หลังจากที่ “ค่อม ชวนชื่น” หรือน้าค่อม ที่คนไทยเรียกกันติดปาก ตลกชื่อดัง ได้จากไปอย่างไม่มีวันกลับ หลังเสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 โดยลูกสาวของน้าค่อม ได้แจ้งว่า คุณพ่อหลับสบายแล้วนะคะ
จากไปอย่างสงบ เมื่อเวลา 07.30 น. ของเช้าวันที่ 30 เม.ย. 2564 เนื่องจากมีภาวะโคม่า อวัยวะหลายอย่างล้มเหลว รวมถึงการทำงานของร่างกาย โดยเฉพาะชีพจรกับความดัน ร่างกายไม่ตอบสนองต่อยาที่ให้
จนต่อมาในทวิตเตอร์ ได้ติดแฮชแท็ก #น้าค่อม เพื่อร่วมแสดงความอาลัย ของการจากไปของตลกชื่อดัง แต่ก็ไม่วายมีคอมเม้นต์จากกลุ่มเรียกร้องประชาธิปไตย ที่เข้ามาโจมตีรัฐบาลว่า ทำให้น้าค่อมต้องเสียชีวิต เพราะการบริหารที่ล้มเหลว เช่น ดาราตื่นกันได้ยัง ว่าเราควรพูดถึงการทำงานของรัฐที่มันล้มเหลวได้แล้ว ไม่ใช่เเค่น้าค่อมแต่ไม่ควรมีใครเสียชีวิตจากการทำงานล้มเหลวของรัฐอีกแล้ว , ถ้าการเมืองดี คนดี ๆ คงไม่ต้องตาย ทำให้มีคอมเมนต์ตอกกลับว่า โยงเก่ง
นอกจากนี้พบว่ากลุ่มที่คอมเมนต์ โหนการเสียชีวิตของน้าค่อม เพื่อโจมตีรัฐบาลนั้น ก็เคยคอมเมนต์ต่อว่า ในวันที่น้าค่อมได้เปลี่ยนรพ. พร้อมทั้งวิจารณ์ว่าใช้เส้นสายต่าง ๆ นอกจากนี้การเสียชีวิของน้าค่อม ถือว่าค่อนข้างรุนแรง รวดเร็ว เพราะเข้ารักษาตัวได้เพียง 18 วัน จากตอนแรกที่ไม่แสดงอาการใด ๆ ต่อมาอาการทรุดลงต่อเนื่อง ทั้งนี้ลูกสาวของน้าค่อมได้เปิดใจตั้งแต่ช่วงแรกที่พ่อเข้ารับการรักษา ว่าห่วงมาก ๆ เนื่องจากพ่อมีโรคประจำตัวหลายอย่าง
และเมื่อเวลา 15.00 น. ได้มีขบวนรถอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง รับร่าง น้าค่อม จากโรงพยาบาลรามานฤบดินทร์ มาบำเพ็ญกุศลที่วัดพระศรีมหาธาตุบางเขน ตามความประสงค์ของญาติ โดยมีพิธีสวดอภิธรรมศพ และจะทำการฌาปนกิจทันที ซึ่งมีครอบครัว และเพื่อนศิลปิน นักแสดง มาร่วมแสดงความอาลัย ซึ่งการเสียชีวิตของน้าค่อม เป็นข่าวเศร้าที่สะเทือนใจคนไทย เนื่องจากเป็นบุคคลในวงการตลกที่สร้างเสียงหัวเราะ และสีสันให้กับคนไทย
