หลังจากที่นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน ได้โพสต์ข้อความอัพเดท ว่าตนเองหายป่วยโควิด และได้กลับบ้านแล้ว ต่อมาพบว่าทั้งในทวิตเตอร์ และเฟซบุ๊กของเพนกวิน ได้โพสต์ข้อความที่ไม่เหมาะสม และเข้าข่ายผิดเงื่อนไขที่รับปากกับศาล ก่อนจะได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำ
โดยมีข้อความในเฟซบุ๊กก ระบุว่า ผมได้ทราบว่าเมื่อเร็ว ๆ นี้ที่จังหวัดเพชรบูรณ์ มีกลุ่มที่อ้างตัวว่าเป็นกลุ่มปกป้องสถาบันชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ไปคุกคามน้องเยาวชนที่ใช้เสรีภาพวิพากษ์วิจารณ์สถาบันกษัตริย์ถึงบ้าน และบังคับให้ “ขออภัยโทษ” ต่อรูปของในหลวง (แต่เพนกวิน ใช้ถ้อยคำที่เรียกชื่อไม่เหมาะสม)
พร้อมเขียนพาดพิงสถาบันกษัตริย์ ว่าปัจจุบันไม่ได้อยู่ได้ด้วยความรักและให้สถาบันต้องพิจารณาตัวเอง และจะสนับสนุนให้น้องคนที่โดนกระทำดำเนินคดีทางกฎหมาย ยินดีจะช่วยเหลือเต็มที่
นอกจากนี้ในทวิตเตอร์ เพนกวินยังโพสต์อีกด้วยว่า ความตกต่ำของสถาบัน ฯ ในยุคนี้ชี้วัดได้จากการต้องใช้ความป่าเถื่อนไปบังคับให้เขาพูดว่ารัก
ทั้งนี้เมื่อย้อนไปวันที่ 11 พ.ค. 64 ที่เพนกวิน ได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำ เจ้าตัวขอยอมรับเงื่อนไขศาล 4 ข้อ เหมือนกับ “ไผ่ -สมยศ” และยืนยันว่าที่ผ่านมาไม่เคยสร้างความเสื่อมเสียต่อสถาบันด้วย ส่วนเงื่อนไขศาลที่กำหนดนั้น คือห้ามร่วมกิจกรรมที่ทำให้เสื่อมเสียถึงสถาบัน ห้ามเดินทางออกนอกประเทศ ห้ามก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง และต้องรายงานตัวต่อศาลตามนัดนั้น แต่เพนกวิน รับปากว่าจะไม่แตะสถาบัน รวมทั้งบิดาและมารดาของเพนกวิน ก็รับปากกับศาลว่าจะควบคุมดูแลพฤติกรรมของลูกได้
แม้ว่าตอนนี้เพนกวินจะยังไม่ร่วมกิจกรรมทางการเมือง หรือเข้าร่วมม็อบอีก แต่การโพสต์ข้อความผ่านโซเชียลตั้งแต่ออกจากเรือนจำ มีหลายข้อความที่เข้าข่ายพาดพิงสถาบัน และผิดคำพูดที่เจ้าตัวรับปากกับศาล ถึงแม้ว่าเพนกวินจะอ้างแย้งต่อศาลว่า ตนไม่เคยใช้สื่อออนไลน์สร้างความเสื่อมเสียต่อสถาบันกษัตริย์ แต่เมื่อตรวจสอบในเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ กลับมาการเคลื่อนไหวดังข้าม
อย่างไรก็ตามน่าจับตามองว่า หลังจากนี้จะมีใครเข้าแจ้งความกับเพนกวิน หรือรวบรวมหลักฐานที่เข้าข่ายผิดเงื่อนไขศาลหรือไม่ และอาจจะเป็นไปได้ว่า เพนกวินจะได้กลับเข้าเรือนจำอีกครั้ง เพราะทำผิดเงื่อนไขของศาล
