อย่าเอาไม้ซีกไปงัดไม้ซุง! “ดร.ไตรรงค์” ดึงสติ “คนรุ่นใหม่” คิดพลิกฟ้าพลิกดิน อย่าหลงเชื่อคนกลุ่มเดียว ควรประเมินปชช.อีก 60ล้านคนที่ไม่เอาด้วย!

4947

อย่าเอาไม้ซีกไปงัดไม้ซุง! “ดร.ไตรรงค์” ดึงสติ คนรุ่นใหม่ คิดพลิกฟ้าพลิกดิน อย่าหลงเชื่อคนกลุ่มเดียว ควรประเมินปชช.อีก 60ล้านคนที่ไม่เอาด้วย!

จากกรณีที่มีการชุมนุมของกลุ่ม REDEM ที่ได้จัดคาราวานเคลื่อนขบวนจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิไปยังศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เพื่อเรียกร้องให้ปล่อยตัวแกนนำกลุ่มราษฎรและแนวร่วมที่ถูกคุมขังที่เรือนจำ ก่อนเริ่มเดินขบวนผู้ชุมนุมได้มารวมกันบริเวณเกาะพญาไท ซึ่งเป้าหมายที่แท้จริงของการชุมนุมในทุกครั้งมี่ผ่านมา ตั้งใจที่จะล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยอ้างว่า จะปฏิรูปสถาบันฯ

ล่าสุดทางด้าน ดร. ไตรรงค์ สุวรรณคีรี อดีตรองนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์บทความเรื่อง จักรบหรือฮู้ว่าสิ่งใดนั้นจา โดยยกประวัติศาสตร์มาพูดถึง เพื่อเตือนคนรุ่นใหม่ที่กำลังชุมนุมอยู่ในขณะนี้ โดยระบุข้อเนื้อหาบางส่วนที่น่าสนใจว่า

เมื่อพระเจ้าฟ้างุ้มมหาราช แห่งอาณาจักรศรีสัตนาคณหุต (ครองราชย์ระหว่าง พ.ศ. 1859 – 1936) ได้ยกทัพขยายอาณาจักรของพระองค์ออกไปทั้ง 4 ทิศ เป็นอาณาจักรล้านช้างที่ใหญ่โตที่สุดในประวัติศาสตร์ของลาว (เพราะยึดได้ทั้งรัฐสิบสองปันนาและสิบสองจุไทด้วย) ได้ยกทัพมายึดแผ่นดินต่าง ๆ  ในภาคอีสานของไทยแล้วมาตั้งทัพ (ด้วยกองทัพเป็นแสน)ที่จังหวัดร้อยเอ็ดในปัจจุบัน ได้ทรงให้คนถือสาส์นไปหาพระเจ้าอู่ทอง (พระรามาธิบดีที่ 1) แห่งอยุธยาในสาส์นได้เขียนเป็นภาษาของพ่อขุนรามคำแหงฯ มีความว่า “พระองค์ต้องการที่ดินที่ยึดไว้ทั้งหมด จึงอยากทราบความเห็นของพระเจ้าอู่ทองโดยเขียนว่า #จักรบหรือฮู้ว่าสิ่งใดนั้นจา…” พระเจ้าอู่ทองมีกำลังน้อยกว่ามากไม่สามารถ #เอาไม้ซีกไปงัดไม้ซุง ได้ จึงได้มีราชสาส์นตอบไปเป็นภาษาของพ่อขุนรามคำแหงฯเช่นกันความว่า

“เฮาหากเป็นพี่ (น้อง) กันมาแต่ขุนบรมบุราณปางก่อนพุ้นมาดาย เจ้าอยากได้บ้านได้เมือง ให้เอาเขตต์แดนแต่ดงสามเส้า… อนึ่งลูกข้อยจักส่งอ้อยน้ำตาลสู่ปี… อนึ่งลูกหญิงข้านางแก้วลอดฟ้าใหญ่มาแล้วจักส่งให้เมือปัดเสื่อปูหมอนแก่เจ้าฟ้าแล” (จาก WIKIPEDIA เรื่องพระเจ้าฟ้างุ้ม) #สงครามก็ไม่เกิด

สรุป

1) มีตั้งหลายอย่างที่คนรุ่นใหม่ควรต่อสู้ผลักดันให้เกิดการแก้ไขปฏิรูป เช่น การปฎิรูปการศึกษาทุกระดับ การปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม (โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับอัยการและตำรวจ) การป้องกันการปล่อยข่าวเท็จใน Social media การป้องกันและควบคุมคนไม่ดีในวงการเมืองและราชการ การต่อสู้กับการฉ้อราษฎร์บังหลวงทั้งในระดับชาติและระดับส่วนท้องถิ่น ซึ่งถือเป็นตัวถ่วงความเจริญของชาติอย่างแท้จริง   ทำไมคนรุ่นใหม่บางกลุ่มจึงมาปักใจแต่เรื่องจะควบคุมและล้มสถาบันพระมหากษัตริย์  น่าประนามไปถึงครูบาอาจารย์และนักการเมืองที่คอยสนับสนุนส่งเสริมอยู่ข้างหลังโดยเห็นแต่ประโยชน์ของพวกตนมากกว่าผลประโยชน์และความสงบสุขของชาติเป็นส่วนรวม

2) จากราชสาส์นที่ตอบโต้กันระหว่างพระเจ้าฟ้างุ้มมหาราชกับพระเจ้าอู่ทองนั้นน่าจะนำมาเป็นบทเรียนให้พวกคนกลุ่มที่คิดจะเปลี่ยนสถาบันพระมหากษัตริย์ให้เป็นระบอบประธานาธิบดีควรจะฉุกคิดเสียหน่อยว่า :

“การคิดจะกระทำอะไรแบบพลิกฟ้าพลิกดินนั้น ควรจะประเมินกำลังทั้งของฝ่ายตนและของฝ่ายที่เขาไม่เห็นด้วย #ไม่ใช่หลงเชื่อหลงเชียร์อยู่เฉพาะแต่ในกลุ่มของพวกตนที่ มีจำนวนไม่กี่หมื่นไม่กี่แสน แต่ไม่เคยสนใจความรู้สึกของประชาชนที่อาจจะมากกว่า 60 ล้านที่ไม่เห็นด้วย ผลที่ฝ่ายแรกจะได้รับจากการต่อสู้ก็คือ #ไม่ติดคุกก็ต้องหนีลี้ภัยไปตายต่างประเทศ หรือ #ไม่ก็ต้องตายภายในประเทศด้วยติดโรคโควิด19ถ้ายังไม่เลิกชุมนุม การจะเอาไม้ซีกไปงัดไม้ซุงนั้นต้องคิดทบทวนให้ลึกและให้กว้าง แล้วลองนั่งสงบ ๆ  ถามตัวเองว่า #จักรบหรือฮู้ว่าสิ่งใดนั้นจา

ผมขอเรียนว่าบทความที่ลงในเฟซบุ๊ก เป็น #ความเห็นส่วนตัวไม่เกี่ยวกับพรรคปชปแต่อย่างใด