หลังจากที่ได้มีการเผยแพร่แชทในกลุ่มของม็อบ 3 นิ้ว ว่าอยากฉีดวัคซีนซิโนฟาร์ม ตัวที่ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์เจรจานำเข้ามาให้คนไทย โดยมีต้นแบบเป็นยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ฉีดวัคซีนตัวนี้
แต่ที่ผ่านมากลุ่มดังกล่าวได้โจมตีวัคซีนซิโนแวค และเรียกร้องว่าอยากจะฉีดวัคซีนของไฟเซอร์แบบอเมริกา แม้จะมีรายงานจากนักวิชาการ แพทย์และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ว่าวัคซีนทุกตัวแท้จริงล้วนมีความเสี่ยงที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งต้องทำการเก็บข้อมูลและนำไปศึกษาต่อ
ต่อมาได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์เชิงตั้งคำถามหลังมีรายงานข่าวใหญ่ว่า ญี่ปุ่นได้ฉีดวัคซีนของไฟเซอร์ให้ประชากร และพบว่ามี 85 รายที่เสียชีวิต ซึ่งจะขยายผลต่อไปถึงสาเหตุและปัจจัยที่ทำให้เกิดการเสียชีวิต โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กรายนี้ โพสต์ข้อความว่า “ทุกยี่ห้อวัคซีนมีความเสี่ยงทั้งนั้น!!! ไม่มีตัวไหนดีเลิศ เพราะเป็นแค่วัคซีน
ที่ใช้ในภาวะฉุกเฉินทุกตัว
อย่า “มโน”
ทำไมข่าวของ ไฟเซอร์ ( Pfizer ) ไม่เห็นฝ่ายค้าน
หรือว่า สามกีบ เอามาเผยแพร่บ้างล่ะ
หรือหลับหูหลับตา เชียร์ตามนายใหญ่
โดยไม่สนใจความจริง ”
และในทวิตเตอร์ ก็มีโพสต์ของก๊วน 3 กีบ โจมตีคนเห็นต่าง ระบุว่า “วัคซีนในโลกสลิ่ม
-ประสิทธิภาพวัคซีนคือเรื่องไร้สาระ
-ข่าวที่บอก pfizer ดีคือข่าวปลอม
-เชื้อตายปลอดภัยสุดจึงดีสุด
-pfizer ฉีดแล้วหน้าเบี้ยวถือว่าแย่
– Snv ถ้าหน้าเบี้ยวแต่แปปเดียวจะหาย
-มีคนตายจาก pfizer เยอะ แต่ปิดข่าว
-Snv ไม่มีคนตายดูได้จากที่ไทยประกาศ — อ่านแล้วอยากร้องไห้”
อีกทั้งยังมีการโจมตีวัคซีนซิโนแวคกับซิโนฟาร์มว่าละลายน้ำกิน พวกนี้ก็เอา เพราะเชื่อมั่น รวมไปถึงยังมีบางคนไม่เชื่อว่าไฟเซอร์จะทำให้คนตายหลังฉีดได้ พร้อมท้าขอหลักฐาน ถ้าหาไม่เจอก็ไปหามา และบูลลี่ว่า ไม่มีเน็ตหรอ
อย่างไรก็ตาม เกี่ยวกับเรื่องนี้ ทางการญี่ปุ่นได้แถลงระบุการเสียชีวิตจำนวน 85 ราย หลังจากที่ได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 โดยผู้เสียชีวิตทั้ง 85 ราย จากจำนวนผู้ได้รับวัคซีนของ Pfizer จำนวน 6,016,200 ราย พบว่า 78% เป็นผู้ที่มีอายุเกินกว่า 65 ปี ขึ้นไป โดยแบ่งเป็น ในช่วง 17 ก.พ. -16 พ.ค. 64 จำนวน 55 ราย และในช่วง 17พ.ค. – 21 พ.ค. จำนวน 30 ราย
ส่วนสาเหตุของการเสียชีวิต ที่พบส่วนใหญ่ คือ
– เกิดภาวะหลอดเลือดสมองแตก หรือภาวะเลือดออกในสมอง
– ภาวะหัวใจล้มเหลว
ซึ่งจากผู้เสียชีวิตทั้ง 85 รายมีจำนวน 20 รายที่ระบุว่า ไม่มีโรคประจำตัวใด ๆ อยู่ในช่วงอายุตั้งแต่ 25 – 102 ปี เพศชายจำนวน 37 ราย เพศหญิง 48 ราย ซึ่งในขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างการรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อสรุปหาสาเหตุของการที่เสียชีวิตที่ชัดเจนอีกครั้งว่า เกี่ยวข้องกับการได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 หรือไม่