กรมการแพทย์แผนไทยเดินหน้าใช้ฟ้าทะลายโจร!?! ทางเลือกรักษาผู้ป่วยโควิดระยะต้นทั่วประเทศ ลดนำเข้ายาแพง

2704

ท่ามกลางการระบาดโควิด-19 ระลอกใหม่ ข่าวการติดเชื้อและเสียชีวิตเพิ่มขึ้นสร้างความอกสั่นขวัญหายในหมู่ประชาชนอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง และในโซเชียลมีเดียต่างก็มีกระแสยาทางเลือกมากมายเพราะประเทศไทยอุดมสมบูรฺณ์ด้วยพืชสมุนไพร ล่าสุดเรื่องดราม่าสมุนไพรตัวหลัก ฟ้าทะลายโจรกลายเป็นประเด็นถกเถียงอย่างแพร่หลาย และขณะนี้ได้มีการนำมาใช้ในการรักษาอย่างชัดเจนส่งผลให้ราคาในท้องตลาดพุ่งขึ้นจากก.ก.ละ 40 บาทเป็นกว่า 200 บาทในบางพื้นที่

เนื่องจากผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศระลอกใหม่เดือนเมษายนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง กระทรวงสาธารณสุข จึงต้องวางแนวทางในการดูแลรักษาและป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาล การรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมกับ เตรียม “ยาฟาวิพิราเวียร์” ไว้กว่า 4 แสนเม็ด รวมถึงสั่งซื้อเพิ่มอีก 5 แสนเม็ด และสำรองในสต๊อก 3.5 ล้านเม็ด และหลังจากที่กรมการแพทย์แผนไทยฯ ได้ทำการศึกษาวิจัยสรรพคุณ “ฟ้าทะลายโจร” และพบว่าสามารถยับยั้งความรุนแรงของโควิด 19 ในผู้ป่วยระยะต้นมากกว่า 300 รายได้ ทำให้ในขณะนี้ ฟ้าทะลายโจร กลายเป็นอีกทางเลือกในการใช้ทดแทนการนำเข้ายาราคาแพงจากต่างประเทศ 

สมุนไพร “ฟ้าทะลายโจร” เป็นอีกทางเลือกที่ได้รับการยอมรับและนำไปรักษาควบคู่กับแพทย์แผนปัจจุบัน โดยที่ผ่านมา กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ได้ศึกษาวิจัยฟ้าทลายโจรที่มีสารแอนโดรกราโฟไลด์ (Andrographolide) ในผู้ป่วยอาการไม่หนัก จำนวน 309 ราย พบว่า สามารถยับยั้งความรุนแรงของโควิด 19 ได้ แต่ยังไม่สามารถป้องกันโควิดได้

ล่าสุด วันที่ 22 เม.ย 64 กรมการแพทย์แผนไทยฯ ได้จัดพิธีมอบยาฟ้าทะลายโจร เพื่อนำไปใช้สำหรับผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID-19) ในพื้นที่ระบาดทุกจังหวัด ณ กระทรวงสาธารณสุข ปริมาณ 20 มก. จำนวน 6 แสนแคปซูล สำหรับผู้ป่วยกว่า 15,000 ราย แก่หน่วยงานสาธารณสุขทั่วประเทศ เพื่อร่วมรักษาผู้ป่วยติดเชื้อโควิด 19 

ทางด้านคุณสมบัติฟ้าทะลายโจรกับโควิด-19 ทางอภัยภูเบศรออกเคลียร์ชัด หลังโลกโซเชียลแชร์ข้อมูลสร้างความสับสนในสรรพคุณ ได้ยกผลวิจัยมหาวิทยาลัยมหิดล พบสามารถยับยั้งการแบ่งตัวของเชื้อได้ และได้ลงตีพิมพ์ในวารสารต่างประเทศแล้วด้วย

โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ชี้แจงกรณีมีกระแสแชร์ข้อมูลเรื่องฟ้าทะลายโจรในโลกโซเชียล ซึ่งข้อมูลที่มีทั้งจริงและเท็จ สร้างความสับสนในเรื่องของสรรพคุณ โดย ดร.ภญ.สุภาภรณ์ ปิติพร ผู้ช่วยผู้อำนวยการด้านการแพทย์แผนไทยและสมุนไพร กล่าวว่า ในฐานะที่โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร เป็นผู้ให้ข้อมูลเรื่องฟ้าทะลายโจรในการต้านโควิดเป็นคนแรกตั้งแต่เดือนมกราคม 2563 จึงขอไขข้อข้องใจในประเด็นต่างๆ เพื่อความเข้าใจที่ตรงกัน ดังนี้

1.ฟ้าทะลายโจร รักษาโควิด-19 ได้จริงหรือไม่? 

