จากกรณีที่เมื่อวานนี้ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้พูดถึงการแก้รัฐธรรมนูญ ผ่านวีดิโอลิ้งก์ ในโครงการ The Change Maker ของพรรคเพื่อไทย รธน.ฉบับนี้มีไว้เพื่อสืบทอดอำนาจ แต่ในทางตรงข้ามกลับทำลายประเทศมหาศาล
ทักษิณ ได้บรรยายในกิจกรรม Boot Camp สัปดาห์ที่ 3 ในหัวข้อ “ชวนคิดใหม่ วางอนาคตเศรษฐกิจไทยในเวทีโลก” โดยช่วงหนึ่งกล่าวถึงรัฐธรรมนูญว่า รธน.ฉบับนี้มีไว้เพื่อสืบทอดอำนาจ แต่ในทางตรงข้ามกลับทำลายประเทศมหาศาล ความน่าเชื่อถือ กระบวนการยุติธรรมของประเทศ ถ้าไม่แก้สิ่งเหล่านี้คงลำบาก เพราะรัฐธรรมนูญ องค์กรอิสระ กระบวนการยุติธรรม เป็นหัวใจสำคัญ การแก้ไขกฎหมายต้องแก้เพื่อประชาชนส่วนใหญ่ อย่าถือเป็นเรื่องเล็ก
บางทีออกกฎหมายมาเพื่อรักษาคณะผู้ปกครอง แบบนี้ไม่ได้ ต้องหาผู้ปกครองที่มาใช้กระบวนการยุติธรรมให้คนในชาติ เพราะคณะผู้ปกครองที่ทำงานอยู่ในขณะนี้ ต้องแก้กฎหมายเพื่อประชาชนส่วนใหญ่ ถ้าแก้เพื่อปกป้องตัวเองอย่างเดียว ทุกอย่างพัง ตามหลักกฎหมายแล้ว และหลักกฎหมายของเราผู้ที่ถูกกล่าวหาเราถือว่ายังบริสุทธิ์ หากคดียังไม่ตัดสินจนถึงที่สุด แต่วันนี้การทำหน้าที่ของกระบวนการยุติธรรมถูกตั้งคำถามจากต่างชาติมาก และที่อ่อนแอและต้องแก้ไขอีกเรื่องคือ ระบบราชการ เพราะข้าราชการวันนี้ทำตัวเป็นนักปกครอง ไม่ได้เป็นนักบริการ รวมถึงเรื่องเทคโนโลยี ต้องคิดว่าจะใช้ประโยชน์จากสิ่งที่เกิดขึ้นได้อย่างไร ถ้ายังมัวแต่ด่าว่าไอ้ห่า อยู่หน้าทำเนียบฯ แบบนั้นไปไม่รอด”
อย่างไรก็ตาม หลายคนมีการตั้งคำถามว่า ก่อนหน้านี้ นายทักษิณ เคยประกาศว่าจะวางมือทางการเมืองอย่างถาวร แต่กลับมาโผล่ในการร่วมกิจกรรมกับพรรคเพื่อไทย และยังมีการพูดถึงการแก้รัฐธรรมนูญ รวมไปถึงกระบวนการยุติธรรมในประเทศไทยด้วย
ย้อนไปเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2564 นายทักษิณ เคยประกาศว่าจะวางมือทางการเมือง โดยมีการพูดถึงเรื่องของการเมืองไทยในปี 2564 ว่า จะยังไม่ไปไหนจนกว่ารัฐธรรมนูญจะได้รับการแก้ไขในวงกว้าง การเมืองเปลี่ยนแปลงได้ การเมืองเปลี่ยนแปลงได้คือรัฐธรรมนูญ อีกทั้ง โครงสร้างการบริหารการจัดการต้องเอื้ออำนวยให้เกิดคนมีคุณภาพเข้ามาทำหน้าที่บริหาร และได้ยืนยันว่า วางมือการเมืองอย่างถาวร อยากกลับบ้านมาเลี้ยงหลาน ยันรักและเคารพสถาบัน
และเมื่อถามว่า คนในตระกูลชินวัตรยังมีผู้นำทางการเมืองหรือไม่ ดร.ทักษิณ ตอบว่า “พอก่อนครับ ต้องร้องเพลงเจ็บนี้อีกนาน” ถามว่า ได้คุยกับ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯหรือไม่ว่าเมื่อไรพร้อมจะกลับมาประเทศไทย ดร.ทักษิณ ระบุว่า “พร้อม ไม่พร้อม ถามว่าคนเราออกไป อยากกลับประเทศไหม ผมอยากกลับมา ผมอยากมาเลี้ยงหลาน 3 คน กำลังจะได้คนที่ 4 เดินหน้า มีความรู้สึกอยากเลี้ยงหลานแล้วแก่แล้ว ไม่ได้คิดอะไรมาก ใครอยากขอคำปรึกษาขอคำแนะนำ ผมมันเป็นอาจารย์เก่า ชอบอธิบาย ชอบสอนคนอยู่แล้ว ทำหน้าที่พวกนี้ได้ การเมืองนั้นแก่แล้ว วัย 72 แล้ว จะไปนั่งเล่นการเมืองอะไรอีก มีแต่ห่วงบ้านเมืองเท่านั้น จะกลับเมืองไทยเมื่อไรนั้น มันไม่ใช่ผมเป็นคนกำหนดครับ”
อย่างไรก็ตาม หลายคนมองว่า การที่ทักษิณออกมาเคลื่อนไหวในกิจกรรมของพรรคเพื่อไทยนั้น เป็นการสะท้อนให้เห็นว่า การที่ทักษิณได้ออกมาประกาศว่าละไม่ยุ่งการเมืองกว่า 7 ครั้งที่ผ่านมานั้น เป็นเพียงวาทกรรมหลอกลวง ตระบัดสัตย์ เพราะทักษิณ ยังคงเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการบริหารจัดการพรรคเพื่อไทย?