คมนาคมเมินปปช.ค้านเทอร์มินัล2 “ตัดแปะ”?!? อ้างครม.ไม่สั่งเบรค ยันเดินหน้าสร้างแน่ ระวังฝ่าฝืนมติครม.??

1950

ในการประชุมครม.ครั้งล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ป.ป.ช.ได้ทำข้อเสนอแนะทักท้วงเรื่องความไม่เหมาะสมสร้างเทอร์มินัล2 “ตัดแปะ” เสนอให้พิจารณา ซึ่งครม.รับทราบ ไม่มีข้อโต้แย้งนั่นคือเห็นด้วยกับข้อเสนอของปปช. ให้ ทอท.เร่งสร้างอาคารผู้โดยสาร “สุวรรณภูมิ” ตามแผนแม่บทเดิม เฉพาะส่วนต่อขยายตะวันออก-ตะวันตก และขอให้รับคำแนะนำ สศช.ให้ขยายทุกอาคารให้เต็มศักยภาพ ก่อนสร้างอาคารทิศเหนือ เทอร์มินัล2 “ตัดแปะ”ที่ต้องใช้งบฯมาก ตลอดจนมีหลุมจอดน้อยรับคนได้ไม่มาก แต่ทั้งหมดนี้ไม่สามารถเปลี่ยนความคิดของกระทรวงคมนาคม ยังให้สัมภาษณ์ยืนยันจะสร้างเทอร์มินัล2 “ตัดแปะ”รวมไปกับโครงการอื่นทีเดียว 3 โครงการโดยอ้างว่าครม.ไม่ได้สั่งเบรค 

เมื่อวันที่ 23 มี.ค.2564 นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบข้อเสนอแนะเพื่อป้องกันการทุจริต กรณีศึกษา โครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระยะที่ 2 กรณีการก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศเหนือ (North Expansion) ตามที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) เสนอ 

แต่ปัญหาเรื่อง เทอร์มินัล2 “ตัดแปะ” หรืออาคารผู้โดยสารทิศเหนือนี้ยังไม่จบ ถึงขั้นนี้แล้วกระทรวงคมนาคม และท.อ.ท.ยังยืนยันจะสร้างให้ได้ เรื่องนี้ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ ได้ออกมาเตือนผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัวอีกครั้งให้ระวังผลที่จะตามมาดังนี้:

ยังดื้อ!

แม้ ครม.เห็นชอบข้อเสนอแนะ ป.ป.ช.

“ไม่เอา” เทอร์มินัล 2 ตัดแปะ

ในที่สุดการประชุม ครม.เมื่อ 23 มี.ค.64 ในวาระเพื่อทราบ (หากไม่มีข้อทักท้วงให้ถือเป็นเรื่องที่ ครม.เห็นชอบ/อนุมัติ) เรื่อง “ข้อเสนอแนะเพื่อป้องกันการทุจริต กรณีศึกษาโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระยะที่ 2 กรณีการก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศเหนือ (North Expansion)” ปรากฏว่า ครม.ไม่มีข้อทักท้วงข้อเสนอแนะของคณะกรรมการ ป.ป.ช. จึงถือว่า ครม. “เห็นชอบหรืออนุมัติ” ตามที่ ป.ป.ช.เสนอแนะ ซึ่งไม่เอาเทอร์มินัล 2 ตัดแปะหรือส่วนต่อขยายด้านทิศเหนือ

ทั้งนี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีข้อเสนอแนะให้ ทอท.ดำเนินการดังนี้

  1. เร่งขยายเทอร์มินัล 1 ด้านทิศตะวันออก ตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2553 รวมทั้งขยายด้านทิศตะวันตกด้วย เพื่อให้สนามบินสุวรรณภูมิสามารถรองรับผู้โดยสารได้ 75 ล้านคนต่อปี
  2. ดำเนินการตามข้อเสนอแนะของสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติหรือสภาพัฒน์ที่ให้ขยายด้านทิศตะวันออกและทิศตะวันตก ตามด้วยก่อสร้างเทอร์มินัล 2 ด้านทิศใต้ใกล้ถนนบางนา-ตราด เพื่อให้สนามบินสุวรรณภูมิสามารถรองรับผู้โดยสารได้ 120 ล้านคนต่อปี เป็นลำดับแรกก่อน แล้วจึงนำส่วนต่อขยายด้านทิศเหนือมาพิจารณาว่ายังคงมีความจำเป็นอีกหรือไม่

