จากกรณีที สมาคมนักศึกษาเก่ามหาวิทยาลัยศิลปากร ได้ออกแถลงการณ์ สมาคมนักศึกษาเก่ามหาวิทยาลัยศิลปากร เรื่อง จุดยืนของสมาคมฯ ต่อเหตุการณ์ ที่คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
กรณีทีคณาจารย์และคณบดี ได้เก็บยึดผลงานศิลปะพาดพิงของนักศึกษา เนื่องจากพบธงดัดแปลงและหมิ่นเหม่ในการผิดต่อข้อกฎหมาย
โดยระบุว่า เนื่องด้วยสมาคมฯ ได้รับจดหมายเปิดผนึกร้องเรียนต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ที่คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ว่ามีการสั่งการจากคณบดี ให้เจ้าหน้าที่ของคณะ ยึดและทิ้งงานศิลปะของนักศึกษาเหตุการณ์ดังกล่าว ได้ส่งผลกระทบในวงกว้างและเป็นที่ถกเถียงในโลกออนไลน์และนำมาซึ่งการตั้งคำถาม ต่อสิทธิเสรีภาพของศิลปิน ในการสร้างงานศิลปะ
นายกฯ และคณะกรรมการบริหารสมาคมนักศึกษาเก่ามหาวิทยาลัยศิลปากร รู้สึกไม่สบายใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องด้วยมหาวิทยาลัยของเรา เป็นแหล่งบ่มเพาะศิลปินที่มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนาน และเราตระหนักว่า หัวใจและจิตวิญญาณของศิลปิน คือสิทธิเสรีภาพในการแสดงออก
สมาคมนักศึกษาเก่ามหาวิทยาลัยศิลปากร ขอเรียกร้องให้คณบดีวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในฐานะที่เป็นนักศึกษาเก่า และเคยได้รับรางวัลนักศึกษาเก่าดีเด่น โปรดพิจารณาการกระทำของท่าน และเรียกร้องไม่ให้มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก
สมาคมนักศึกษาเก่ามหาวิทยาลัยศิลปากร ขอยืนหยัดในจุดยืน ที่จะรักษาสิทธิเสรีภาพในการสร้างสรรค์งานของศิลปิน ดุจปณิธานของท่านอาจารย์ศิลป์ พีระศรี ที่กล่าวว่า “นายต้องเรียนรู้ความเป็นมนุษย์ก่อน แล้วจึงเรียนศิลปะ”
ล่าสุด นางดลฤดี จูฑะศรี ศิลย์เก่า มัณฑนะศิลป์ รุ่น ๘ หนึ่งในผู้ก่อตั้งสมาคมนักศึกษาเก่ามหาวิทยาลัยศิลปากร ได้โพสต์ข้อความระบุว่า
“แถลงการณ์ของสมาคมนักศึกษาเก่ามหาวิทยาลัยศิลปากร ข้อความที่กล่าวมาทั้งหมดนั้น ยังไม่เป็นที่ยอมรับ
ในฐานะที่ดิฉันเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งสมาคมนักศึกษาเก่ามหาวิทยาลัยศิลปากร เห็นข้อความย่อหน้าแรกก็แน่ใจว่าเป็นการออกแถลงการณ์แบบฟังความข้างเดียว ดิฉันได้เห็นเอกสารเล่าเหตุการณ์จากผู้เห็นเหตุการณ์ในโพสต์เฟซบุ๊ค และได้ดูคลิปจากข่าวมากกว่าสองครั้ง
แม้ว่าอาจารย์ที่อ้างว่าเป็นเจ้าของทรัพย์สิน เจ้าของงานศิลปะชิ้นนั้นจะเป็นผู้ได้รับการยกย่องเช่นไรก็ตาม หากสมาคมจะอ้างคำของท่านศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี ควรถามรุ่นพี่ที่เคยเรียนกับท่านเสียก่อนว่า ทัศนคติต่องานศิลปะกับสังคมนั้นท่านอาจารย์ศิลป์เห็นเช่นไรควรออกมาในแนวทางใด และตัวศิลปินควรมีบทบาทเช่นไรต่อสังคม
“ศิลปะยืนยาว ชีวิตสั้น” เป็นคติคำสอนสั้นๆของท่านศาสตราจารย์ศิลป พีระศรี ซึ่งนักศึกษามหาวิทยาลัยศิลปากรทุกคนจำขึ้นใจ ด้วยความซาบซึ้ง เพราะในคตินี้มีการเรียนรู้ความเป็นมนุษย์ซึ่งพร้อมด้วยการขัดเกลากายและจิตแล้ว
ศิลปะเป็นสิ่งจรรโลงสังคม ยึดโยงสังคมที่อาจจะคิดต่างกันแต่มีความชื่นชม ซาบซึ้งในสิ่งเดียวกันได้ และหลอมรวมทัศนคติต่อความงามและ
เนื้อหาให้เกิดประโยชน์แก่สังคม รวมทั้งการรู้จักและเข้าใจความเป็นมนุษย์ของมนุษย์อื่นๆซึ่งแวดล้อมตนอยู่ด้วย หากต้องการความเป็นปัจเจกบุคคลก็เป็นสิทธิ์ของตน แต่ต้องไม่ล่วงล้ำสิทธิหน้าที่ของบุคคลอื่นๆ
ดังนั้น จึงไม่ยอมรับแถลงการณ์และวัตถุประสงค์ของนายกสมาคมและกรรมการสมาคมนักศึกษาเก่าศิลปากรฉบับนี้ ซึ่งอาจจะมีความจริงไม่พอกับข้อเท็จจริง
อนึ่ง เพราะเห็นว่า “ศิลปะยืนยาว ชีวิตสั้น” งานศิลปะทุกสาขาจึงไม่ควรเป็นสัญญลักษณ์บั่นทอนความคิดและความสุขในชีวิตของใครๆทั้งสิ้น
ด้วยความนับถือ
นางดลฤดี จูฑะศรี
มัณฑนะศิลป์ รุ่น ๘”
ขณะเดียวกันเพจเฟซบุ๊ก ธรรมศาสตร์พิทักษ์ธรรมได้โพสต์ข้อควมถึงกรณีแถลงการณ์ของสมาคมนักศึกษาเก่ามหาวิทยาลัยศิลปากรเช่นกัน โดยระบุข้อความว่า