อีกทั้งยังเป็นเคสที่เสียชีวิตจากโควิด-19 ในระยะเวลาการรักษา 18 วัน มีอาการหนัก จนระบบร่างกายล้มเหลว รวมทั้งการจัดงานศพในวันนี้ เป็นไปด้วยความเรียบง่าย มีเจ้าหน้าที่สวมชุด PPE อำนวยความสะดวกและจัดพิธีเผาร่างตามขั้นตอนที่ถูกต้อง มีเพียงลูกและญาติ ร่วมงานเท่านั้น ความสะเทือนใจของการเสียชีวิตจากโควิด-19 ทำให้ไม่สามารถจะอำลาร่างผู้เสียชีวิตได้ จะกอดหรือสัมผัสร่างไม่ได้ แม้แต่จะเปิดหน้าดูครั้งสุดท้าย ก็มีความเสี่ยง ซึ่งทางศบค.ได้เปิดเผย ขั้นตอนในการจัดการร่างผู้เสียชีวิตเอาไว้ด้วยว่า ต้องเคร่งครัด -ขณะที่ลูกสาวน้าค่อม ก็เปิดเผยว่า การจากไปของพ่อ สะเทือนใจมาก แต่เริ่มทำใจยอมรับ ตอนหมอบอกว่าอาการพ่อไม่โอเค ตอนนี้แม่ติดโควิด น้องติดโควิด ต้องรักษาตัว ไม่มีใครได้มางานศพพ่อ มันเลยเศร้ามาก แต่หลังจากนี้ไม่อยากให้พ่อต้องมีห่วง สัญญาว่าจะดูแลแม่ และครอบครัวอย่างดีที่สุด
ล่าสุดทางด้าน “หนุ่ม กรรชัย” เปิดเผยในรายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ด้วยว่า “ได้พูดคุยกับครอบครัวน้าค่อม “ไอซ์ และ แบงค์” ลูกสาวและลูกเขย พยายามอัพเดตอาการน้าค่อมตลอดทราบช่วงเย็นค่ำเมื่อวันที่ 29 เม.ย. 64 ว่า น้าค่อมอาการไม่ดี ให้ยาเยอะมากจนมือเท้าบวมหมดแล้ว และเขียว ภาวะต่าง ๆ ไม่สู้ดีแล้ว ค่าเหลืองตับสูงมาก แพทย์ทำทุกอย่างแล้วทำเต็มที่แล้วยาทุกตัวให้แล้ว อยู่ที่ตัวผู้ป่วยว่าร่างกายจะไหวไหม พูดเป็นนัยกับครอบครัวให้ทำใจว่ายื้อไม่ไหวแล้ว และที่ครอบครัวตกใจมาก คือ ตรวจเจอ 12 เม.ย. วันที่เข้าโรงพยาบาล ครอบครัวถามหมอว่าเชื้อยังอยู่ไหม หมอบอกเชื้อยังอยู่ เลยงงว่า เชื้อโควิดธรรมดาคนอื่นรักษากัน 14 วัน แต่น้าค่อม 19 วัน เชื้อยังอยู่ และปัจจัยที่พบไปเจออีกตัวคือ “แบคทีเรียที่ปอดน้าค่อม” บวกกับปัจจัยหลายอย่าง สุดท้ายไม่มีปาฏิหาริย์เกิดขึ้น”
อย่างไรก็ตามนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้เปิดเผยว่า เสียใจต่อการเสียชีวิตของ นายอาคม ปรีดากุล หรือ น้าค่อม ชวนชื่น ภายหลังติดเชื้อโควิด-19 ว่า การเสียชีวิตของผู้ป่วยไม่ได้เกิดขึ้นจากความประมาทเลินเล่อหรือความตั้งใจของบุคลากรทางการแพทย์ผู้ให้การดูแลผู้ป่วย ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการบริหารจัดการดูแลผู้ติดเชื้อต่างก็เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น บุคลากรสาธารณสุข แพทย์ ทำงานอย่างสุดความสามารถ ให้ความเป็นธรรมกับผู้ป่วยทุกคน แม้เสียใจแต่จะไม่สูญเสียกำลังใจ ต้องเดินหน้าดูแลผู้ป่วยให้ดีขึ้น และหวังว่าสถานการณ์จะดีขึ้นโดยเร็ว