“ทนายนกเขา” เอาจริง ยื่นยุบพปชร.แล้วปม ตั้ง “ธรรมนัส”เป็นเลขาฯ ก่อนบุกปปช.เอาผิดพ่วงประยุทธ์-ประวิตร ไปทำเนียบฯ ยื่นแถลงการณ์ถึงนายกฯ!
จากกรณีที่เมื่อวันเสาร์ที่ 26 มิถุนายน 2564 ทางด้านของกลุ่มประชาชนคนไทย ที่นำโดยนายนิติธร ล้ำเหลือ หรือทนายนกเขา ได้มีการชุมนุมและได้เปิดเผยว่า จะมีการนัดชุมนุมต่อเนื่อง เพราะการชุมนุมของตนไม่ได้ผิดกฎหมาย มีมวลชนประมาณ 30 คน ไม่เกิน 50 คน เพราะไม่ได้จัดตั้งมวลชน และจะใช้วิธีการเสนอแนวคิดเพื่อสื่อสารไปยังรัฐบาลเป็นหลัก อีกทั้งในสัปดาห์หน้าจะยื่นยุบพรรคพลังประชารัฐ และการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาเป็นโมฆะหรือไม่ โดยเฉพาะคะแนนปัดเศษที่มองว่าไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ
ล่าสุดวันนี้ (29 มิถุนายน 2564) ทนายนกเขา ได้เดินทางไปที่ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ เพื่อยื่นยุบพรรคพลังประชารัฐ และได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า วันนี้ทางกลุ่มประชาชนคนไทย เดินทางมายื่นต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งให้พิจารณายุบพรรคพลังประชารัฐ เนื่องจากกระทำการอันขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนต่อบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ ในกรณีของมีมติเลือก ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า เป็นเลขาธิการพรรค ซึ่งถือได้ว่าเป็นบุคคลที่ขาดคุณสมบัติด้านจริยธรรม คุณธรรม ตามที่บัญญัติรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ แล้วก็ยังขาดต่อพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. ข้อบังคับของพรรคทั้งหมด
แล้วก็กำหนดรัฐธรรมนูญข้อกำหนดการรับผิดชอบร่วมกัน อันนี้เป็นเรื่องที่เป็นสาระสำคัญก้าวล่วงไม่ได้ ต้องถึงขั้นตอนตามนี้ เพราะว่าเป็นรัฐธรรมนูญที่ประสงค์จะให้บุคคลที่มีความซื่อสัตย์ มีคุณธรรมจริยธรรม คุณธรรมที่ดี เข้ามาบริหารกิจการบ้านเมือง ซึ่งอันนี้ก็ปรากฏอยู่ในคำปรารภอยู่แล้วว่า ถ้าจะแก้ปัญหาบ้านเมืองในวันนี้ ตามรัฐธรรมนูญ 60 ต้องเร่งปฏิรูปการศึกษา ต้องฟื้นฟูศีลธรรมคุณธรรมจริยธรรม แต่การกระทำดังกล่าวของพรรคพลังประชารัฐ กลับไม่ได้คำนึงถึงในเรื่องนี้ ฉะนั้น ตรงจุดนี้หน้าก็เป็นจุดที่แสดงให้เห็นถึงการไม่เคารพต่อกฎหมาย ไม่นำพาต่อการพัฒนาการด้านศีลธรรม คุณธรรม จริยธรรม
