นครบาลแจงชัด!! “ครูใหญ่” ปั่นกระแส “สึกพระ” จนท.ทำเกินเหตุ หลังหมู่บ้านคนเถื่อนทะลุฟ้า สร้างความเสียหาย ลักทรัพย์หลวง ทำชาวบ้านเดือดร้อน

หลังจากเมื่อช่วงเช้าวันนี้ (28 มี.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน หรือ อคฝ. 3 กองร้อยได้เข้าขอคืนพื้นที่ หมู่บ้านทะลุฟ้า บริเวณซอยสะพานชมัยมรุเชฐ ข้างทำเนียบรัฐบาล โดยอ้างอำนาจของพรก.ฉุกเฉินฯ โดยให้ให้เวลาประชาชนเก็บของ 3 นาที​ ทั้งยังห้ามไลฟ์สดขณะเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่

โดยหมู่บ้านทะลุฟ้า ได้ปักหลักชุมนุมมาตั้งแต่วันที่ 13 มีนาคม 2564 เพื่อเคลื่อนไหวใน 4 ข้อเรียกร้อง คือปล่อยแกนนำราษฎรและแนวร่วมที่ถูกจับกุม, ร่างรัฐธรรมนูญใหม่, ยกเลิกมาตรา 112, และ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องลาออก

ล่าสุดทางด้าน พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(รอง ผบช.น.) ร่วมกันแถลงข่าว สรุปผลการบังคับใช้กฎหมายขอคืนพื้นที่กับผู้ชุมนุมที่หมู่บ้านทะลุฟ้าข้างทำเนียบรัฐบาลเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ระบุว่า

การบังคับใช้กฎหมาย เนื่องจากกลุ่มผู้ชุมนุมได้ใช้ พื้นที่ถนนพระราม 5 ฝั่งตรงข้ามทำเนียบรัฐบาลริมคลองผดุงกรุงเกษม และการชุมนุมดังกล่าวเป็นการชุมนุมที่ผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ได้แจ้งเตือนหลายครั้ง มีการรุกล้ำพื้นที่สาธารณะ บุกรุกสถานที่ราชการบางส่วน มีการลักทรัพย์ของราชการไม่ว่าจะเป็นไฟฟ้า น้ำประปา ทุบทำลายสิ่งของราชการและประชาชนที่อยู่ในบริเวณดังกล่าวได้รับความเสียหาย มีการต่อท่อสิ่งปฏิกูล ลงพื้นที่คลองพื้นที่สาธารณะ ก่อให้เกิดความสกปรกต่อพื้นที่โดยรวม กีดขวางทางเข้าออกประตูฝั่งพระราม 5 เป็นเหตุให้ประชาชนข้าราชการและผู้ที่ต้องสัญจรไปมาในเส้นดังกล่าวได้รับความเดือดร้อน

ผลจากการปฏิบัติการเจ้าหน้าที่ควบคุมกลุ่มผู้ชุมนุมได้ทั้งหมด 70 คนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน ที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1 จังหวัดปทุมธานี ตามความผิดพ.ร.ก.ฉุกเฉินและพ.ร.บ.ควบคุมโรค นอกจากนี้ยังมีความผิดอื่นๆเช่นพบยาเสพติดกัญชาอัดแท่งจำนวนหนึ่ง

ทั้งนี้เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาล เจ้าหน้าที่ตำรวจพื้นที่ สน.นางเลิ้งได้มีการแจ้งเตือนให้ยุติการชุมนุมมาแล้วหลายครั้งตั้งแต่วันที่ 13 มี.ค. เป็นต้นมา

ส่วนที่มีการเผยแพร่คลิปไปตามโซเชียล และสื่อต่างๆ งั้นขอยืนยันว่าการปฏิบัติการครั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้ให้สื่อมวลชน เข้าร่วมสังเกตการณ์มีเพียงตัวแทนของกลุ่มผู้ชุมนุมจำนวน 2 คนที่นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นในจุดต่างๆ ผู้ที่นำข้อมูลข่าวสาร เฟคนิวส์ ไปโพสต์ข้อความทางโซเชียลขอให้ยุติการกระทำ ณ บัดนี้หากยังมีการส่งข้อความ ทำให้เกิดความเสียหาย ก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองจะมีความผิดตาม พรบ.คอมพิวเตอร์

