จากกรณีที่ช่วงสายของวันนี้ ที่ 17 มี.ค.64 นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนกล่าวถึงกรณี นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน แกนนำราษฎร ที่ประกาศอดอาหาร
โดยนายกฤษฎางค์ ระบุว่า ขณะนี้เข้าสู่วันที่ 3 ในการอดอาหารแล้ว ซึ่งสภาพร่างกายค่อนข้างอ่อนเพลีย ไม่มีแรง ส่วนกรณีที่หลายคนมองว่าการที่เพนกวินอดอาหารเป็นกลยุทธ์ไปอยู่โรงพยาบาลนั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขอปล่อยตัวชั่วคราว เพราะเพนกวินต้องการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง
เมื่อถามถึงกรณีมวลชนนำโดยนายชินวัตร จันทร์กระจ่าง หรือไบร์ท แกนนำราษฎรนนทบุรี จะเดินทางมาทำกิจกรรมที่ศาลอาญาวันนี้ นายกฤษฎางค์ กล่าวว่า ยังไม่ทราบเรื่อง แต่ถ้าเป็นการพิจารณาอย่างเปิดเผย ก็จะขอให้มวลชนเข้าไปร่วมรับฟังอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย
ขณะเดียวกัน ทางด้าน ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีรัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยธ.มีคำสั่งตั้งคณะทำงานเพื่อประมวลข้อเท็จจริงและชี้แจงในประเด็นการดูแลแกนนำราษฎรและกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองที่อยู่ในเรือนจำหลายคนขณะนี้ เพื่อได้ตรวจสอบและสื่อสารทำความเข้าใจต่อสังคม ไม่ให้มีประเด็นเกิดข้อสงสัย โดยมีนายวัลลภ นาคบัว รองปลัดกระทรวงยุติธรรมเป็นประธาน โดยมีผู้บริหารกรมราชทัณฑ์และผู้บัญชาการเรือนจำเป็นกรรมการ ซึ่งในช่วงบ่ายนี้เวลา 15.00 น.จะมีการประชุมและแถลงจัดตั้งคณะทำงานฯดังกล่าว
โดยว่าที่ ร.ต.ธนกฤต กล่าวว่า เมื่อช่วงเย็นวันที่ 16 มี.ค.64ได้เข้าไปตรวจเยี่ยมกลุ่มผู้ต้องขังแกนนำราษฏร ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพ จากการสอบถามก็ปกติปลอดภัยดี และนายอานนท์ นำภา ยังบอกด้วยว่าเข้าใจการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ที่ต้องสอบถามตรวจคัดกรองโควิด19เพื่อไม่ให้เกิดการระบาดในเรือนจำ ซึ่งตนยืนยันมีคลิปการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นไปตามมาตรการสาธารณสุข โดยรองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ที่เข้าไปพบในวันดังกล่าวที่แกนนำระบุกลัวถูกอุ้ม ก็เป็นแพทย์ จึงขอยืนยันว่าเรือนจำดูแลตามมาตรฐานเหมือนกันทุกคน เพื่อให้เกิดความปลอดภัยจากโรคระบาด แต่ผู้ต้องขังกลุ่มแกนนำไม่ยอมให้สว้อฟ ตรวจหาเชื้อเพราะเพิ่งย้ายเรือนจำมา จึงแยกขังจากกลุ่มที่เต็มใจให้ตรวจหาเชื้อ อย่างไรก็ตามทั้งหมดยังถูกคุมขังที่แดนกักโรคที่ต้องตัดกรองก่อน14 วัน
เลขาฯรมว.ยธ. กล่าวถึงกรณีนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน จะอดอาหารประท้วง ทราบว่าเขากำลังเริ่มอดอาหาร แต่ดื่มนม น้ำหวานและเกลือแร่แทน ซึ่งได้เข้าไปพูดคุยแล้วถือว่าร่างกายยังแข็งแรงดีพูดคุยได้ตามปกติ โดยได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ดูแล และเตรียมความพร้อมของแพทย์ หากพบว่ามีปัญหาสุขภาพก็สามารถย้ายตัวนายเพนกวินไปที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ได้ เพราะอยู่ใกล้รั้วเดียวกับเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ซึ่งตามปกติโรงพยาบาลของกรมราชทัณฑ์เตรียมความพร้อมสำหรับการเจ็บป่วยของผู้ต้องขังทุกคนตลอด 24 ชั่วโมงอยู่แล้ว แต่นี่เป็นผู้ต้องขังคดีการเมืองที่สำคัญจึงต้องกำชับให้ดูแลให้ดี
นอกจากนี้ให้เรือนจำปรับปรุงกล้องวงจรปิดภายในแดนขัง ให้ใช้งานได้สมบูรณ์ในทุกมุม เพื่อให้เกิดความสบายใจทุกฝ่าย