แต่คล้อยหลังการประชุม ครม.ไม่นาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมให้สัมภาษณ์ว่า “ได้รายงานในที่ประชุม ครม.วันนี้ว่า จะทำส่วนต่อขยายด้านทิศตะวันออกและทิศตะวันตกไปพร้อมๆ กับส่วนต่อขยายด้านทิศเหนือ…” และ “เราพร้อมรับฟังทุกความเห็น แต่มองว่าความเห็นของ ป.ป.ช.ก็ไม่ได้ขัดแย้งกับสิ่งที่กระทรวงฯ จะดำเนินการ เพราะเรายังยืนยันที่จะขยายด้านทิศเหนือ…”

 

อ่านคำสัมภาษณ์แล้ว ช่วยพิจารณาดูว่า ขัดแย้งกับข้อเสนอแนะของ ป.ป.ช.หรือไม่? ที่สำคัญ ครม.มีมติเห็นชอบหรืออนุมัติตามข้อเสนอแนะของ ป.ป.ช. ซึ่งไม่เอาเทอร์มินัล 2 ตัดแปะ

จึงต้องติดตามกันต่อไปว่าจะมีใครกล้าเสี่ยงคุกเสี่ยงตะรางฝ่าฝืนข้อเสนอแนะของ ป.ป.ช.ที่ไม่เอาเทอร์มินัล 2 ตัดแปะ บ้าง!

ดร.สามารถฯ ยังกล่าวสรุปไว้ว่า ข้อสงสัยและข้อสังเกตดังกล่าวข้างต้นเป็นข้อกังขาที่ผมและประชาชนทุกคนชอบที่จะต้องขอคำชี้แจงให้สิ้นสงสัย จากหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรง ทั้งนี้ก็เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน ด้วยเจตนาที่จะให้ประชาชนได้รับประโยชน์จากโครงการนี้อย่างเต็มที่ โดยปราศจากข้อสงสัยใดๆ ทั้งสิ้นเท่านั้นเอง

มาดูสาระที่ปปช.เสนอต่อคณะรัฐมนตรี กรณีการก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศเหนือ (North Expansion) เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณานั้น มีข้อสังเกตทักท้วงที่มีน้ำหนักว่า 

การก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศเหนือยังไม่ได้เริ่มออกแบบและจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม และจะต้องใช้งบประมาณสูงถึง 42,000 ล้านบาท 

-ขณะที่การก่อสร้างส่วนขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศตะวันออกและทิศตะวันตกใช้งบประมาณเพียง 12,000 ล้านบาท แต่สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 30 ล้านคนต่อปีเท่ากัน 

-อีกทั้งความสามารถในการรองรับผู้โดยสารของส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศเหนือจำนวน 30 ล้านคนต่อปีนั้น อาจไม่สอดคล้องกับจำนวนหลุมจอดอากาศยาน นอกจากนี้ 

-การก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศเหนือเป็นการเพิ่มภาระให้ผู้โดยสารโดยไม่จำเป็นและทำให้ผู้โดยสารเกิดความสับสนเนื่องจากจะต้องนั่งรถไฟเพื่อเดินทางระหว่างอาคารถึง 3-4 ต่อ และทำให้ปริมาณการสัญจรบนทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 กรุงเทพ-ชลบุรี (มอเตอร์เวย์) เกิดความติดขัด เพราะอาคารผู้โดยสารขนาดใหญ่ตั้งอยู่รวมกันเพียงด้านเดียว ทำให้ผู้โดยสารต้องเผื่อเวลาในการมาสนามบินมากขึ้น

ปปช.แจงชัดอย่างนี้ยังไม่รับฟัง โดยกระทรวงคมนาคมมุ่งมั่นมากว่า อย่างไรก็จะสร้างเทอร์มินัล2 “ตัดแปะ”ให้ได้  เมื่อกล้าทำก็คงต้องกล้ารับผิดชอบผลที่จะตามมา?? และเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ผลแห่งการตัดสินใจของกระทรวงคมนาคมในครั้งนี้!