เอาจริง! สนธิญา ร้องกองปราบแล้ว สอบ”พิมรี่พาย” นำเงินผิดกม.ไปบริจาคหรือไม่?! ขายของเสียภาษีไหม-โดนขู่จริงหรือ?
จากกรณีของนางสาวพิมรดาภรณ์ เบญจวัฒนะพัชร์ หรือพิมรี่พาย แม่ค้าออนไลน์ชื่อดัง ที่ได้ออกมาโต้กลับ นายทักษิณ ชินวัตร อย่างเดือดว่า อย่าเอาตนไปเป็นเครื่องมือเหน็บแนมใคร อยากอยู่ในประเทศ ไม่อยากจะไปตายที่ต่างประเทศ จนทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เป็นจำนวนมาก ซึ่งทางนพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี ก็ได้ออกมาบอกว่า พิมรี่พายมีความกล้าหาญ จากนั้น พิมรี่พายก็ได้ออกมาโต้ หมอวรงค์ จนทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์จำนวนมาก
ซึ่งก่อนหน้านี้ พิมรี่พาย ได้เป็นกระแสและถูกนำมาโยงกับการเมือง โดยแนวร่วมสามกีบได้โหนกิจกรรมที่พิมรี่พายไปขึ้นดอยแม่เกิบและได้ติดโซล่าร์เซลล์ให้เด็ก จนต่อมาแนวร่วมสามกีบได้โยงไปโจมตีสถาบัน หลังจากนั้น ก็ได้ออกมาทำกิจกรรมมาเรื่อยๆ จนกระทั่งได้ตั้งโรงพยาบาลสนามที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี จนทำให้เกิดเป็นประเด็นดังกล่าว
ล่าสุดทางด้าน นายสนธิญา สวัสดี อดีตสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เข้าร้องทุกข์กับตำรวจกองบังคับการปราบปราม เพื่อให้ตรวจสอบ พิมรี่พาย โดยนายสนธิญา เห็นว่า เรื่องดังกล่าวมีประเด็นที่พิมรี่พาย ต้องตอบคำถามประชาชนให้ได้ 4 ประเด็นคือ กรณีการนำของไปบริจาคมูลค่า 2 แสนกว่าบาทกับหน่วยงานหน่วยงานหนึ่ง แต่หน่วยงานแห่งนั้นไม่ยอมรับบริจาค ตนเองอยากทราบว่าหน่วยงานนั้นคือหน่วยงานอะไร เพื่อจะได้ทราบว่า เหตุใดหน่วยงานดังกล่าวไม่ยอมรับเงินบริจาคและสิ่งของของพิมรี่พาย
รวมถึงประเด็นเรื่องที่พิมรี่พายกล่าวว่า ถูกข่มขู่โดยบุคคลบางกลุ่ม จึงอยากทราบว่ากลุ่มบุคคลเหล่านั้นคือใคร เกี่ยวข้องกับเรื่องอะไร เพื่อจะได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมายกับกลุ่มบุคคลดังกล่าว ซึ่งประเด็นนี้นายสนธิญา มองว่า หากเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง ก็ควรต้องดำเนินการตามขั้นตอนให้ถูกต้อง หรือเป็นเพียงการพูดสนุกปาก สร้างกระแส และ เรื่องธุรกิจของพิมรี่พายในการ ไลฟ์สดเฟซบุ๊คแต่ละครั้ง ซึ่งตนเองพบว่ามียอดผู้ชมเข้ามาดูและสั่งซื้อสินค้าจำนวนมากกว่า 1 หมื่นคน จึงตั้งข้อสังเกตว่า เจ้าตัวมีการจ่ายภาษีถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ เพราะปัจจุบันนี้กฎหมายเกี่ยวกับภาษีธุรกิจออนไลน์ถูกบังคับใช้แล้ว และหากพิมรี่พายมีรายได้จากการทำธุรกิจจำนวนมาก ก็ควรเสียภาษีให้ถูกต้อง
และสุดท้ายคือ กรณีของตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภคหรือ บก.ปคบ.ได้เข้าตรวจค้นโรงงานผลิตเครื่องสำอางของพิมรี่พาย หลังได้รับข้อมูลว่าเครื่องสำอางของพิมรี่พายไม่ได้มาตรฐาน เมื่อเดือนสิงหาคมปี 2562 โดยในภายหลังเจ้าตัวก็รับว่า เครื่องสำอางที่จำหน่ายไม่ได้มาตรฐาน และจากนั้นพิมรี่พายได้นำเงินไปบริจาคให้กับกศน.ในอ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ ซึ่งนายสนธิญา มองว่า อาจเป็นกระบวนการนำเงินที่ไม่ถูกกฎหมายไปบริจาคหรือเข้ากระบวนการบางอย่าง จึงอยากทราบว่าเงินที่ใช้ในการบริจาคเป็นเงินที่มาจากที่ใด
ทั้งนี้ ยืนยัน ว่าประเด็นที่เข้าร้องเรียนให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าวไม่ได้ต้องการกลั่นแกล้ง หลังจากที่พิมรี่พายกล่าวขอโทษอดีตนายกรัฐมนตรี หรือกรณีที่พิมพิพายมักจะกล่าวโจมตีการทำงานของรัฐบาลบ่อยครั้ง แต่มองว่าหากพิมรี่พายทำธุรกิจต่างๆงถูกต้อง และมีความบริสุทธิ์ใจ ก็ควรชี้แจงเรื่องดังกล่าวได้ทั้งหมด และหากเจ้าตัวสามารถชี้แจงทุกประเด็นได้ ก็พร้อมเดินทางมาถอนคำร้องทุกข์ดังกล่าวทั้งหมด
ทั้งนี้หากตำรวจกองบังคับการปราบปรามสามารถตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่า มีความผิดเข้าข่ายในเรื่องพรบคอมพิวเตอร์และความผิดในกฎหมายอาญา ก็พร้อมจะเดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีในประเด็นต่างๆทันที