ด้านพล.ต.ต.จิรพัฒน์ รอง ผบช.น.เปิดเผยว่าการปฏิบัติการครั้งนี้เจ้าหน้าที่ ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนมาโดยตลอด ได้รับความเดือดร้อนเสียงดัง การสัญจรไปมาไม่สะดวก และมีการแจ้งความไว้ที่ สน.นางเลิ้ง หลายครั้ง ต่อมาเจ้าหน้าที่จึงทำการสืบสวนจึงพบว่ากลุ่มผู้ชุมนุมได้มีการลักลอบใช้ไฟฟ้านครหลวง โดยต่อจากเสาไฟฟ้าต้นแรกจากสะพานชมัยมรุเชฐ นอกจากนี้ยังพบว่า มีการสร้างห้องน้ำชั่วคราวจำนวน 5 ห้องต่อท่อสิ่งปฏิกูล ลงไปในท่อระบายน้ำ

การดำเนินการของขอคืนพื้นที่ เจ้าหน้าที่เริ่มต้นเวลา 06:00 น ได้มีการประกาศแจ้งเตือนให้กลุ่มผู้ชุมนุมออกจากพื้นที่ แต่พบว่ามีเพียง 4-5 คนเท่านั้นที่เดินทางกลับ เจ้าหน้าที่จึงจำเป็นต้องขอคืนพื้นที่

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า จากการปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่จากการเข้าขอคืนพื้นที่ครั้งนี้ของเจ้าหน้าที่ให้เวลากลุ่มผู้ชุมนุม 3 นาที พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า ตั้งแต่มีการชุมนุมตั้งแต่วันที่ 13 มีนาคม เป็นต้นมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการประกาศ ให้ออกจากพื้นที่มาแล้วหลายครั้ง ส่วน พระสงฆ์ ที่มาชุมนุมกับกลุ่มผู้ชุมนุมนั้นพบว่าเป็นพระภิกษุสงฆ์จริง จึงได้นิมนต์ไปทำการศึก ก่อนนำตัวไปดำเนินคดี

ในกรณีที่มีการโจมตีการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจทางโซเชียล ยืนยันว่าการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นไปตามขั้นตอนทุกกรณี โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับผู้บังคับบัญชาของกองบัญชาร่วมปฏิบัติการ การโพสต์ข้อความก่อให้เกิดความสับสนก่อให้เกิดความไม่สงบในบ้านเมือง ขอให้ยุติ ขอให้หยุด เพราะจะมีความผิด การปฏิบัติหน้าที่ทุกครั้ง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.มีความห่วงใย โดยให้ยึดหลักนิติรัฐนิติธรรม อยู่ในกรอบของกฎหมาย และให้ดำเนินคดีทุกรายที่ร่วมกันกระทำความผิด

สำหรับการชุมนุมที่สถานีรถไฟฟ้าสถานีอโศกในเย็นวันนี้ว่า ผบช.น.สั่งการให้ ผบก.น.5 และ ผบก.น.6 เตรียมกำลังรับมือไว้กองบังคับการละ 2 กองร้อย และเตรียมกำลังสำรองไว้ 4-6 กองร้อย หากมีการเคลื่อนตัวไปสถานทูตประเทศใด ขอให้คำนึงถึงเกียรติยศของประเทศชาติและประโยชน์ส่วนรวมด้วย

อย่างไรก็ตามพบว่า ในทวิตเตอร์ของ ครูใหญ่ อรรถพล บัวพัฒน์ 1 ในแกนนำราษฎร ได้โพสต์ข้อความระบุว่า “ที่วัดเบญจฯ พระสงฆ์ 2 รูป จากหมู่บ้านทะลุฟ้า ถูกกระชากดึงถอดจีวรแล้ว แต่ท่านไม่ได้สึก ขณะนี้น่าจะกำลังพาตัวไป ตชด.” แต่ยังไม่พบหลักฐานปรากฎว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการกระชากถอดจีวรจริง นอกจากนี้พล.ต.ต.ปิยะ ได้ย้ำชัดแล้วว่า มีการนำตัวพระสงฆ์ไปสึกจริง ก่อนจะดำเนินคดีในการเข้าร่วมชุมนุม และปักหลักหมู่บ้านทะลุฟ้า แต่ทุกอย่างเป็นไปตามหลัก ขั้นตอน ทำให้เห็นว่างานนี้ทางฝั่งม็อบ 3 นิ้ว พยายามที่จะนำเรื่องการสลายหมู่บ้านทะลุฟ้า มาปลุกระดมมวลชนอีกครั้ง