 ดร.ภญ.สุภาภรณ์ กล่าวว่า โควิด-19 เป็นโรคอุบัติใหม่ ไม่มียา หรือ วัคซีนใดที่จะตอบได้อย่างเต็มปากว่ารักษาหรือป้องกันได้จริง แต่จากการวิจัยเอกสารที่มีการทำการศึกษาวิจัยมากมายหลายฉบับทำให้เรามั่นใจว่าฟ้าทะลายโจรมีประโยชน์ในการนำมาใช้กับผู้ป่วยโควิดและได้ส่งมอบเอกสารให้กับทางกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ในการระบาดระลอกแรก จนนำไปสู่การใช้ฟ้าทะลายโจรรักษาผู้ป่วยโควิดรายที่มีอาการน้อยและไม่มีอาการในโรงพยาบาลสังกัด กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งพบว่าผู้ที่มีอาการน้อยหลังจากได้รับยาฟ้าทะลายโจรมีอาการดีขึ้นทุกราย โดยไม่มีผลข้างเคียงแต่อย่างใด ส่วนในรายที่ไม่มีอาการ ก็ไม่พบว่ามีอาการภายหลังและปลอดภัยดี 

 

2.ฟ้าทะลายโจรป้องกันโควิด-19 ได้หรือไม่?

ดร.สุภาภรณ์ กล่าวว่า “ปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานทางวิชาการที่ชัดเจนสนับสนุนการใช้ฟ้าทะลายโจรป้องกันโควิด-19 ได้ แต่มีการศึกษาพบว่าการใช้ฟ้าทะลายโจรขนาดต่ำๆ (แอนโดรกราโฟไลด์ 11.2 มิลลิกรัม/วัน) กิน 5 วัน/สัปดาห์ เป็นเวลา 3 เดือน ช่วยป้องกันหวัดได้

โดยนักวิจัยได้กล่าวถึงผลในการป้องกันหวัดว่า น่าจะเกิดจากฤทธิ์เสริมภูมิคุ้มกัน ซึ่งก็มีงานวิจัยที่สนับสนุนอยู่มากพอควรว่าฟ้าทะลายโจรมีฤทธิ์กระตุ้นภูมิคุ้มกัน ในส่วนตัวเองที่เก็บข้อมูลจากหมอพื้นบ้าน ก็เห็นในช่วงฤดูหนาวชาวบ้านจะกินฟ้ากัน 2-3 ใบทุกวัน สำหรับผู้ประสงค์จะใช้ฤทธิ์เสริมภูมิคุ้มกัน ต้องกินฟ้าทะลายโจรขนาดต่ำๆ  และต้องไม่ตั้งครรภ์ ให้นมบุตร ตับและไตต้องดี ไม่ได้กินยาละลายลิ่มเลือดที่ชื่อวาร์ฟาริน”

3.ใช้ฟ้าทะลายโจร แล้วไม่ต้องฉีดวัคซีนใช่หรือไม่? 

ดร.สุภาภรณ์กล่าวว่า “การฉีดวัคซีนเป็นการเสริมภูมิคุ้มกันที่จำเพาะสำหรับเชื้อโควิด ถึงแม้จะไม่ป้องกันการติดเชื้อได้ 100% แต่อย่างน้อยก็ป้องกันการเจ็บป่วยรุนแรง ลดภาระของระบบบริการสุขภาพได้  การใช้ฟ้าทะลายโจรมีข้อมูลสนับสนุนว่ามีฤทธิ์เพิ่มภูมิคุ้มกันทั้งภูมิคุ้มกันที่มีมาแต่กำเนิดและภูมิคุ้มกันจำเพาะแต่ยังไม่มีการศึกษากับเชื้อโควิดโดยตรง ดังนั้นประชาชนควรฉีดวัคซีน ซึ่งจะเห็นได้จากประเทศอังกฤษที่มีการฉีดวัคซีนกันอย่างกว้างขวางทำให้อัตราการติดเชื้อลดลง”

4.ฟ้าทะลายโจรที่เป็นสารสกัดมีฤทธิ์ดีและปลอดภัยกว่าผงบดหยาบใช่หรือไม่? 

ดร.สุภาภรณ์ กล่าวว่าไม่จริงเสมอไป ขึ้นกับมาตรฐานการผลิตและโรคที่นำไปใช้  ใน Thai Herbal Pharmacopoeia กำหนดไว้ว่า ต้องมีปริมาณแลคโตนรวมไม่น้อยกว่า 6% และแอนโดรกราโฟไลด์ไม่น้อยกว่า 1% ซึ่งในมาตรฐานดังกล่าวใช้สำหรับบรรเทาอาการเจ็บคอและบรรเทาอาการของโรคหวัด (common cold) เช่น เจ็บคอ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ โดยขนาดที่แนะนำ 1500-3000 มิลลิกรัม วันละ 4 ครั้งหลังอาหารและก่อนนอน หรือใช้สารสกัดแอนโดรกราโฟไลด์ก็ได้ ประมาณ 60-120 มิลลิกรัม/วันในการบรรเทาอาการเจ็บคอและหวัด ในส่วนของโควิด-19 ที่มีใช้ในระบบบริการสุขภาพตอนนี้ ก็มีทั้งผงหยาบที่ทราบปริมาณแอนโดรกราโฟไลด์และสารสกัดด้วย