แม้จะผ่านพ้นทราบผลถึงการเลือกผอ.ไทยพีบีเอสคนใหม่ มาแล้ว แต่ก็เกิดขึ้นท่ามกลางคำถามถึงความโปร่งใส และยังตั้งข้อสงสัยไปถึงขนาดว่า มีผลประโยชน์ใดทับซ้อนหรือไม่???
นั่นยังมิพักกล่าวถึง ตัวบุคคลแม้ผอ.ไทยพีบีเอส จะมีประสบการณ์มาแล้วจากการทำหน้าที่สมัยแรก กระนั้นก็ยังมีความน่าสนใจกับผู้สมัครที่ร่วมเข้าชิงชัย อันมากประสบการณ์งานสื่อบางคนที่ถูกมองข้าม!?!
ยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที คือคนสื่อมากประสบการณ์ที่กล่าวถึงข้างต้น และนี่คือ หนี่งในผู้สมัครเข้ารับการสรรหาผู้อำนวยการไทยพีบีเอส ถามว่าทำไมถึงไม่ได้รับคัดเลือก เรื่องนี้คงต้องให้คณะกรรมการนโยบายไทยพีบีเอส เป็นผู้ตอบจึงจะชัดแจ้งที่สุด และนี่เองที่มีเสียงจาก ยุทธิยง ผ่านวิสัยทัศน์ ที่ได้นำเสนอไว้อย่างน่าสนใจ ใคร่ครวญ แต่น่าเสียดายเป็นอย่างยิ่ง สิ่งนี้กลับไปไม่ถึง
13 พฤษภาคม นายยุทธิยง ได้นำเสนอวิสัยทัศน์ไว้ในเฟซบุ๊ก Mee Nabon มีเนื้อความที่ประชาชนควรอย่างยิ่งจะได้รับทราบทั้งหมดดังนี้
“วิสัยทัศน์นายยุทธิยง ไปไม่ถึงกรรมการนโยบายไทยพีบีเอส.. ผมสัญญาไว้กับสื่อว่าขออนุญาตที่จะไม่ให้สัมภาษณ์ในเรื่องนี้ อยากให้เอาเนื้อหาและความคิดถ้อยคำ ที่ออกจากใจและปัญญาเล็กน้อยและความปรารถนาดีของผมที่พึงมี เผยแพร่จะเป็นประโยชน์แก่วงการสื่อมวลชนและปัญญาของสังคม น่าจะเป็นเรื่องที่ดีกว่าการจะให้สัมภาษณ์ ผมเรียกความมุ่งหวังนี้ว่า “ยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนองค์กรTPBSด้วยธงห้าผืน เพื่อยกระดับความรู้สติปัญญาสาธารณะให้ก่อเกิดปัญญาสาธารณะอย่างมีพลัง
#ธงผืนแรก คือการทำให้ทีวีสาธารณะเป็นทีวีสาธารณะที่กว้างแก่คนทุกกลุ่มในสังคม เป็นทีวีของNGO เป็นทีวีของนักวิชาการ เป็นทีวีของนักธุรกิจ กรรมกร ข้าราชการ ธนาคาร อุตสาหกรรม ชุมชน ชาวบ้านและสถาบันฯ เพื่อให้การรับรู้ข่าวสารเรื่องราวครอบคลุมก่อให้เกิดพลังเพื่อหล่อเลี้ยงอาหารสมองปัญญาสร้างสรรค์อยู่เสมอแก่คนในบ้านเมือง
#ธงผืนที่สอง กำหนดประเด็นสาธารณะให้มีพลังสู่พลังสาธารณะเช่นความยากจน ความยุติธรรมต้นทุนแพง อาหารไร้คุณภาพ เพื่อหล่อหลอมทุกกองบรรณาธิการทุกโต๊ะข่าวให้ร่วมกันคิดประเด็นเหล่านี้สร้างContent เผยแพร่เพื่อยกระดับให้ระดับนโยบายของชาติไปแก้ไขต่อไป
#ธงผืนที่สาม ที่ไหนมีข่าวที่นั่นมีเรา ทุกเหตุการณ์เราจะฝึกคนน้องๆในกองบรรณาธิการให้มีทักษะการรายงานข่าวอย่างมีดุลยภาพทางปัญญาที่รัดกุม สิ่งไหนหมิ่นเหม่ต่อหลักกฏหมายก็ต้องบอกแก่สาธารณชนว่าเหตุการณ์สิ่งนี้ให้รัดกุมหมิ่นเหม่ก่อกุศลหรืออกุศล ดำรงตนเป็นที่เชื่อถือ สง่างามในดุลยภาพแห่งชีวิตสื่อมวลชน ที่สามารถเข้าไปทำงานได้ทุกกลุ่มคนทุกสี ทุกฝ่ายทุกกลุ่มคนในสังคม
#ธงผืนที่สี่ ปรับองค์กรให้มีวัฒนธรรมAgile Organization คล่องตัวยืดหยุ่นว่องไวสร้างบรรยากาศการสื่อสารที่ใกล้ชิดหลอมทุกกองบรรณาธิการให้มีจิตใจเป็นหนึ่งเดียว ข้ามเส้นแบ่งแบบระบบวัฒนธรรมราชการไปบ้างด้วยใจอันสุจริตมุ่งมั่น ด้วยใจที่ทำงานให้สาธารณชน
#ธงผืนที่ห้า สร้างสรรค์ออกแบบย่อยเนื้อหาContent ซึ่งเป็นทุนที่มีอยู่แล้วในสถานีโทรทัศน์ ปรับตกแต่งย่อยเนื้อหาให้กระชับใส่เผยแพร่เข้าสู่ สังคม Digital ย่อยเนื้อหายกระดับให้เป็นสำนักข่าวชาติ เหมือนกับสำนักข่าวไทยเพื่อสถาปนาข้อมูลข่าวสารให้เป็นฐานข้อมูลที่ถูกต้องแก่คนในสังคมไทย
