จากกรณีที่ก่อนหน้านี้นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หนึ่งในแกนนำได้ประกาศอดอาหาร เพื่อประท้วงที่ศาลไม่ให้ประกันตัว ซึ่งทำให้มีข้อวิพากษ์วิจารณ์ถึงสุขภาพของแกนนำ แต่ทางเรือนจำไม่สามารถอำนวยความสะดวกในการเผยแพร่ภาพถ่ายผู้ต้องขังในเรือนจำสู่สาธารณะได้ จากระเบียบราชทัณฑ์
ล่าสุดเมื่อ เวลา 13.00 น. ที่กระทรวงยุติธรรม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มแกนนำได้เขียนจดหมายว่าถูกทำร้ายในเรือนจำว่า จากระเบียบราชทัณฑ์ไม่อำนวยความสะดวกในการเผยแพร่ภาพถ่ายผู้ต้องขังในเรือนจำสู่สาธารณะได้ ซึ่งเราอยากพิสูจน์ให้ประชาชนที่สนใจเรื่องดังกล่าวเห็นว่า กลุ่มแกนนำมีสุขภาพแข็งแรง ปลอดภัย แม้บางคนจะอดข้าว แต่ก็ไม่อดน้ำ อดนม น้ำหนักลงไปเล็กน้อยก็เป็นเรื่องปกติ
โดยเบื้อต้นยังไม่พบพฤติกรรมเลียนแบบกรณีการอดข้าวจากแกนนำราษฎรคนอื่น ดังนั้นจึงมอบหมายให้ปลัดกระทรวง อธิบดีราชทัณฑ์กลับไปพิจารณาศึกษาแก้ระเบียบดังกล่าว เพื่อเผยแพร่รูปภาพให้สังคมได้รับทราบได้หรือไม่ ทั้งนี้การโพสต์ข้อความและรูป หากเป็นการใส่ร้ายให้ราชการต้องเสื่อมเสียเราก็ต้องรักษาสิทธิในการกล่าวโทษ ร้องทุกข์ และดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
นายสมศักดิ์ กล่าวชี้แจงเรื่องการตรวจโควิด-19 ในเรือนจำว่า ปกติไม่ได้มีการตรวจโควิด-19 ประจำ เพราะมีอุปกรณ์ในการตรวจเพียง 16,000 ชุด แต่หากมีเหตุการณ์สำคัญ หรือจำเป็น ก็ต้องตรวจ แต่ในวันที่ 15 มี.ค. มีผู้ต้องขังย้ายมาจากเรือนจำพิเศษธนบุรี ซึ่งเป็นเรือนจำพื้นที่เสี่ยงใกล้กับเขตบางแค 3 คน มาอยู่ร่วมกับผู้ต้องขังที่เป็นแกนนำกลุ่มราษฎร 4 คน และผู้ต้องขังทั่วไปที่มาจากศาลอาญา 9 คน ซึ่งกลุ่ม 9 คนยอมให้ตรวจ ขณะที่แกนนำ 7 รายไม่ยอมแยกออกจากกัน อีกทั้งไม่ให้ตรวจเชื้อ จึงจำเป็นต้องย้ายออกจากผู้ต้องขังที่ตรวจเชื้อแล้ว โดยในขณะนี้ก็ยังไม่ได้รับความร่วมมือ
“สิ่งเหล่านี้ แม้จะเป็นสิทธิส่วนบุคคล แต่หากเป็นความมั่นคงภายในเรือนจำก็ต้องปฏิบัติ หากไม่ตรวจเกรงว่าจะมีการติดเชื้อ และแพร่กระจายสู่ผู้ต้องขังคนอื่น โดยผู้ต้องขังกลุ่มเสี่ยงจำเป็นต้องตรวจหาเชื้อ ซึ่งการเตรียมเครื่องมือในการตรวจ ต้อฃใช้เวลานาน เนื่องจากไม่ได้มีการตรวจโควิดทุกวัน อีกทั้งหมอที่ให้การตรวจ และเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปในเรือนจำก็เป็นข้าราชการทั้งสิ้น อย่างไรด็ตามวันพรุ่งนี้ (20 มี.ค.) ผมจะเรียกประชุมผบ.เรือนจำทั่วประเทศ ผ่านวีดีโอคอนเฟอร์เร้นท์กำชับให้ระมัดระวังการทำงานโดยเฉพาะการดูแลผู้ต้องขัง 24 ชม.เพื่อไม่ให้เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นอีก “นายสมศักดิ์ กล่าว
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า เบื้องต้นคณะกรรมาธิการป.ป.ช.ได้เชิญตน พร้อมผู้บริหาร กระทรวงยุติธรรมเข้ามาให้ข้อมูลในเรื่องดังกล่าว แต่เมื่อศึกษารัฐธรรมนูญมาตรา 129 แล้ว เห็นว่าเรื่องดังกล่าวมีคดีอาญาเข้ามาเกี่ยวข้อง จึงไม่มั่นใจว่ากมธ.จะเรียกสอบสวนได้มากน้อยแค่ไหน.