนนั้นอาจจะสร้างขึ้นบนแปลงที่ไม่ใช่ของตัวเอง
โดยสิ่งก่อสร้างรกร้างดังกล่าวนั้นถูกสร้างขึ้นโดยผิดกฎหมาย บนเกาะที่มีชื่อว่าสเวตินิโกลา (เกาะเซนต์นิโคลัส) ซึ่งอยู่ใกล้กับเมืองบุดวา ซึ่งการตรวจสอบข้อเท็จจริงก็พบว่าสิ่งก่อสร้างทั้ง 2 หลังที่มีขนาด 900 ตารางเมตรดังกล่าวนั้นเป็นอาคารที่อยู่บนที่ดินของบริษัทของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีไทย แต่อย่างไรก็ตามพบข้อมูลว่ามีบางส่วนของที่ดินนั้นถูกสร้างอยู่บนที่ผู้อื่นนั้นเป็นเจ้าของ
จากข้อมูลบันทึกของของหน่วยงานด้านการบริหารอสังหาริมทรัพย์ พบว่าที่ดินรกร้างทั้ง2 หลังดังกล่าวนั้นเป็นของบริษัทของนายทักษิณที่ชื่อว่า โกลบอล ทีเอส มอนเตเนโกร
“ข้อมูลบันทึกการดำรงอยู่ของอาคารนั้นพบว่าอาคารหลังหนึ่งกำลังก่อสร้างอยู่ โดยเป็นอาคารชั้นเดียวมีพื้นที่ 762 ตารางเมตร และอาคารหลังที่ 2 พบว่าเป็นอาคาร 2 ชั้นมีพื้นที่ 133 ตารางเมตร ซึ่งอาคารทั้ง 2 หลังนั้นไม่ได้มีใบอนุญาตให้ก่อสร้างรุกล้ำไปในที่ของคนอื่นแต่อย่างใด” สำนักข่าว VIjesti ระบุ
พอถึงช่วงปี 2550 อาคารรกร้างที่ว่านี้ก็ได้ถูกสร้างขึ้น และมีการจ่ายภาษีอสังหาริมทรัพย์สำหรับอาคารเหล่านี้ ซึ่งตามข้อมูลเอกสารพบว่าหลังจากนั้นผู้ที่ยื่นคำขอจะต้องมีการส่งข้อมูลการศึกษาทางธรณีวิทยาที่ผ่านการรับของและเอกสารประกอบตามมาด้วย ทั้งนี้ คำขอการก่อสร้างดังกล่าวนั้นถือว่าเป็นหนึ่งในเกือบห้าพันคำขอสำหรับการทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย ที่ถูกส่งมายังเทศบาลเมืองบุดวาในช่วงเวลาตลอด 3 ปีที่ผ่านมา
รายงานข่าวระบุต่อไปด้วยว่านายทักษิณได้พยายามที่จะหาผู้ที่จะมาซื้อต่อในบางส่วนของเกาะ แต่ก็ไม่มีการยืนยันจากทางการแต่อย่างใด
ซึ่งบริษัทของนายทักษิณ ที่ถือว่าเป็นชาวมอนเตเนโกรที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศ และมีการประเมินทรัพย์สินของเขาโดยนิตยสารฟอร์บสว่ามีมากกว่าพันล้าน (ไม่ได้ระบุหน่วยเงินตราไว้) ในเดือน เม.ย. 2560 พบว่าได้เคยทำสัญญาซื้อขายกับบริษัทอีกแห่งในกรุงพอดกอริก้า ที่มีชื่อว่า ซาน อินเวสเมนท์ (San Investments) ซึ่งบริษัทนี้มีผู้หนุนหลังก็คือนักธุรกิจชาวเซอร์เบียผู้อื้อฉาวชื่อว่านาย สแตนโก ซูโบติก เคน
โดยนักธุรกิจคนนี้นั้นเป็นเจ้าของที่ดินขนาดรวมกว่า 37,000 ตารางเมตร และที่ดินที่อยู่บนเกาะสเวตินิโกลา ซึ่งพบว่ามีการก่อสร้างอาคารบนชั้นหินเป็นจำนวนหลายแห่งนั้น นั้นก็เป็นการก่อสร้างที่ไม่ได้มีใบอนุญาตด้วยเช่นกัน ซึ่งนายทักษิณก็ได้เงินจำนวนกว่า 24 ล้านยูโร (885,133,310 บาท) เพื่อซื้อส่วนหนึ่งของเกาะที่ถือว่าใหญ่ที่สุดในประเทศมอนเตเนโกรแห่งนี้
สำหรับบริษัทของนายทักษิณเองก็ไม่เคยประกาศต่อสาธารณะเกี่ยวกับแผนอย่างใดอย่างหนึ่งสำหรับเกาะนี้ แต่ในช่วง 1 ปีหลังจากที่เขาได้เข้ามาเป็นเจ้าของเกาะ รัฐสภามอนเตเนโกรก็ได้ใช้แผนซึ่งมีวัตถุประสงค์พิเศษในด้านการมุ่งเน้นการพัฒนาความเป็นเมืองให้กับเกาะแห่งนี้ ด้วยการสร้างโรงแรมที่มีจำนวน 500 เตียง และมีท่าเทียบเรืออีกกว่า 50 แห่ง ซึ่งบริษัทที่ดำเนินการก็คือบริษัท โกลบอล ทีเอส มอนเตเนโกร
อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวอิศรารายงานเพิ่มเติมว่า กรณีการทำธุรกิจของนายทักษิณ ในมอนเตเนโกรดังกล่าว ยังไม่เคยมีคำชี้แจงข้อมูลอีกด้านจากฝั่งนายทักษิณหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องแต่อย่างใด