วิสัยทัศน์เหล่านี้ของผู้สมัครต้องผ่าน”กรรมการสรรหาก่อนไปสู่กรรมการนโยบาย” คำถามมีมาโดยตลอดจากนักกฏหมายมาหลายปีว่า “อำนาจอันจำกัดที่มีตัวแทนสื่อคนหนึ่งนั่งเป็นประธาน เมื่อมีการท้วงติงจากนักปราชญ์นักกฏหมายผู้ปรารถนาดีมาเป็นเวลานาน ประจวบกับสื่อมวลชนมีข่าวหลายปีถึงกรรมการผู้ทำหน้าที่จะต้องงดงามไร้มลทินแห่งความมัวหมอง สิ่งเหล่านี้ถึงเกิดซ้ำจนนำไปสู่การขุดคุ้ย ด้วยมีความปรารถนาดีต่อการยกระดับความภาคภูมิใจในวิชาชีพที่ต้องที”สำนึกที่เคร่งครัด” ผมเองถือเป็นบุคลากรทำงานสื่อพอจะมีสติปัญญาไม่มากนัก ก็จึงนำธงห้าผืนนี้เผยแพร่แก่สาธารณชน
หากมีประโยชน์ก็ไม่หวงแหนทางลิขสิทธิ์ใดๆ และภูมิใจที่การทำงานอันหนักแม้ไม่ถึงกรรมการนโยบาย ได้เผยแพร่เป็นปัญญาความรู้ มุ่งถึงการก่อเกิดกุศลในสังคมไม่มากก็น้อย *ขอบคุณอีกครั้งกับผู้ปรารถนาดีต่อแผ่นดินและสังคมเพื่อกระยกระดับ คุณภาพการทำงานด้านสื่อและปัญญาให้สังคมไทย* *หมายเหตุ ภาพกราฟฟิกบางภาพที่เผยแพร่บางภาพมิได้วาดขึ้นเองเอามาจากโลกโซเชียล มุ่งหวังนำมาใส่เนื้อหาเพื่อให้ได้เข้าใจง่ายต่อการสื่อสาร*”
นั่นคือสื่อที่คนสื่ออย่างยุทธิยง สื่อออกมาเรียกว่า วิสัยทัศน์ อันมีเนื้อความที่น่าพิจารณา และแน่นอนว่าวิสัยทัศน์ ย่อมมาจากความรู้ นั่นคือ ประสบการณ์งานสื่อสารมวลชน
สามสิบปีของการทำงานสื่อ ยุทธิยงทำงานหนัก สิบปีหลังมานี้ไม่มีใครรู้ว่า ยุทธิยงทำงานสองจ๊อป กลางวันทำสื่อค่ายพระอาทิตย์ หลังเที่ยงคืนทุกคืน นครนิวยอร์คเป็นเวลาทำงาน สำนักที่บ้านไฟจะสว่างถึงตีสามเพื่อประสานด้านธุรกิจส่งสินค้า อาหารไปให้กลุ่มอุตสาหกรรมอาหารเครือสไปรท์กรุ๊ป (นิวยอร์ก) ปีหนึ่งเฉพาะส่งกะทิไปนิวยอร์ก30ตู้คอนเทนต์เนอร์ เส้นผัดไทยเครื่องเทศ supply เครื่องปรุงอาหารให้กับธุรกิจครอบครัว
ยุทธิยง จบมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปี31เป็นผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ เกียรติประวัติ ร่วมเป็นสักขีพยานร่วมยุติการต่อสู้ด้วยอาวุธของกองทัพบกกับพรรคคอมมิวนิสต์ภาคใต้ อยู่สหรัฐอเมริกาเป็นผู้สื่อข่าวต่างประเทศให้เครือผู้จัดการประจำกรุงนิวยอร์ก
หลังกลับมาเมืองไทยเป็นผู้ดำเนินรายการสภาชาวบ้านสภากาแฟให้กับช่อง 3 อยู่สามสี่ปี เป็นรานการแรกของสื่อโทรทัศน์ที่เคลื่อนตัวไปให้ชาวบ้านทั่วประเทศได้ใช้พื้นที่สื่อสารปัญหาการทำกินและปัญหาต่างๆ เมื่อออกจากช่อง3 ค่ายพระอาทิตย์ ชวนมาให้บุกเบิกสถานีเอเอสทีวีปัจจุบันคือนิวส์วัน โดยเริ่มสร้างบุกเบิกสถานีจากตึกร้างว่างเปล่า 18 ปี ก็ทำหน้าที่สื่อ เคยทำรายการสภากาแฟยามเข้าตรู่ที่ช่อง9 เคยเป็นเจ้าของรายการทุนของแผ่นดิน คำตอบอยู่ที่หมู่บ้าน ออกอากาศช่อง11 ปัจจุบันก็ยังทำงานสื่อ ผู้ดำเนินรายการสภากาแฟ และคอลัมนิสต์ “จากนาบอนถึงริมฝั่งเจ้าพระยา”
โดยงานเขียนคอลัมนิสต์ ไม่ต่ำกว่า 50บทความเพื่อสะท้อนสิทธิการทำกินของชาวบ้าน เหนืออื่นใด บทความเพื่อบรรยายหลักเศรษฐศาสตร์พอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9 ซึ่งเขียนด้วยลีลาภาษาการสื่อสารที่ช่วยให้ประชาชนเข้าใจง่ายๆแต่ทว่าลึกซึ้ง