วันนี้เป็นเหตุที่จะมาให้ยื่นยุบพรรคพลังประชารัฐ และจะมีการยื่นต่อป.ป.ช. โดยจะยื่นทั้งหมด 3 ท่าน คือ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะที่แต่งตั้ง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เป็นรัฐมนตรีช่วย พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ก็เป็นเรื่องของการเป็นหัวหน้าพรรค มีส่วนให้ร.อ.ธรรมนัส เป็นเลขาธิการพรรค สำหรับการเคลื่อนไหวของกลุ่มประชาชนคนไทย วันนี้จะไป ป.ป.ช. และก็จะไปที่ทำเนียบรัฐบาล นำแถลงการณ์ยื่นให้กับนายกรัฐมนตรี ในการปรับเปลี่ยนจากในเรื่องของการเสียสละ เราคงไม่เรียกร้องให้เสียสละแล้ว เพราะว่าไม่ได้รับการตอบรับและก็เพิกเฉย ฉะนั้น เราก็จะแสดงความประสงค์ของเราต่อนายกรัฐมนตรี ครม.ชุดนี้ หลังจากนั้นกิจกรรมก็ยังคงเป็นเรื่องของการปราศรัยการขับเคลื่อนให้พี่น้องประชาชนเห็นภาพที่ชัดเจนขึ้น แล้วก็ให้เห็นว่าประชาชน สามารถที่จะพึ่งพากันเอง ดูแลตัวเองและก็รวมกันเป็นพลังที่จะเปลี่ยนแปลงประเทศนี้ โดยก้าวข้ามนักการเมืองทั้งหมดไป ประเทศนี้ก็จะเปลี่ยนแปลงได้ทั้งหมด แล้วก็จะเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง
เมื่อถามว่า กลัวหรือไม่ที่คำร้องในวันนี้จะถูกตีตกไป เพราะก่อนหน้านี้ศาลรัฐธรรมนูญก็ได้วินิจฉัยถึงกรณีคุณษสมบัติของ ร.อ.ธรรมนัสไปแล้ว ทนายนกเขาบอกว่า ต้องแยกกันนะ คราวที่แล้วศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้พูดเรื่องจริยธรรม พูดเรื่องคุณสมบัติ ในคำร้องเนี่ย เน้นไปที่ประเด็นคุณสมบัติ ไม่ใช่เรื่องจริยธรรม คราวนี้มันเป็นเรื่องของจริยธรรม ซึ่งเรื่องจริยธรรม เป็นข้อเท็จจริงที่ไม่ต้องมาพิสูจน์ ในคำพิพากษาก็ปรากฏว่า คำรับสารภาพ แล้วการพูดในสภาของธรรมนัสเองก็ขัดต่อข้อเท็จจริง เพราะในการพิพากษาในระบุว่าเป็นสารเสพติด แต่ร.อ.ธรรมนัส มากล่าวว่าเป็นแป้ง อันนี้มันก็ชัดเจนแล้ว จริงๆของประเทศไทยมาถึงขนาดนี้ ไม่จำเป็นจะต้องให้ประชาชนมาตรวจสอบ มาเรียกร้องอะไร ถ้าระดับนำ ระดับบริหารของประเทศ มีจิตสำนึกหน่อย มีคุณธรรมหน่อย เรื่องแบบนี้ก็ไม่เกิด ก็เหมือนกับที่นายกฯว่าประเทศมาถึงจุดนี้ได้ไง แล้วนายกทำกับประเทศอย่างนี้ได้ยังไง เรื่องแบบนี้มันไม่ควรเกิดขึ้นแล้ว ประเทศมันคงจะเดินหน้าพัฒนาดีกว่านี้ ก็เป็นประเด็นสำคัญ เพระาฉะนั้น จะเป็นคนละประเด็นกันที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย
สำหรับรายละเอียดคำร้องที่มายื่นต่อ กกต.ที่ผิดข้อบังคับแล้วนำมาสู่การยุบพรรคพลังประชารัฐอย่างไรบ้าง ทนายนกเขากล่าวว่า มันขัดรัฐธรรมนูญ มันเป็นข้อกฎหมายทั้งนั้น คือขัดรัฐธรรมนูญ และตามข้อบังคับของพรรคก็ผิด ตามพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญก็ผิด มันเขียนชัดเจนว่า จะต้องไม่เอาบุคคลเหล่านี้เข้ามา มันก็ชัดเจนในตัวอยู่แล้ว
