แค่ทำบุญ ยังผิดอีก!? แก๊งสามกีบ รุมจวก “พระนักบุญ” แค่โพสต์ขอบคุณ MK ที่ช่วยเหลืออาหาร เด็กยากไร้ 200 คน!!

3634

หลังจากที่มีกรณีการปั่นกระแสแบนสุกี้ MK หลังจากที่น.ส.อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล หรือเจี๊ยบ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้โพสต์ข้อความระบุว่า เลิกกินร้านเอ็มเค และยาโยอิ แม้จะเป็นร้านโปรดจนกว่าจะเลิกเป็นสปอนเซอร์ให้ช่องทีวีดาวเทียมช่องหนึ่ง

ต่อมาทางด้าน พระครูวิมลปัญญาคุณ ศรีแสงธรรม เจ้าอาวาสวัดป่าศรีแสงธรรม อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี ได้โพสต์ภาพและข้อความ ขอบคุณ MK ที่ได้ช่วยเหลือเด็กยากไร้ เลี้ยงข้าวกลางวันให้เด็ก ๆ ได้อิ่มท้อง โดยระบุข้อความว่า “MK คืนสังคม วันนี้มีประชุมที่จังหวัดแต่เช้าปกติก็ห่อข้าวนั่งฉันมาในรถ

แต่เที่ยวนี้ทาง MK นิมนต์มาฉันที่ร้านและจะรับถวายนมเบอรี่ 100 ลัง หมูกับไก่ 200 กิโลกรัมประจำเดือนเมษายน นอกจากจะบริจาคสร้างห้องสุขาราคาเป็นล้านเพื่อช่วยคนปลดทุกข์ปลดโศกแล้ว ทางคุณยุพิน ธีระโกเมน ยังสนับสนุนการพัฒนาคุณภาพของคนคือบริจาคนมเบอรี่ ที่ผลิตจากมัลเบอรี่ กับอาหารกลางวันสำหรับนักเรียนโรงเรียนศรีแสงธรรมทุกเดือน และทราบว่าบริจาคให้กับหลายโรงเรียน ล่าสุดเห็นขึ้นไปเลี้ยงเด็กกำพร้ากว่า 600 คนที่วัดดอนจั่น จ.เชียงใหม่ ทีมงานบอกว่าไปทุกเดือนเหมือนกับส่งมาที่ โรงเรียนศรีแสงธรรมที่มีนักเรียน 200 คนเช่นกัน

แม้จะเป็นจุดเล็ก ๆ ในสังคมแต่ถ้าทุกคนช่วยเหลือแบ่งปันกันประเทศชาติบ้านเมืองเราจะสงบร่มเย็นน่าอยู่มากขึ้น ใครมีอะไรก็ช่วยเหลือกันคนละไม้คนละมือ มันคือความสวยงามทางน้ำใจแห่งการให้ ผู้ให้ย่อมเป็นที่รักเสมอ ขอบคุณ MK Group คุณยุพิน ธีระโกเมน และครอบครัว mk ทุกท่านที่เป็นตัวอย่างดี ๆ ในสังคมอีกทางหนึ่ง ขออนุโมทนาขอบคุณมา ณ โอกาสนี้”

และได้มีคอมเม้นต์ของกลุ่มม็อบ 3 นิ้ว เข้ามาต่อว่า พระครูวิมลปัญญาคุณ ศรีแสงธรรม ที่ระบุว่า “เขาให้ของบริจาคนิดหน่อย กลายเป็นคนดี ทันทีเลยนะ” ทำให้ทางด้านพระครูวิมลปัญญาคุณ ตอบกลับไปว่า “แม้เพียงข้าว หนึ่งทัพพี พระสารีบุตรก็ยัง ยกย่องพระพุทธเจ้า ยกย่องพระสารีบุตร ความกตัญญูรู้คุณ ถ้าคนรวยแล้วคิดว่านิดหน่อย แต่สำหรับอาตมาเลี้ยงอาหารกลางวันเด็ก 200 กว่าคนฟรีทุกเดือน เป็นเงินที่ต้องจ่ายเยอะมาก พอ MK มาช่วยบริจาคหมูกับไก่ เดือนละ 200 กิโลตั้งแต่ปีที่แล้ว มานี้ทุกเดือนจึงเบาเรื่องค่าใช้ จ่ายลงหน่อย จึงต้องโพสต์ อนุโมทนาขอบคุณความมีน้ำใจ”

อย่างไรก็ตาม สำหรับพระครูวิมลปัญญาคุณ เจ้าอาวาสวัดป่าศรีแสงธรรม อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี หรือหลายคนเรียกท่านว่า “พระอาจารย์” นั้น เป็นพระนักพัฒนา ผู้ก่อตั้ง โรงเรียนเสียดายแดด ตลอดระยะเวลาที่ท่านบวช และจำพรรษาที่วัดแห่งนี้ เหล่าญาติโยมก็มีจิตศรัทธาบริจาคปัจจัยให้อย่างเนื่อง ท่านจึงมอบปัจจัยทั้งหมด และจัดการนำปัจจัยเหล่านี้ไปใช้อะไรให้เกิดประโยชน์แก่สังคมมากที่สุด

เลยทำให้เป็นที่มาของโรงเรียนศรีธรรม โรงเรียนที่จะช่วยสร้างชาติให้เข้มแข็ง โดยโรงเรียนจะเปิดสอนทั้งระดับมัธยมต้นและมัธยมปลาย สายวิทย์-คณิต ในปัจจุบันมีนักเรียนประมาณ 200 คนซึ่งโรงเรียนศรีแสงธรรมจะเน้นหลักการสอน โดยให้นักเรียนได้มีโอกาสลงมือปฏิบัติจริงเพื่อให้วิทยาศาสตร์ใกล้ชิดกับเด็กมากที่สุด เป็นการปลูกว่า “เรียนไปได้ใช้จริง”

ต่อมาในยุคที่รัฐบาลมีการแจกแผงโซล่าเซลล์ขึ้น พระครูวิมล จึงนำแผงโซล่าเซลล์เข้ามามีส่วนร่วมในการเรียนการสอนในห้องเรียน โดยจะพาเด็กนักเรียนรู้ประโยชน์ของโซล่าเซลล์ และสอนเด็กติดตั้งเพื่อใช้ประโยชน์ในโรงเรียน จึงเป็นที่มาของคำว่า “โรงเรียนเสียดายแดด”